รูปนี้หล่อล้ำเลยพี่.. J

น้ำใสเหลือเกิน

ขุนเขาตระการตาอยู่เป็นฉากหลัง

ในที่สุดก็มาถึง ทะเลสาบพันกอง

ทะเลสาบพันกอง (Pangong Lake) มีความยาวถึง 40 ไมล์ และกว้าง 2-4 เป็น ทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงสุดในโลกคือ มีความสูงถึง 14,256 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ความงามของทะเลสาบที่มีภูเขาสูงเป็นฉากหลัง ทางการเพิ่งเปิดให้ นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อไม่นานมานี้ น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีสีสันที่งดงามมาก โดยเฉพาะในช่วงเย็นน้ำจะมีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนในช่วงเช้าจะมีสีที่อ่อนกว่าและพื้นที่ 75% ของทะเลสาบอยู่ในดินแดนของจีน อีก 25% อยู่ในเขตของประเทศอินเดีย

รถแล่นออกจากบริเวณ ชางลา (Chang La Pass) ลัดเลาะหุบเขามุ่งหน้าสู่ทะเลสาบพันกอง ระหว่างทางเราได้เห็นเจ้าสิ่งนี้

สวยจริงๆๆๆ

เรามาถ่ายรูปคู่ "วันแรมทาง" กันอีกดีกว่า

ที่ระลึกอีกแล้ว .. กลัวเพื่อนๆหาว่าโม้.. J

ชางลา (Chang La Pass) เส้นทางรถยนต์ซึ่งอยู่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ถนนเส้นนี้อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล ถึง 17,800 ฟิต หรือประมาณ 5,438 เมตร 

อยู่ระหว่างทางที่จะไปสู่ทะเลสาบพันกอง

ถึงแล้วจ้า ..

ชางลา (Chang La Pass) เส้นทางรถยนต์ซึ่งอยู่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก

เอาใหม่ ดูกันชัดๆ มันน่ารักดี

แพะภูเขา ทั้งที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ หรือแพะภูเขาตามธรรมชาติ ก็มีให้เห็นมากเช่นกัน

ฝูงจามรี หรือ ตัว yak ก็ยังมีให้เห็นอยู่มากมาย สองข้างทางที่มุ่งหน้าสู่ทะเลสาบ

เส้นทางเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อากาศก็หนาวขึ้นอีกคร้ง

ลืมบอกไปว่า เมืองเลห์ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3,520 เมตร จากระดับน้ำทะเล ต่ำกว่าจุดท่องเที่ยวต่างๆที่เราเดินทางกันไปรอบๆตัวเมือง อยู่ในเมืองว่าหนาวแล้ว ออกนอกเมืองยิ่งหนาวทรมานกว่าเยอะเลย

กินอิ่มนอนหลับ ตื่นเช้ามาเราก็ไปเที่ยวต่อกันที่ ทะเลสาบพันกอง

ทะเลสาบพันกอง (Pangong Tso) ระยะทางถึงทะเลสาบประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง เส้นทางนี้จะวิ่งผ่าน ชางลา (Chang La Pass) เส้นทางรถยนต์ซึ่งอยู่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก

ว่าแล้วก็เดินไปซื้อผัก ทำกับข้าวเย็นกินกันดีกว่า J

กลับโรงแรมแวะถ่ายรูปกับเจ้าของโรงแรมเสียหน่อย เป็นครอบครัวที่น่ารักดี

เรากลับมาถึงตัวเมืองค่อนข้างเร็ว ก็เลยแวะถ่ายรูปที่ Leh Gate ประตูเมืองเลห์ เป็นที่ระลึก

ขาลงจาก Khardung La  เก็บภาพมาฝากอีกสักหน่อย แต่แดดเริ่มแรง ถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเหมือนช่วงเช้าแล้ว

รูปคู่ "วันแรมทาง"

ณ Khardung La  สวย สวย.. เกินบรรยายอีกแล้ว

ถนนเส้นนี้อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล ถึง 18,380 ฟิต หรือประมาณ 5,615 เมตร 

ใช้เวลาสองชั่วโมงจากตัวเมืองเลห์ เราก็ไปถึง Khardung La 

เต็มอิ่มกับโปรแกรม Sight-seeing เรากลับมากินข้าวเย็นกันที่โรงแรม แล้วรีบอาบน้ำพักผ่อนกัน พรุ่งนี้เช้าเราจะไปเที่ยวกันต่อที่ Khardung La  ถนนที่ได้ชื่อว่าเป็นถนนเส้นที่อยู่สูงที่สุดในโลก

เราตื่นกันสายหน่อยเพราะมีเวลามากพอ เส้นทางที่มุ่งไปสู่ Khardung La  สวยงามมาก เพราะเราต้องขึ้นสูงไปเรื่อยๆ จึงมองเห็นแนวเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมได้อย่างชัดเจน

วิวของเมืองเลห์ มองจาก Shanti Stupa

ต่อจากวัดสังคา (Sanga)  เราไปที่ Shanti Stupa ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเลห์ประมาณ 2 กิโลเมตร Shanti Stupa เป็นเจดีย์สันติภาพที่สร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นและมีการทำพิธีเปิดโดยองค์ดาไลลามะ เมื่อปี ค.ศ. 1985 ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นตัวเมืองเลห์ได้อย่างชัดเจน