|
สังเวชนียสถาน 23-29 ตุลาคม 2550 | |
วันแรมทาง |
ทริปเดินทาง 23-29 ตุลาคม 2550 รายชื่อผู่ร่วมทาง 1. ปลา (ทีมงานวันแรมทาง) 2. นุ้ย (ทีมงานวันแรมทาง) 3. พี่แมว (36 ปี) 4. น้องพลอย (25 ปี) 5. คุณหมอเม้ง (34 ปี) 6. คุณหมอกว้าง (34 ปี) 7. พี่สุนัย (50 ปี) 8. คุณอาอุดม (55 ปี) 9. คุณย่าศินิ (แม่คุณอาอุดม) (85 ปี) 10. คุณลุงสุพจน์ (62 ปี) 11. คุณน้านิชานันท์ (52 ปี) 12. คุณยายไสว (82 ปี) 13. คุณยายสวิง (78 ปี) 14. น้องมด (25 ปี) 15. น้องมิลค์ (23 ปี) 16. คุณแม่รุ่งรัตน์ (แม่น้องมด&มิลค์) (61 ปี) 17. คุณตาไพจิตร (69 ปี) หมายเหตุ- ขออนุญาตระบุอายุนะคะ ทริปนี้เราหลากหลายวัยดีจัง เหมือนพาครอบครัวไปเที่ยวอีกแล้ว.. |
ผู้ตั้งกระทู้ วันแรมทาง :: วันที่ลงประกาศ 2007-10-31 12:20:27 IP : 58.9.33.70 |
ความคิดเห็นที่ 52 (834967) | |
ploy_manee | วันที่ 27 ต.ค. รู้สึกว่าการเดินทางของพวกเราจะเลื่อน การสักการะสังเวชนียสถานในแต่ละที่ไม่ตรงตามกำหนด แต่ไม่เป็นปัญหา เช้าวันนี้ พวกเราเดินทางมายัง ปรินิพพานสถาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน กุสินารา |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 21:25:26 IP : 124.157.204.19 |
ความคิดเห็นที่ 51 (834573) | |
ploy_manee | ภายในวิหารวัดไทยลุมพินี พระอาจารย์เล่าว่า เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะประสูติและดำเนินได้ 7 ก้าว ได้ชี้นิ้วขึ้นข้างบนพร้อมตรัสว่า เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก นี่คือพระพุทธรูป Baby buddha ของแท้มีที่วัดไทยลุมพินีที่เดียวเท่านั้น มีสองประเภท คือ สีทอง ราคา 10,000 บาทและ สีดำทำจากเรซิน ราคา 1000 บาท เราบูชาสีดำมา 1 องค์ นี่ไง อยู่ทางขวามือ สวยไม่แพ้สีทอง Baby Buddha สื่อให้เห็นว่า เราได้มาถึงดินแดนประสูติแล้ว เหมือนเราได้เกิดใหม่แล้ว เกิดมาอยู่ในดินแดนพุทธภูมิ เกิดมาทำแต่กรรมดีตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน ให้เจริญรอยตามพระพุทธบาท แล้วจะไม่หลงทาง จะมีแต่ความเจริญในชีวิต |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 11:17:12 IP : 117.47.142.23 |
ความคิดเห็นที่ 50 (834558) | |
ploy_manee | วัดไทยลุมพินีที่ประเทศเนปาล เคยเห็นแต่ในภาพคราวนี้เรามาเห็นกับตาตัวเองแล้ว สวยงามดุจเพชร สีขาวล้วน ภายในวิหาร มีพระพุทธรูป Baby Buddha ให้บูชาด้วย |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 10:56:10 IP : 117.47.142.23 |
ความคิดเห็นที่ 49 (834534) | |
ploy_manee | เข้าไปดูข้างในมหามายาเทวีวิหารกัน ภาพทางขวามือนี้ คือ ภาพหินแกะสลัก พระนางมหาสิริมหามายาเทวีอยู่ในอิริยาบถยืน พระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งไม้สาละ มีรูปเจ้าชายสิทธัตถะกุมารออกมาทางปัสสะขวาของพระพุทธมารดา ภาพทางซ้าย คือ รอยพระบาทของเจ้าชายสิทธัตถะกุมารขณะประสูติ Mark stone : : The exact birth place of buddha |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 10:25:57 IP : 117.47.142.23 |
ความคิดเห็นที่ 48 (834519) | |
ploy_manee | หลังจากที่พระอาจารย์ นำสวดมนต์บูชาสถานที่ประสูติแล้ว ก็ได้เวลาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย แล้วค่อยเดินชมบริเวณรอบๆ มีทั้งนักบวช และทิวธงหลากหลายสีสันสวยงามมาก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 10:09:35 IP : 117.47.142.23 |
ความคิดเห็นที่ 47 (834508) | |
ploy_manee | สถานที่ประสูติของพระสิทธัตถะกุมาร เชื่อกันว่าบริเวณที่ประสูติคือ จุดที่เสาศิลาของพระเจ้าอโศกมหาราชตั้งอยู่ มีข้อความพราหมีจารึกไว้ว่า เป็นสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 10:03:39 IP : 117.47.142.23 |
ความคิดเห็นที่ 46 (834487) | |
คนแรมทาง | มุมนี้มีเงาสะท้อนในสระด้วย |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-04 09:43:29 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 45 (834473) | |
ploy_manee | จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อที่ ชาตสถาน สถานที่ประสูติของพรพุทธเจ้า ภาพที่เห็นนี้คือ มหามายาเทวีวิหาร และ สระโบกขรณี ซึ่งเป็นที่สรงน้ำของพระนางสิริมหามายาเทวีก่อนจะให้ประสูติกาลพระกุมาร |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 09:30:02 IP : 222.123.29.93 |
ความคิดเห็นที่ 44 (834467) | |
ploy_manee | ตื่นกันแต่เช้าวันนี้ เดินทางไปยังดินแดนประสูติ ลุมพินี ประเทศเนปาล ใช้เวลาหลายชั่วโมงเหมือนกัน แต่ก็ได้สัมผัสบรรยากาศยามเช้าของชาวอินเดียข้างทางก่อนจะไปถึง เราได้แวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่ สาลวโนทยาน 960 เป็นสถานที่ที่อบอุ่นที่หนึ่ง เพราะมีแต่พระไทยมาต้อนรับ สาลวโนทยานนี้เป็นโครงการของวัดไทยกุสินารา ชื่อว่าโครงการสร้างห้องสุขา ศาลาภัตตาหารแบบปิคนิค สำหรับชาวพุทธนานาชาติผู้เดินทางแสวงบุญ ที่นี่ห้องน้ำสะอาด ใหญ่โต มีมุมกาแฟไว้บริการด้วย |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 09:23:36 IP : 222.123.29.93 |
ความคิดเห็นที่ 43 (834463) | |
คนแรมทาง | ดีจัง ได้คนช่วยเล่าเรื่องและลงภาพประกอบเป็นน้องพลอย หนึ่งในสมาชิกที่ร่วมเดินทางกับคณะในครั้งนี้ เต็มที่เลยน้อง แล้วพี่จะคอยเสริมนะจ๊ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-04 09:17:54 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 42 (834460) | |
ploy_manee | วันศุกร์ที่ 26 ต.ค. วันที่ 25 ที่ผ่านมาพวกเราใช้เวลาเดินทางนานมาก หลายชั่วโมง ก็ทำให้วันนั้นมีเวลชมสถานที่สำคัญๆ เพียงไม่กี่ที่ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในรถ แบบว่า หลับได้เลยค่ะ มาถึงวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์เกือบเที่ยงคืน อาหารเย็นก็ไม่กินกันหล่ะ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ก็จะได้เดินทางกันต่อ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 09:16:19 IP : 222.123.29.93 |
ความคิดเห็นที่ 41 (834452) | |
ploy_manee | ภาพเสาหินอโศก สะท้อนเงาในน้ำ อีกภาพหนึ่งที่สวยงาม |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 09:06:46 IP : 222.123.29.93 |
ความคิดเห็นที่ 40 (834449) | |
ploy_manee | วัดไทยไวสาลี มีพระไทยดูแล และ เผยแพร่ศาสนา นอกจากนั้นแล้ว ยังมีสถานพยาบาลไว้รักษาคนป่วยด้วย ดูแลรักษาทั้งกายด้วยยา และ รักษาใจ ด้วยธรรม |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-04 09:01:39 IP : 222.123.29.93 |
ความคิดเห็นที่ 39 (834196) | |
ploy_manee | ถ่ายภาพหมู่กันก่อนลาเสาหินอโศก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-03 22:47:40 IP : 222.123.133.7 |
ความคิดเห็นที่ 38 (834181) | |
ploy_manee | วันพฤหัสบดีที่ 25 ตค วันนี้ตื่นแต่เช้า ณ วัดไทยราชคฤห์ เตรียมตัวเดินทางไปยัง กุสินารา ใช้เวลาเดินทาง 7-8 ชม. แต่ระหว่างทาง พวกเราแวะพักที่ วัดไทยเวสาลีสักครู่ก่อนออกเดินทางไปเสาหินพระเจ้าอโศก ต้นที่ยังสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเดิมเชื่อกันว่าต้นนี้เป็นต้นสุดท้ายที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่อยู่สมบูรณ์ พระอาจารย์นำพวกเราสวดมนต์บูชาสถานที่ จากนั้นก็ทำสมาธิภาวนากันต่อ อิ่มบุญกันทั่วหน้า |
ผู้แสดงความคิดเห็น ploy_manee วันที่ตอบ 2007-11-03 22:26:00 IP : 222.123.133.7 |
ความคิดเห็นที่ 37 (834161) | |
คนแรมทาง | กำลังมีโครงการจะจัดอยู่นะคะ อาจเป็นช่วงปลายเดือนธันวานี้เป็นทริปแรก เพราะมีหลายคนถามเข้ามา วางโปรแกรมเสร็จแล้วจะรีบเอาลงเว็ปให้ดูกันนะคะ วันเดินทางคงต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ค่าใช้จ่ายก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยจากทริปเดิม แต่ได้ไปครบทุกที่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามตลอดเลย หวังว่าคงได้เจอกันเร็วๆ นี้นะคะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 21:55:43 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 36 (834138) | |
แล้วเจอกัน | ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น แล้วเจอกัน วันที่ตอบ 2007-11-03 21:31:20 IP : 125.24.218.21 |
ความคิดเห็นที่ 35 (833753) | |
คนแรมทาง | พระอาจารย์นำสวดมนต์บูชามูลคันธกุฎี และเจริญสมาธิครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินเวียนปทักษิณรอบมูลคันธกุฎีเป็นพุทธบูชา ก่อนจะนมัสการลา และเดินลงจากเขาคิชฌกูฏกันด้วยความสุขใจ เรากลับเขาไปกินอาหารค่ำที่วัดไทยสิริราชคฤห์ และพักผ่อนนอนเก็บแรงกัน หลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางสู่เมืองกุสินารากัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:39:27 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 34 (833750) | |
คนแรมทาง | ขึ้นไปถึงยอดเขาก็จะมืดแล้ว แต่คืนนี้พระจันทร์เกือบเต็มดวงเพราะจะออกพรรษาอยู่อีก 2 วันนี้เอง ประกอบกับแสงเทียนที่จุดขึ้นเพื่อบูชา พวกเราเลยมองเห็นมูลคันธกุฎีในแสงสลัวๆ อากาศก็เริ่มเย็นๆ มีลมพัดเบาๆ สงบเงียบดีจัง |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:36:42 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 33 (833741) | |
คนแรมทาง | พอคุณย่าขึ้นมาถึง พระอาจารย์ก็นำสวดมนต์บูชาเพื่อระลึกถึงพระสารีบุตร ซึ่งสำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่ถ้ำสุกรขาตานี้ จากนั้นพวกเราไปเคลื่อนพลขึ้นสู่ยอดเขาคิชฌกูฏ เพื่อขึ้นไปนมัสการมูลคันธกุฎี หรือ พุทธวิหารคิชฌกูฏ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:30:33 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 32 (833739) | |
คนแรมทาง | ไปถึงเขาคิชฌกูฏก็แดดร่มลมตกพอดี เราเริ่มเดินขึ้นเขากัน ส่วนคุณย่าศินีต้องใช้คนหาบขึ้นไป เพราะท่านเดินไม่ไหว ระหว่างทางพระอาจารย์ก็บรรยายถึงจุดต่างๆ ที่น่าสนใจไปตลอดทาง ทั้งถ้ำพระโมคคัลลานะ สาวกผู้เลิศทางอิทธิฤทธิ์ และถ้ำสุกรขาตา ของพระสารีบุตร พวกเราหยุดรอคุณย่าศินีซึ่งยังหาบมาไม่ถึงกันตรงบริเวณถ้ำสุกรขาตานี้ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:28:25 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 31 (833734) | |
คนแรมทาง | ก่อนจะไปเดินขึ้นเขาเขาคิชฌกูฏกัน เราไปแวะที่บริเวณคุกขังพระเจ้าพิมพิสารกันก่อน จากบริเวณนี้จะมองเห็นยอดเขาคิชฌกูฏด้วย ตามที่พระเจ้าพิมพิสารขอกับพระโอรส เพราะถึงจะถูกขังอยู่ก็ขอให้เห็นพระพุทธเจ้า ที่ประทับอยู่บนยอดเขา |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:21:00 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 30 (833730) | |
คนแรมทาง | แต่สภาพน้ำในชั้นที่ต่ำๆ ลงไป ดูสกปรกเกินกว่าที่จะอาบได้นะ แต่เรื่องของความเชื่อความศรัทธาก็ว่ากันไม่ได้ สำหรับพวกเขา นี่คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:15:26 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 29 (833728) | |
คนแรมทาง | ออกจากเวฬุวัน พวกเราเข้าไปดูสถานที่อาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่แบ่งตามวรรณะของชาวฮินดู ที่ตะโปธาราม ชาวฮินดูเชื่อว่าน้ำที่นี่เป็นสายน้ำอุ่นมาจากเขาเวภารบรรพต ที่สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:13:11 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 28 (833725) | |
คนแรมทาง | สถานที่แห่งนี้สงบ ร่มเย็น และแตกต่างจากความวุ่นวายที่ล้อมรอบอยู่ภายนอกอย่างสิ้นเชิง |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:07:57 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 27 (833722) | |
คนแรมทาง | จากนาลันทา เราไปเข้าที่วัดไทยสิริราชคฤห์ ที่พักพิงในคืนที่สองของพวกเรา ไปถึงก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี มีคณะก่อนหน้าเราเค้ากินเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว อิ่มอร่อยกับอาหารไทยในต่างแดนกันแล้วก็พักผ่อนกันสักหน่อย ก่อนจะออกไปที่วัดเวฬุวัน วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา และเป็นที่เกิดวันมาฆบูชา วันที่พระอริยสงฆ์ 1,250 รูป พร้อมกันเข้าเฝ้าครบองค์ 4 หรือเรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" พระอาจารย์นำสวดมนต์และนั่งเจริญสมาธิภาวนาใต้ร่มไม้ เสร็จแล้วจึงไปเดินเวียนปทักษิณรอบรูปปั้นที่สร้างไว้เป็นที่สักการะและระลึกถึงพระพุทธองค์ ณ สถานที่ซึ่งพระอริยสงฆ์ 1,250 รูปเข้าเฝ้า |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 15:05:57 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 26 (833675) | |
คนแรมทาง | รูปหมู่ซะหน่อย |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 14:08:41 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 25 (833670) | |
คนแรมทาง | ออกมาถึงถนนใหญ่ บางส่วนก็เดินตามพระอาจารย์ไปที่มหาวิทยาลัยนาลันทา บางส่วนก็ขึ้นรถไป พวกเราเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ของ โอลนาลันทา ซากมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของพุทธศาสนาที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองที่สุดในโลก แต่ถูกต่างศาสนาทำลาย หลังจากเดินชมบริเวณต่างๆ ได้ครู่หนึ่ง พระอาจารย์ก็นำสวดมนต์สักการะสถูปนิพพานของพระสารีบุตร อัครสาวกผู้เลิศด้วยปัญญา และเป็นพระอรหันต์ผู้เลิศด้วยความกตัญญู ที่เลือกกลับมานิพพาน ณ บ้านเกิด ด้วยความระลึกถึงมารดาผู้ให้กำเนิด |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 14:07:02 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 24 (833653) | |
คนแรมทาง | กราบสักการะและขอพรหลวงพ่อดำให้แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยกันเรียบร้อย ก็ต้องเดินกลับออกไปตามทางเดิม คุณย่าคุณยายอาศัยรถม้าเป็นเครื่องทุ่นแรง แต่เส้นทางที่ไม่อำนวยนัก ทำให้แม้แต่รถม้าก็มีปัญหาตกหลุมติดหล่มบ้างเหมือนกัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 13:58:56 IP : 222.123.153.252 |
ความคิดเห็นที่ 23 (833646) | |
คนแรมทาง | พวกเราไปกราบสักการะหลวงพ่อดำเพื่อเป็นสิริมงคลเป็นสถานที่แรก ถึงจะต้องเดินเท้าเข้าไปไกลสักหน่อย แต่ทุกคนก็ตั้งใจที่จะเข้าไปนมัสการหลวงพ่อดำสักครั้ง เพื่อขอพร เพราะคำเล่าลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน แม้แต่คุณย่าศินีที่เดินไม่สะดวก ต้องใช้รถเข็น แต่มาได้ครึ่งทางรถเข็นก็ไปไม่ไหว สุดท้ายเลยต้องอาศัยรถม้าต่อ แต่คุณย่าก็มาด้วยศรัทธาจริงๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง วันที่ตอบ 2007-11-03 13:55:11 IP : 222.123.153.252 |
Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด |