|
สังเวชนียสถาน 29 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551 | |
วันแรมทาง |
ทริปเดินทาง 29 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551 รายชื่อผู่ร่วมทาง
ทีมงาน - 1. ปลา (ทีมงานวันแรมทาง) 2. พระยุทธนา (พระวิทยากร-นำคณะจากพุทธคยาถึงกุสินารา) 3. พระมหาณรงค์ (พระวิทยากร-นำคณะที่กุสินารา) 4. พระมหาอุเทน (พระวิทยากร-นำคณะจากกุสินาราถึงพุทธคยา) 5. ดลับบู (ผู้ช่วยชาวอินเดีย) 6. สุเรซ (คนขับรถ) 7. อดุล (เด็กรถ)
คณะผู้แสวงบุญ - 1. พี่สุนทร 2. พี่จิ๋ม 3. พี่โอม 4. พี่ต๊อด
หมายเหตุ- ทริปนี้เป็นอีกทริปเล็กๆของเราค่ะ คนน้อยแต่ก็เต็มไปด้วยศรัทธา เราเดินทางกันถึง 10 วัน 9 คืน ได้ไปยังสังเวชนียสถานที่ต่างๆมากมาย อิ่มบุญกลับบ้านกันเลยค่ะ .. |
ผู้ตั้งกระทู้ วันแรมทาง :: วันที่ลงประกาศ 2008-02-08 11:11:30 IP : 58.9.27.41 |
ความคิดเห็นที่ 80 (1283720) | |
คนรอนแรม | ขอบคุณนะคะที่เข้ามาติดตามชมเรื่องราวการเดินทางของพวกเรา เดี๋ยวจะเอารูปมาลงเพิ่มนะคะ เรื่องราวการเดินทางทริปนี้ยังไม่จบค่ะ กรุณาติดตามต่อไปนะคะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม (pla1706-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2008-06-20 10:59:43 IP : 58.9.27.61 |
ความคิดเห็นที่ 79 (1283456) | |
ยามบ่าย | เพียงแค่ได้อ่านและชมรูป ยังรู้สึกอิ่มบุญไปด้วยเลยครับ กำลังตัดสินใจจะมาแสวงบุญกับคณะ"วันแรมทาง"หรืออาจมาเองก็ได้ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีที่มาบอกกันนะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ยามบ่าย (cmdma2000-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2008-06-19 13:57:58 IP : 118.172.99.60 |
ความคิดเห็นที่ 78 (1279047) | |
คนรอนแรม | อีกสักรูปนะ ที่บริเวณขอบสระโบกขรณี( The Sacred Pond ) ซึ่งเป็นที่สรงสนานของพระนางสิริมหามายาเทวีก่อนจะให้ประสูติกาลพระกุมารและหลังการประสูติ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:56:24 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 77 (1279044) | |
คนรอนแรม | ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก ภายนอก มหามายาเทวีวิหาร (TheMahamayaDeviTemple) ซึ่งภายในมีศิลาสลักภาพพุทธประวัติปางประสูติเป็นรูปพุทธมารดาอยู่ในพระอิริยาบถยืนพระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งไม้สาละมีรูปเจ้าชายสิทธัตถะออกมาทางปัสสะขวาของพระพุทธมารดา |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:49:38 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 76 (1279043) | |
คนรอนแรม | วันรุ่งขึ้น เราตื่นกันแต่เช้า ร่วมกันทำวัตรเช้าตามปกติ วันนี้ท่านอาจารย์ พระธรรมวิทยากร ของเรา พระมหาอุเทน ยังไม่ค่อยหายป่วย แต่ก็พร้อมทำหน้าที่ธรรมะบรรยายแล้ว หน้าที่ต้องมาก่อน สุดยอดอดทนจริงเลย พระอาจารย์ของเรา
|
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:48:19 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 75 (1279026) | |
คนรอนแรม | ในตอนเย็น พวกเราร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่า ถวายวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ภายในพระอุโบสถ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:36:27 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 74 (1279023) | |
คนรอนแรม | ในหนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชรัตนรังษี โทณพราหมณ์ปรากฏในพระพุทธประวัติ หลังเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วว่า มีบทบาทที่ช่วยระงับศึกจากเมืองต่าง ๆ ที่หมายจะช่วงชิงพระบรมสารีริกธาตุของพระบรมศาสดา หลังจากที่กษัตริย์มัลละไม่ยินยอมแบ่งให้แต่โดยดี โทณพราหมณ์จึงแสดงบทบาทให้โดดเด่น ระงับความขัดแย้ง แก้ปัญหาด้วยปัญญาที่ชาญฉลาด พราหมณ์นี้ถือกำเนิดในเมืองกุสินารา เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามรถ ฉลาดปราดเปรื่อง เฉียบแหลม เป็นอาจารย์สอนกุลบุตรทั้งหลาย กล่าวกันว่าทั้งชมพูทวีป ใครที่ไม่เคยเป็นศิษย์ของโทณพราหมณ์ไม่มีเลย เมื่อคราวที่ทำการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระที่มกุฏพันธนเจดีย์ ด้านทิศตะวันออกของเมืองกุสินารา เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว บรรดาพระราชา มหากษัตริย์ และเจ้าผู้ครองเมืองต่าง ๆ ปรารถนาที่จะได้ส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุมาไว้ในเมืองของตนเพื่อสักการะบูชา ได้ส่งราชทูตมายังกุสินาราเพื่อเจรจาความประสงค์กับกษัตริย์มัลละ ฝ่ายกษัตริย์มัลละคิดว่า พระบรมศาสดาเสด็จมาปรินิพพานที่แว่นแคว้นของตน เพราะทรงปรารถนาจะให้พระบรมสารีริกธาตุแก่พวกตน คิดจะเก็บไว้สักการะบูชาเฉพาะนครของตน ไม่ประสงค์จะแบ่งให้ใคร เมื่อราชทูตจากเมืองต่าง ๆ เข้าพบ จึงปฏิเสธไม่ยอมแบ่งให้ และเชื่อว่าถ้าเกิดการต่อสู้พวกตนก็มีชัย ด้วยอำนาจบุญญาธิการของพระบรมสารีริกธาตุ แคว้นต่าง ๆ ที่ส่งราชทูตมา ๗ เมืองด้วยกัน กองทัพมาเผชิญหน้ากับเมืองกุสินารา เมืองต่าง ๆ มาล้วนเป็นเมืองใหญ่ มีอำนาจทางทหารเหนือกว่ากุสินารา มากมาย ด้วยศักดิ์ศรีทางกองทัพที่เหนือกว่า จะกดดันมัลลกษัตริย์ให้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๗ ส่วนแบ่ง พระบรมสารีริกธาตุ ถูกแบ่งไปยังพระนครต่าง ๆ ดังนี้ ๑. พระเจ้าอชาตศัตรู ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองราชคฤห์ ๒. พวกกษัตริย์ลิจฉวี ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองเวศาลี ๓. พวกกษัตริย์ศากยวงศ์ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองกบิลพัสดุ์ ๔. พวกกษัตริย์ศากยะอัลลกัปปะ(พูลิ) ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองอัลลกัปปะ ๕. พวกกษัตริย์โกลิยะ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองรามคาม ๖. พวกพราหมณ์เวฏฐทีปกะ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองเวฏฐทีปะ ๗. พวกกษัตริย์มัลละ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองกุสินารา ๘. พวกกษัตริย์มัลละ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองปาวา ๙. พระตุมพเจดีย์ อยู่ที่เมืองกุสินารา โดยที่พราหมณ์ขอทะนานที่ตวงพระบรมสารีริกธาตุกับทูตเหล่านั้น เพื่อนำไปสร้างสถูป และ ฉลองยังเมืองของตนเช่นกัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:34:38 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 73 (1279021) | |
คนรอนแรม | จากนั้น พวกเราเดินทางกลับมาที่บริเวณวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ในหนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชรัตนรังษี ครั้งนั้น บรรดาผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วที่กรุงกุสินารา จึงส่งทูตไปเจรจาขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ จากเหล่าเจ้ามัลละเมืองกุสินารา เพื่อนำไปสักการะบูชายังแว่นแคว้นของตน แต่กลับถูกเจ้ามัลละกุสินาราปฏิเสธ เจ้าเหล่านั้นและพราหมณ์ รวม ๙ นคร ต่างพากันมายื่นคำขาดว่าจะให้พระบรมธาตุหรือจักรบ แล้วตั้งกองทัพล้อมเมืองกุสินาราไว้ เหล่าเจ้ามัลละแห่งกุสินารา ตรัสว่า ธรรมดาว่าพระรัตนะที่เสมอด้วยพระพุทธรัตนะ ไม่มีในโลก พร้อมทั้งเทวโลก ก็รัตนะเกิดขึ้นในเขตคามของพวกเรา เราจักไม่ยอมให้ส่วนแบ่งแห่งพระบรมสารีริกธาตุนั้นแก่ผู้ใด โทณพราหมณ์ได้สดับเรื่องวิวาทของกษัตริย์เหล่านั้น แล้วดำริว่า พวกเจ้าเหล่านี้ก่อวิวาทกันในสถานที่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพาน เป็นการไม่สมควร จำเราจักระงับการวิวาทนั้นเสีย โทณพราหมณ์จึงขึ้นไปยืนอยู่บนที่สูง กล่าวความว่า คำกล่าวครั้งแรกของโทณพราหมณ์ ไม่มีผู้ใดสนใจ เพราะต่างก็กำลังถกเถียงกันว่าจะทำประการใด อาศัยที่โทณพราหมณ์เป็นอาจารย์ของเหล่ากษัตริย์ และพราหมณ์ในภาคพื้นชมพูทวีป ไม่มีผู้ใดจะไม่รู้จัก จึงประกาศด้วยเสียงอันดังมากขึ้นอีกว่า พวกท่านจำเสียงอาจารย์ของท่านได้หรือไม่ หากจำได้ ขอให้ทุกท่านจงพากันเงียบเสียง แล้วฟังวาจาที่ข้าพเจ้าจักกล่าวให้จงดี เหล่ากษัตริย์ทั้งปวงครั้นได้ยินเสียง จำได้ว่าเป็นเสียงของโทณพราหมณ์ ผู้เป็นอาจารย์ของพวกตน ต่างพากันเงียบเสียงทันที โทณพราหมณ์กล่าวซ้ำคำเตือนเป็นครั้งที่สอง แล้วประกาศว่า ขอเราทั้งหลายทั้งปวง จงยินยอมพร้อมใจยินดีแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกเป็น ๘ ส่วน แล้วนำส่วนของตนกลับไปบรรจุไว้ในสถูปยังแว่นแคว้นของท่านเถิด เพื่อที่พระบรมสารีริกธาตุจักได้กระจายไปในทิศทั้งหลาย เหล่าชนผู้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้ายังมีอยู่มาก ราชทูตเหล่านั้นกล่าวว่า ช้าก่อนแต่พราหมณ์ พวกเราทั้งหลายยินยอมตามคำแนะนำของท่าน ถ้าเช่นนั้นขอท่านนั่นแหละจงแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ออกเป็น ๘ ส่วนเท่า ๆ กัน ให้เรียบร้อยเถิด |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:32:27 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 72 (1279005) | |
คนรอนแรม | ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:15:57 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 71 (1279001) | |
คนรอนแรม | จากนั้น พวกเราเดินทางตามรอยพุทธประวัติ ต่อไปที่ แม่น้ำกกุธานที ในหนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชรัตนรังษี กล่าวไว้ว่า
พระอานนทเถระ เมื่อพระพุทธองค์ทรงยืนยันให้ไปตักน้ำถึง ๓ ครั้ง จึงถือบาตรไปยังแม่น้ำน้อย เพื่อนำน้ำไปถวายตามพุทธประสงค์ แต่เมื่อพระอานนท์เดินเข้าไปใกล้น้ำในแม่น้ำที่ขุ่นมัวเพราะถูกล้อเกวียนย่ำไป กลับใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว มีกระแสไหลไปตามปกติ เหมือนกับว่าไม่มีล้อเกวียนย่ำผ่านไป พระอานนท์เอาบาตรตักน้ำแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลถึงเหตุอัศจรรย์ว่า ตำนานบอกว่า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงสรงสนานในแม่น้ำกกุฏฐานี้แล้ว บริเวณริมฝั่งแม่น้ำและปลาทุกตัวในแม่น้ำได้กลายสภาพเป็นทองคำ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:14:34 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 70 (1278999) | |
คนรอนแรม | อาหารมื้อสุดท้าย พระพุทธองค์เสด็จรอนแรมไปสู่หมู่บ้านภัณฑุคาม ตรัสเทศนาสั่งสอนบุคคลในหมู่บ้านนั้นแล้วเสด็จออกไปสู่หมู่บ้านหัตถีคาม อัมพคาม และซัมพูคาม ตามลำดับถึงเมืองโภคนคร ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่บุคคลทั้งหลายอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงเสด็จไปเมืองปาวา ประทับอยู่ที่สวนมะม่วงของนายจุนทกัมมารบุตร ตระกูลวิศวกรรมนายช่างทอง ณ เมืองปาวานั้นเอง พระพุทธองค์ทรงเสวยอาหารมื้อสุดท้ายที่นายจุนทะจัดถวาย เสวยแล้วเกิดอาพาธกล้า ถึงกลับทรงอาเจียนเป็นโลหิต ถึงกระนั้นทรงมีพระวิริยะอันกล้าเดินทาง รอนแรมไปถึงเมืองกุสินาราตามพุทธประสงค์ มนุษย์ในโลกนี้ใฝ่ฝันแต่จะได้มาซึ่งความสุข เมื่อมีความสุขก็ลืมทุกสิ่งทุกอย่างตั้งหน้าเสวยสุขนั้น โดยความละโมบ ในไม่ช้าสุขก็สิ้นไปตามสภาวะของมัน ไม่มีอะไรยั่งยืนยิ่งกว่าแสวงหาความสุขจากความสงบ ในวันนั้นเอง หลังจากที่เสวยสุกรมัททวะของนายจุนทะแล้ว พระพุทธเจ้าทรงประชวรด้วยโรคชื่อ ปักขันทิกาพาธมีอาการลงพระโลหิต ทรงได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า แต่ยังทรงมีสติสัมปชัญญะ มั่นคง ไม่ทุรนทุราย ทรงอดกลั้นทุกขเวทนานั้น ด้วยพลังขันติธรรม คือ อธิวาสนขันติ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกพระอานนท์มา แล้วเสด็จออกจากเมืองปาวาไปยังเมืองกุสินารา การประชวรลงพระโลหิตของพระพุทธเจ้านี้ พระสังคีติกาจารย์ผู้ร่วมกันทำสังคายนาได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงปรีชา เสวยภัตตาหารของนายจุนทะผู้เป็นบุตรของนายช่างทองแล้ว ทรงประชวรอย่างหนัก ใกล้จะนิพพาน เมื่อพระบรมศาสดาเสวยสุกรมัททวะแล้ว การประชวรบางอย่างได้บังเกิดขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้าลงพระบังคนได้ตรัสว่า เราจะไปยังเมืองกุสินารา
|
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:12:13 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 69 (1278998) | |
คนรอนแรม | ที่แรก เราไปกันที่ สถูปบ้านนายจุนทะ
ปัจจุบันตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปาวานาคาร์ ห่างจากเมืองกุสินาราประมาณ ๑๙ กม.มีสถูปโบราณเหลือเป็นเนินสูงประมาณ ๕๐ ฟุต ตามหลักฐานการขุดค้นได้พระพุทธรูปที่บรรจุในสถูปนี้ ๓ -๔ องค์ เป็นที่น่าเสียดายว่า มุสลิมนำศพไปฝังไว้ที่เชิงฐานด้านทิศตะวันออก จึงทำใจให้เข้าถึงประวัติศาสตร์อำนาจและกาลเวลา ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อพระภาคเจ้าประทับอยู่ในโภคนครพอสมควรแก่เวลาแล้ว ตรัสรียกพระอานนท์ และเสด็จพระดำเนินไปยังเมืองปาวาพร้อมกับพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เมื่อไปถึงเมืองปาวาแล้ว ประทับอยู่ ณ อัมพวัน (สวนม่วง) ของนายจุนทะ เป็นบุตรของนายช่างทอง ความจริงเมืองปาวานั้นเป็นศูนย์กลางของพวกที่นับถือศาสนาของศาสดามหาวีระหรือนิครนถนาฏบุตร และท่านมหาวีระก็นิพพานที่เมือง ปาวานี้ นายจุนทะได้ทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จถึงเมืองปาวา กำลังประทับอยู่ ณ อัมพวัน จึงเดินทางไปเข้าเฝ้า กราบทูลนิมนต์พระพุทธองค์พร้อมกับพระภิกษุสงฆ์ให้เสด็จไปฉันภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น นายจุนทะจัดเตรียมของเคี้ยวของฉันอันประณีต และสุกรมัททวะมาถวายเฉพาะพระองค์ให้ถวายอาหารอื่นแก่พระภิกษุสงฆ์ เมื่อฉันแล้ว ตรัสสั่งให้นำสุกรมัททวะที่เหลือไปฝังเสีย ดูก่อนจุนทะ ท่านจงฝังสุกรมัททวะที่เหลือเสียในหลุม เรายังไม่เห็นใครเลยในมนุษย์โลก เทวโลก มารโลก พรหมโลก ที่บริโภคสุกรมัททวะนั้นแล้ว จักพึงให้ย่อยไปด้วยดี นอกจากตถาคต นายจุนทะทำตามพุทธบูชา เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ทำให้นายจุนทะเกิดความเข้าใจในข้ออรรถข้อธรรม มีความรื่นเริงเบิกบานในธรรมะที่ได้สดับนั้น ต่อจากนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จลุกจากอาสนะเสด็จกลับที่ประทับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 12:09:44 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 68 (1278960) | |
คนรอนแรม | วันนี้ระหว่างที่เราพักผ่อนและปฏิบัติธรรมกันตามสมควรอยู่ที่วัดไทยกุสินาราฯ พอจะมีเวลาว่างอยู่บ้างก็พาพี่ๆทุกคนไถลออกนอกโปรแกรม ไปเที่ยวศึกษาพุทธสถานที่สำคัญในบริเวณกุสินารานคร โดยมีท่านอาจารย์ "พระมหาณรงค์" พระเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ของวัดไทยกุสินาราฯ เป็นผู้นำพาและบรรยายให้พวกเราเห็นภาพและเข้าใจสถานที่ต่างๆ จริงๆแล้ว วันนั้นเราไม่มีพระวิทยากรประจำคณะ เนื่องจากพระอาจารย์ยุทธนาท่านกลับไปแล้ว "พระมหาอุเทน" พระวิทยากรองค์ใหม่ของคณะเรา ท่านบังเอิญป่วยเป็นไข้ขึ้นมากระทันหัน เราก็เลยนิมนต์ พระอาจารย์ณรงค์ให้ออกมาจากถ้ำ (ห้องทำงานของท่าน) ให้ท่านพาเราไปเที่ยวทัศนศึกษากันในครั้งนี้ นับเป็นบุญวาสนาของพวกเราชาวคณะจริงๆ ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะ ขอบคุณพระอาจารย์ณรงค์ ค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 11:24:22 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 67 (1278957) | |
คนรอนแรม | จากนั้นเราก็กราบลา พระอาจารย์ยุทธนา พระวิทยากรท่านแรกของเราที่นี่ พระอาจารย์ยุทธนา ติดศาสนกิจสำคัญต้องส่งคณะของเราที่นี่ ไม่สามารถเดินทางไปต่อกับพวกเราได้ ต้องขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างมากมายเลยนะคะ ให้ความรู้พวกเราอย่างเต็มที่เลย.. ขอบคุณค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 11:21:42 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 66 (1278942) | |
คนรอนแรม | พี่ๆทุกคน พี่สุนทร พี่จิ๋ม พี่โอม พี่ต๊อด |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 11:07:09 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 65 (1278939) | |
คนรอนแรม | ว่าแต่ว่า ถึงไหนแล้วล่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 11:05:33 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 64 (1278934) | |
คนรอนแรม | กลับมาแล้วค่ะ กลับมาลงรูปต่อนะ หลังจากที่ห่างหายไปนานมาก นานจนลืมไปเลย .. ขอโทษทุกท่านที่ติดตามรอนะคะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-06-07 11:03:03 IP : 58.9.32.77 |
ความคิดเห็นที่ 63 (1164340) | |
ป.ปลา - คนรอนแรม | พอดีต้องเดินทางไปเนปาล 10 วัน ค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป.ปลา - คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-05-02 02:29:02 IP : 58.9.25.153 |
ความคิดเห็นที่ 62 (1143960) | |
ป.ปลา - คนรอนแรม | อุ๊ย..ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ.. |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป.ปลา - คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-04-23 11:48:04 IP : 58.9.34.58 |
ความคิดเห็นที่ 61 (1143361) | |
แล้วเจอกัน | เพราะเหตุอะไรคับถึงไม่มีภาพและคําบรรยายต่อ |
ผู้แสดงความคิดเห็น แล้วเจอกัน วันที่ตอบ 2008-04-22 21:10:12 IP : 125.24.221.176 |
ความคิดเห็นที่ 60 (1032377) | |
คนรอนแรม | แหม..พี่หมอกว้างล่ะก็.. มันเป็นของแท้ไงคะ (กลัวจำไม่ได้อ่ะ เลยต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว) ของแท้มันต้องเอียงๆกันหน่อยดิ ว่าแต่ว่า.. มันเอียงกันทั้งคู่ ทั้งปลาและนุ้ยเลยนะเนี่ย อิอิ เรื่องทีมงาน.. นั่นดิ มันเยอะจัง มาไงกันหว่า |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-25 00:16:37 IP : 58.9.31.117 |
ความคิดเห็นที่ 59 (1031790) | |
พี่ทั้งสอง | ขอขอบคุณในกุศลจิตของคุณปลาและคุณนุ้ยที่ร่วมกันจัดบุญจาริกทัวร์ในครั้งนี้โดยไม่เห็นแก่ผลกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบคุณคุณปลาที่ต้องเหน็ดเหนื่อยในการดูแลทุกคนในคณะเดินทางให้ได้รับความสะดวกสบายทุกอย่าง ตั้งแต่วันเริ่มเดินทางไปจนถึงวันเดินทางกลับ ขอบอกว่าประทับใจมากๆค่ะ การเดินทางไปในครั้งนี้ได้รับแต่ความปีติอิ่มเอมใจ กลับมาแล้วก็ยังคงรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาและความเบิกบาน ขอขอบคุณคุณโอม คุณต๊อด ผู้ร่วมเดินทาง และขออนุโมทนาบุญกับวันแรมทางที่จัดกิจกรรมบุญอย่างนี้ด้วยใจจริงๆ ขอกุศลนี้จงเป็นปัจจัยส่งให้คณะบุคคลวันแรมทางประสบแต่สิ่งที่ปรารถนาตลอดไป สาธุ..สาธุ..สาธุ..อนุโมทามิ |
ผู้แสดงความคิดเห็น พี่ทั้งสอง วันที่ตอบ 2008-02-24 18:59:00 IP : 125.24.155.143 |
ความคิดเห็นที่ 58 (1028215) | |
หมอกว้าง | ถ่ายเอียงเหมือนเดิม ว่าแต่ทริปนี้ทีมงานมากกว่าผู้เดินทางอีก |
ผู้แสดงความคิดเห็น หมอกว้าง วันที่ตอบ 2008-02-23 10:11:48 IP : 118.173.145.55 |
ความคิดเห็นที่ 57 (1007865) | |
คนรอนแรม | วันนี้หลวงพ่ออยู่วัดเพราะไม่ค่อยสบาย พระอาจารย์และหลวงพี่ที่วัดเลยขอไม่ให้ท่านออกไปทำงานศาสนกิจที่ไหน ท่านคุยไปก็ไอไป ค๊อกแค๊กๆๆ ตลอดเวลา .. อากาศก็หนาวมาก พูดอีกก็ไออีก.. เป็นพระอยู่อินเดีย นี่ต้องอดทนจริงๆเลย เฮ้อ.. สงสารหลวงพ่อจัง |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:53:42 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 56 (1007858) | |
คนรอนแรม | จากที่ มกุฏพันธนเจดีย์ เรากลับเข้าสู่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จแทนพระองค์ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระมหาเจดีย์พระมหาธาตุเฉลิมราชศรัทธา ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในวัดไทยกุสินาราฯ วันนี้โชคดี พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เจ้าคุณพระราชรัตนรังษี (หลวงพ่อเจ้าคุณวีรยุทธ) ท่านอยู่ที่วัด พวกเราเลยโชคดี ได้ฟังเทศน์ฟังธรรมจากท่านเยอะเลย |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:49:00 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 55 (1007849) | |
คนรอนแรม | ทุกคนร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ที่ มกุฏพันธนเจดีย์ ( ว้า มาหลายวันแล้ว เป็นแต่ตากล้อง ถ่ายรูปให้พวกพี่ๆเค้านี่แหละ ไม่มีรูปตัวเองเลย ฮือๆๆ L ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:45:41 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 54 (1007836) | |
คนรอนแรม | ปทักษิณ 3 รอบ พร้อมสวดมนต์บท อิติปิโส น้อมถวายเป็นพุทธบูชาพระพุทธองค์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:42:15 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 53 (1007833) | |
คนรอนแรม | ร่วมกันสวดมนต์บูชา สถานที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:39:49 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 52 (1007830) | |
คนรอนแรม | จากนั้นไปสักการะ มกุฏพันธนเจดีย์ (MakutabandanaStupa) สถูปที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระหลังวันปรินิพพาน 7 วัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:37:49 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 51 (1007826) | |
คนรอนแรม | ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน สาลวโนทยาน (อีกรูป) |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:36:39 IP : 58.9.37.2 |
Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด |