7 - 15 เมษายน 52 : ชิมลา -อัม...
ReadyPlanet.com


7 - 15 เมษายน 52 : ชิมลา -อัมริตสา - ธรรมศาลา
avatar
วันแรมทาง


ทริปกึ่งสำรวจ + ไปส่งน้องตาล สู่ "ธรรมศาลา"
ทริปนี้เที่ยวไปตามรายทาง กว่าจะส่งน้องถึงที่หมาย ก็ใช้เวลาเที่ยวไปหลายวัน
ก็มันเป็นทริปสำรวจด้วยน่ะ เลยต้องเข้า concept ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก (ไม่เหนื่อยก็พัก) แบบว่าไปพักผ่อนจริงๆ นะ จะบอกให้...


กลับมาได้ครึ่งเดือนแล้วจ้า แต่งานล้นมือ เลยเพิ่งได้ฤกษ์มาเล่าเรื่องการเดินทางของทริปนี้ ทริปนี้ใช้ชื่อว่า "ทริปไปส่งตาล" ทริปนี้สนุกสนาน ได้สัมผัสหลากรสชาติ ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ตามสไตล์ทริปสำรวจของวันแรมทางค่ะ เจอทั้งร้อน ทั้งหนาว ทั้งเศร้า (ฝนตกน่ะ) แต่พวกเรา 5 สาวก็พร้อมลุยค่ะ 
ใครที่รอติดตามชมทริปนี้อยู่ ไปลุยด้วยกันเลยค่ะ..

สมาชิกจากซ้ายไปขวา
1.ปลา  2.น้องตาล 3.พี่จี้  4.พี่น้อง

หมายเหตุ-
นุ้ย (ผู้น่าสงสาร) เป็นตากล้องอีกตามเคยค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ วันแรมทาง กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2009-05-06 16:07:46 IP : 58.9.27.77



ความคิดเห็นที่ 219 (1332552)
avatar
คนแรมทาง
image

ชีวิตวุ่นวายเสียหลายวัน คืนนี้พอมีเวลามาลงกระทู้นี้ต่ออีกหน่อย ต่อเลยแล้วกันนะ

วันที่ 10  วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2552  :  ธรรมศาลา
เช้านี้ต้มมาม่ากินกันในห้อง แล้วก็แพ็คของลงกระเป๋าเตรียมย้ายที่พักกัน แบกเป้ขึ้นหลังเตรียมเดินไปเช็คอินเข้าที่ใหม่ ระหว่างรอเช็คเอ๊าท์ออกจากอินเดีย เฮ้าส์ สายตาแว๊บไปเห็นผ้าเหลืองสีคุ้นๆ แล้วก็ใช่จริงๆ พระอาจารย์ชาญชัย พระธรรมวิทยากรในเส้นทางแสวงบุญ มาเด็กมาส่งเรียนภาษาที่ธรรมศาลาเหมือนกัน พอออกไปเจอหน้ากันก็ต่างคนต่างแปลกใจ ขนาดว่าอินเดียกว้างใหญ่ไพศาลนะ ยังวนเวียนมาเจอกันได้

กราบนมัสการพระอาจารย์ และสอบถามสารทุกข์สุกดิบกับเรียบร้อย ก็กราบลา แล้วคงได้เจอกันอยู่เรื่อยๆ ในเมืองนี้แหละ เดินแบกเป้คนละใบไปเช็คอินเข้าที่พักแห่งใหม่ เก็บของเข้าที่แล้วก็ออกมาหาร้านกาแฟนั่งชิวๆ กัน วันนี้ไม่ต้องเดินเลือกร้านนาน เพราะมีร้านที่เล็งไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ร้าน Mandala Wi-Fi Coffee House ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-06-02 22:15:30 IP : 58.9.28.74


ความคิดเห็นที่ 218 (1331889)
avatar
คนแรมทาง
image

เกือบลืมเล่าไปว่านอกจากกิจกรรมการนั่งกินบรรยากาศให้เวลาหมดไปแล้ว วันนี้พวกเราก็เข้าร้านนั้นออกร้านนี้เพื่อช็อปปิ้งเครื่องประดับและพระพิฆเนศที่ถูกใจค่ะ ได้มาหลายชิ้นทีเดียว (แต่ยังไม่มีเวลาเอามาปล่อยของในเว็บเลยอ่ะ) ของที่นี่ราคาไม่สูงนัก ไม่ได้บอกผ่านมาก ต่อรองได้ระดับหนึ่งค่ะ

ร้าน Indo Tibetan Arts นี่ก็เป็นหนึ่งในสามร้านของวันนี้ที่เราได้อุดหนุนค่ะ เราได้จี้หินและพระพิฆเนศมาอย่างละหลายชิ้นเหมือนกันนะ (แต่ก็หมดไปหลายนะ ตัวเบาเลยทีเดียว...ก็เจอของชอบน่ะ)

วันนี้เป็นวันสบายๆ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วนะ เจ้าตาลได้อุปกรณ์วาดรูปและสีน้ำแบบที่พอใช้ได้มาแก้ขัด แล้วก็กลับมานั่งวาดรูปอยู่ในห้อง พี่ปลากับนุ้ยก็นอนดูหนัง แล้วพี่เพ็ญก็ส่งข้อความมาบอกว่าพี่น้องโทรมารายงานตัวว่ากลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว 

พอแสงหมดได้สักพักท้องก็เริ่มหิว ไปหาอาหารค่ำกินกันดีกว่า มื้อนี้ไปลองชิมอาหารที่โรงแรม Asian Plaza Hotel โรงแรมระดับ Luxury Hotel แห่งเดียวในแม็คลอดกันจ์ เดินออกจากโรงแรมอินเดีย เฮ้าส์ไปไม่กี่ก้าวก็ถึง (แต่ถ้าพรุ่งนี้ย้ายที่พักแล้วจะต้องเดินไกลอ่ะ คืนนี้เลยต้องลองที่นี่แหละ)

มีเมนูอาหารไทยด้วยนะ ต้องลองซะหน่อย จำไม่ได้ว่านอกจากต้มยำไก่แล้วได้สั่งอาหารไทยเมนูอื่นหรือเปล่า แต่ที่จำต้มยำได้ขึ้นใจเพราะว่ามันไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ผิดหวังอย่างแรง รสชาติเหมือนราดหน้าใสๆ ที่ออกเปรี้ยวๆ หน่อยน่ะ แต่อย่างอื่นก็ใช้ได้แหละ กินเสร็จก็รีบเดินกลับเข้าที่พักเพราะฝนกำลังมา คืนนี้อากาศเย็นค่ะ เอาตัวเข้าไปซุกในถุงนอนขนเป็ดแล้วก็นอนหลับอุ่นสบายกันดีกว่า ราตรีสวัสดิ์ทุกคนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-29 00:04:13 IP : 58.9.34.192


ความคิดเห็นที่ 217 (1331885)
avatar
คนแรมทาง
image

ชอบมุมนี้ค่ะ ภาพวาดต้นไม้ใหญ่บนผนัง "Tree of Hope" ต้นไม้แห่งความหวัง ให้ความรู้สึกดีจัง น้องตาลรับปากว่าถ้าพี่ปลากับพี่นุ้ยมีสำนักงานใหญ่โตกว้างขวางเป็นของตัวเองเมื่อไหร่ ตาลจะมาวาดรูปต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ให้ในห้องทำงาน...อย่าลืมสัญญานะน้อง ถ้าถึงตอนนั้นได้เป็นศิลปินใหญ่โตคับประเทศก็ต้องมาวาดให้นะ (ฟังดูเหมือนจะต้องรออีกนานเลยนะกว่าสำนักจะใหญ่เนี่ย)
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-28 23:05:46 IP : 58.9.34.192


ความคิดเห็นที่ 216 (1331884)
avatar
คนแรมทาง
image

ถึงจะไม่ได้กระหายน้ำกันสักเท่าไหร่ แต่ก็อยากช่วยอุดหนุนน่ะ เลือกสั่งเครื่องดื่มมาคนละแก้ว แล้วก็เดินชมสินค้าในร้านกัน พี่ปลาได้เข็มกลัดไปติดหมวก 3 อันค่ะ (แต่ติดได้แค่วันเดียวก็รู้สึกว่ามันเยอะไปเลยแบ่งให้น้องๆ คนละอัน ส่วนเจ้าตาลพอเอาเข็มกลัดไปติดย่ามแล้วก็บอกว่า ติดอันเดียวมันน้อยไป เราก็เลยให้ส่วนของตัวเองไปด้วย ดูขาดๆ เกินๆ กันนะพี่น้องคู่นี้)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-28 22:57:56 IP : 58.9.34.192


ความคิดเห็นที่ 215 (1331883)
avatar
คนแรมทาง
image

พวกเราปฏิบัติภารกิจของวันนี้เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ค่อยแบกเป้ย้ายเข้าที่พักใหม่กัน งั้นวันนี้เวลาที่เหลือก็ฟรีสไตล์ ไปหาที่นั่งชิวๆ กันดีกว่า แล้วก็เดินผ่านมาถึงร้าน Rogpa Shop & Cafe เป็นร้านที่หารายได้สมทบทุนช่วยเหลือชาวทิเบตค่ะ ในร้านมีของขายหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นของทำมือ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-28 22:51:52 IP : 58.9.34.192


ความคิดเห็นที่ 214 (1331879)
avatar
คนแรมทาง
image

เติมกันเรียบร้อยเราก็ไปตระเวณดูที่พักกัน อันดับแรกคือเล็งบ้านที่ดูน่าจะปลอดภัย บรรยากาศสบายๆ ดูไม่อึดอัด แล้วก็มาเจอที่นี่ Hotel Ladies Venture ค่ะ เคยเดินผ่านและเล็งไว้แล้วว่าดูน่าอยู่นะ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง มีทั้งห้องนอนรวมห้องน้ำรวม ห้องเดี่ยวแบบห้องน้ำในตัว ห้องคู่และห้องใหญ่ แบบพักได้สามคนสบายๆ

แหม่มที่เป็นภรรยาเจ้าของโรงแรมนี้ชื่อคาร่า เคยเป็นครูอาสามาสอนภาษาอังกฤษที่ธรรมศาลานี่แหละ อยู่ไปอยู่มาก็ได้คุณแขกในพื้นที่เป็นคู่ครองเสียเลย ตอนเดินเข้ามาคาร่ากำลังสอนภาษาให้หนุ่มทิเบตคนหนึ่งอยู่ด้วย คาร่าบอกว่าตอนนี้ห้องใหญ่ว่างอยู่พอดี แต่ห้องเดี่ยวที่น้องตาลจะอยู่หลังจากพี่ๆ กลับแล้วยังไม่ว่าง ต้องรอก่อน แต่ก็ไม่เป็นไร เรายังมีเวลารออีกหลายวัน แต่ที่แน่ๆ พี่ปลาเลือกแล้วว่าจะย้ายจากอินเดีย เฮาส์มาพักที่นี่ ห้องใหญ่พักได้ 3 คนวันละ 500 รูปี เสียดายที่ไม่ทันนึกว่าจะถ่ายรูปในห้องเลย ไม่งั้นจะเอารูปมาอวดว่าห้องใหญ่ และดูน่าพักขนาดไหน มีหน้าต่างรับแสงทำให้ห้องดูโปร่ง มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นยอดเข้าหิมะด้วย

ห้องใหญ่ที่พวกเราเลือกจะพักอยู่ชั้น 3 ค่ะ (นี่แหละปัญหาเดียวสำหรับการพักที่นี่ คือเราต้องปีนขึ้น-ลงชั้น 3 ทุกวัน)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-28 22:37:58 IP : 58.9.34.192


ความคิดเห็นที่ 213 (1331876)
avatar
คนแรมทาง
image

นี่แหละอาหารเช้าของพวกเรา ไข่เจียว+ขนมปัง, วัฟเฟิล+น้ำผึ้ง และกาแฟค่ะ อร่อยนะ...ขอบอก
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-28 22:08:58 IP : 58.9.34.192


ความคิดเห็นที่ 212 (1331875)
avatar
คนแรมทาง
image

วันที่ 9  วันพุธที่ 15 เมษายน 2552  :  ธรรมศาลา
วันนี้ตื่นกันสายโด่ง เพราะเมื่อคืนนอนดึก แผนการที่วางไว้ว่าเช้าจะไปหาที่พักใหม่ กลางวันนี้จะ Check out แล้วก็ย้ายไปเข้าที่ใหม่เลยล่ม ยอมจ่ายแพงเพื่อแลกกับความสบายอีกสักวันนะ

มื้อเช้าของพวกเราวันนี้ (ไม่เช้าสิ จะเที่ยงอยู่แล้ว) มุ่งมาที่ร้าน Moonpeak espresso กันเลย ที่นี่ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มชากาแฟกับอาหารว่างนะคะ อาหารเช้าพวกไข่กับขนมก็มี จริงๆ โฆษณาว่ามีอาหารกลางวันกับอาหารเย็นด้วยแหละ (แต่พวกเราก็ไม่ได้มาลองมื้ออื่นนะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-28 22:02:28 IP : 58.9.34.192


ความคิดเห็นที่ 211 (1331658)
avatar
คนแรมทาง
image

ใจจริงอยากให้พลขับจอดรถให้ถ่ายรูป แต่พี่แกก็ขับเร็วเสียเหลือเกิน ถือว่ารถดีเหยียบใหญ่เชียว รถโตโยต้ารุ่น Innova ถือว่าเป็นรถรุ่นที่ดี และค่าเหมารถแพงที่สุดในบรรดารถทุกรุ่นในเมืองเลยค่ะ นั่งได้หลายคนเพราะมี 3 ตอน ถ้าเป็นแขกเค้าคงนั่งได้ 7-8 คนเป็นอย่างน้อย แต่พวกเรามีแค่ 5 คน เลยนั่งกันสบายๆ แถมมีที่ว่างให้เจ้าตาลหลับแล้วโดนรถเหวี่ยงตอนเข้าโค้ง กลิ้งไปกระแทกเบาะอีกข้างด้วย

พวกเรามาถึงเมืองปาทันโกฐเร็วกว่าที่คิด จากที่ปกติจะใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง แต่พลขับท่านเหยียบแค่ประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้ารู้ว่าจะขับเร็วขนาดนี้พวกเราคงไม่ต้องรีบออกจากธรรมศาลากัน แต่มาถึงเร็วก็ดีนะ พวกเราเลยมีเวลากินข้าวเย็นด้วยกันอีกมื้อ มื้อกลางวันก็ไม่ได้กิน พวกพี่น้องพี่จี้ขึ้นรถแล้วจะได้ไม่หิว ขอให้พลขับแวะโรงแรมระหว่างทางก่อนเข้าไปที่สถานีรถไฟ แล้วพวกเราก็ค่อยๆ เลือกและสั่งอาหารอย่างช้าๆ เพื่อถ่วงเวลาให้ผ่านไปเยอะๆ แบบว่าจะได้ไม่ต้องไปรอรถไฟที่สถานีนานน่ะ ขอใช้เวลาอยู่ที่ร้านอาหารให้นานที่สุดแล้วกัน

มื้อนี้พี่น้องกับพี่จี้ขอเป็นเจ้ามือค่ะ เพราะพี่ปลาคิดค่าใช้จ่ายรวมตลอดทั้ง 8 วัน สำหรับทริปชิมลา-อัมริตซาร์-ธรรมศาลา จนถึงวันนี้ทุกคนจะได้เงินคืนคนละ 3,000 รูปีค่ะ พอคืนเงินไป พี่ท่านทั้งสองก็ให้ทิปนุ้ย พี่ปลา และให้ทุนการศึกษาน้องตาล แล้วก็เลี้ยงข้าวน้องๆ มื้อนี้ด้วยแหละ

ขอบคุณมากๆ นะคะ ทั้งพี่น้องและพี่จี้ที่มาเที่ยวด้วยกัน ถ้าไม่มีพี่ทั้งสองคนมาด้วย พวกน้องคงต้องลำบากกว่าที่ผ่านมาแน่ๆ คงได้นั่งแชร์จี๊ปกับแขกหรือฝรั่งเวลาต้องเดินทาง เพราะจะเหมารถทั้งคันด้วยจำนวนตัวหาร 3 คนก็คงสิ้นเปลืองเกินไป แต่พอมี 5 คน การตัดสินใจทุกอย่างก็ง่ายขึ้น เหมารถทั้งคันก็สบายๆ หารเฉลี่ยกันแล้วก็โอเค เรื่องกินก็ไม่มีใครเรื่องมาก เรื่องเที่ยวก็ถึงไหนถึงกัน ยิ่งมีแต่ผู้หญิงก็ยิ่งคุยกันได้ทุกอย่างแบบสะดวกใจ (แต่ไม่รู้ว่าพาพวกพี่ๆ มาลำบากหรือเปล่านะ)

ได้เวลาประมาณสองทุ่มครึ่งแล้ว พวกเราก็ออกจากร้านอาหารเพื่อตรงไปที่สถานีรถไฟ Chakki Bank กัน แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น ยังมีเหตุให้ต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้ายค่ะ

ออกรถมาได้สักพักก็เจอรถติดในเมือง เหมือนจะมีเหตุอะไรบางอย่าง เอาล่ะซิ เวลาก็เดินผ่านไปเรื่อยๆ แต่พวกเรายังไม่ถึงสถานีรถไฟ คุณพลขับเลี้ยวรถมาทางที่ถนนโล่งหน่อย แต่ดูไม่ใช่เส้นทางหลัก เพราะถนนค่อนข้างมืดและเงียบ จะทันมั้ยเนี่ย...ทุกคนคงคิดในใจเหมือนกัน และในที่สุด.....

ราชรถก็เทียบจอดหน้าสถานีรถไฟก่อนเวลารถออกตอน 3 ทุ่มครึ่งประมาณ 10 นาทีได้ ลงจากรถได้พี่ปลาไม่รอช้า เรียกกุลีทันที ไม่ใช่อยากจะให้ช่วยยกกระเป๋าเพราะของเยอะหรอกนะ แต่เพราะไม่แน่ใจว่าตู้ที่จองไว้จะจอดตรงไหน ที่นี่เป็นสถานีรถไฟเล็กๆ ไม่ได้มีป้ายไฟบอกตำแหน่งตู้น่ะ เวลาก็เหลือน้อยกลัวจะพลาดต้องวิ่งตามรถกัน เลยขออาศัยความชำนาญเฉพาะทางของเจ้าถิ่นดีกว่า แล้วคุณลุงกุลีก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ แกยกกระเป๋านำหน้าพวกเราไป พอถึงจุดหนึ่งแกก็วางของรอรถไฟเข้าสถานี ไม่กี่อึดใจรถก็มา (ขบวนราชธานีตรงเวลาดีจริงๆ ถ้ามาช้าแค่ 5 นาที ตกรถแน่) ที่สำคัญตู้ที่เราจองมันจอดตรงหน้าพวกเราพอดีค่ะ เจ้าตาลถึงกับปรบมือให้คุณลุงทีเดียว แกแน่นอนจริงๆ ไม่รู้ว่าต้องนับเสาไฟฟ้าเอาหรือไง ถึงจะรู้ว่าตู้ไหนจอดตรงจุดไหนเนี่ย

คุณกุลียกกระเป๋าขึ้นไปส่งถึงที่นั่ง นุ้ยกับตาลบอกลาพี่น้องกับพี่จี้ที่ด้านล่าง ส่วนพี่ปลาขึ้นไปส่งบนขบวนรถ เพื่อดูความเรียบร้อยเรื่องที่นั่ง แล้วก็ร่ำลากัน รอส่งพี่ๆ จนรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานี รถมาตรงเวลาขนาดนี้ พรุ่งนี้เช้าคงไม่มีอะไรผิดแผน พี่น้องกับพี่จี้ไปทันเครื่องบินกลับบ้านแน่นอน

เอาล่ะ เสร็จสิ้นภารกิจส่งพี่น้องกับพี่จี้เรียบร้อย ทริปสำรวจครั้งนี้ก็ปิดฉากลงไปด้วย ต่อจากนี้ไปจะเป็นภารกิจส่งตาลล้วนๆ ค่ะ พวกเราสามคนไปขึ้นรถกลับธรรมศาลากัน กลับมาถึงตอนประมาณเที่ยงคืนได้ รถมาส่งถึงหน้าโรงแรม (ซึ่งปิดประตู ปิดไฟแล้วเรียบร้อย แต่พวกเราแจ้งไว้แล้วว่าจะกลับมาตอนดึก) เขย่าประตูเรียกคนของโรงแรมมาเปิดอยู่พักหนึ่ง พอได้กลับเข้าห้องก็แบตหมด หลับกันอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้ยังมีภารกิจต้องหาที่พักใหม่รออยู่ แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อพรุ่งนี้นะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 21:52:55 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 210 (1331655)
avatar
คนแรมทาง
image

ทุกอย่างผ่านไปโดยเรียบร้อย เจ้าตาลได้ซิมโทรศัพท์ของรัฐหิมาจัยประเทศเป็นของตัวเอง (ธรรมศาลา ชิมลา มะนาลี และอีกหลายเมืองอยู่ในรัฐหิมาจัยประเทศ โทรหาเบอร์ในรัฐเดียวกันจะไม่ต้องเสียค่าโรมมิ่งค่ะ แต่ถ้าโทรหาเบอร์ข้ามรัฐจะเสีย) และเพื่อให้โทรหากันได้ในราคาประหยัด พี่ปลาก็เลยฝากซื้อด้วยอีกซิม จะได้เอาไว้โทรหากัน

พวกเราสามคนกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ทวี และกราบลาท่าน พร้อมกับขอทำบุญด้วยความตั้งใจที่ตรงกันของทุกคน (ท่านเองไม่อยากรับ แต่ก็ขัดศรัทธาไม่ได้น่ะ) ก่อนแยกกันพระอาจารย์โทรเรียกเด็กไทยคนหนึ่งมาแนะนำให้รู้จักกัน ชื่อว่า "เจมส์" เผื่อว่ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันเวลาอยู่ที่นี่ เจมส์เป็นเด็กผู้ชายร่างใหญ่ อัธยาศัยดี อยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว และดูจะเป็นที่รู้จักของคนที่นี่พอสมควร เพราะเห็นทักทายกับคนทิเบตหลายคนในเมือง ดีล่ะ อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าเจ้าตาลจะมีเพื่อน

เรากลับไปรวมตัวกับพี่น้องพี่จี้ที่โรงแรม พอพร้อมกันแล้วก็โผล่หน้าเข้าไปบอกที่เอเย่นต์ให้เรียกรถมารับตามเวลานัดหมายได้เลย ก่อนขึ้นรถพี่จี้ยังสอยย่ามสีส้มที่แขวนเตะตาอยู่หน้าร้านข้างโรงแรมไปด้วยนะ ทิ้งท้ายการช็อปปิ้งที่ธรรมศาลาน่ะ

ยิ่งรถทิ้งระยะห่างจากตัวเมืองแม็คลอดกันจ์มากขึ้น เราก็ยิ่งได้เห็นวิวเทือกเขาหิมาลัยกว้างขึ้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 21:36:01 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 209 (1331652)
avatar
คนแรมทาง
image

มาถ่ายรูปด่วนติดบัตรที่ร้านนี้ Famous Color Centre

หลังจากตกลงกันว่าไม่กินข้าวกลางวันแล้วนะ (เหตุผลหนึ่งคือไม่มีเวลากินแล้ว อีกส่วนหนึ่งคือไม่หิวเพราะเพิ่งกินชากาแฟและขนมมา) ระหว่างที่จัดการเรื่องซิมของน้องตาล พี่น้องกับพี่จี้เลยกลับไปอาบน้ำ และเก็บกระเป๋าที่โรงแรมก่อน

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 20:47:56 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 208 (1331650)
avatar
คนแรมทาง
image

ซื้อซิมโทรศัพท์ที่ร้านนี้ค่ะ LHASA TOURS & TRAVELS
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 20:34:22 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 207 (1331649)
avatar
คนแรมทาง
image

ที่แรกคิดว่าจะแยกกับพระอาจารย์ทวีเมื่อออกจากร้านกาแฟ แล้วจะไปหาข้าวกลางวันกินก่อนจะได้เวลานัดรถตอนเย็น แต่แล้วภารกิจเพื่อน้องตาลกลับยังไม่จบค่ะ พอคุยกับพระอาจารย์ว่าหลังจากเรื่องที่เรียนแล้ว ก็จะหาซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ไว้ให้ตาลด้วย จะได้ติดต่อกันได้ง่ายหน่อย เท่านั้นแหละ... พระอาจารย์ก็เลยพาเดินไปร้านโทรศัพท์ เพราะเป็นร้านที่ท่านซื้อซิมให้เด็กไทยประจำ ไม่เรื่องมาก ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรยุ่งยาก ยิ่งมีพระอาจารย์ไปช่วยการันตีก็ยิ่งง่ายใหญ่ แค่รูปถ่ายติดบัตร 2 ใบ กับสำเนาพาสปอร์ต 2 ชุด ถึงจะเกรงใจพระอาจารย์ แต่ท่านก็ใจดีอยากช่วยจัดการให้เรียบร้อย เพราะคืนนี้ท่านจะขึ้นรถลงไปเดลลีแล้ว (นี่แหละความโชคดีของการเป็นคนไทย เวลาที่เราได้เจอคนไทยในต่างแดน โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ ทุกคนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีเท่าที่จะทำได้ค่ะ)

ระหว่างทางไปร้านขายซิม สวนกับแหม่มเปรี้ยวซ่าคนหนึ่ง แล้วพระอาจารย์ก็แนะนำว่าแหม่มคนนี้แหละคือครูสอนภาษาคนแรกที่สอนพระอาจารย์ จนปัจจุบันแหม่มก็ยังสอนอยู่ และไม่คิดจะกลับประเทศแล้ว อยู่ที่นี่ถาวรเลย สอนดี (แต่ดุนะ พระอาจารย์ออกเสียงภาษาอังกฤษผิดไปคำหนึ่ง ยังโดนดุเลย สมกับเป็นครูสอนภาษาจริงๆ เลยค่ะ)

ที่เราเรียกคุณครูแหม่มว่าแหม่มเปรี้ยวซ่าก็เพราะว่าแหม่มเธอตัดผมสั้น สวมหมวก เจาะหูและใส่ต่างหูข้างละ 3 รู และสะพานเป้ใบย่อมๆ ไว้ที่หลัง แบบว่า...จ๊าบมากๆ ทั้งที่อายุน่าจะ 50-60 แล้วนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 20:21:59 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 206 (1331644)
avatar
คนแรมทาง
image

ส่วนพระอาจารย์ทวีฉันท์น้ำกล้วยหอมปั่น และมีหนุ่มชาวรัสเซียที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเข้ามาคุยด้วย ก่อนออกจากร้านพวกเราเลยขอถ่ายรูปกับพระอาจารย์กัน แล้วก็เลยชวนหนุ่มรัสเซียร่วมวงด้วยอีกคน
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 19:26:57 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 205 (1331642)
avatar
คนแรมทาง
image

พวกเรานิมนต์พระอาจารย์ทวีมาฉันท์น้ำปานะด้วย แต่แยกโต๊ะค่ะ และนี่คือเครื่องดื่มสารพัดสีของพวกเรา แต่ยังขาดกาแฟของพี่จี้อีกแก้วค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 19:13:41 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 204 (1331641)
avatar
คนแรมทาง
image

พวกเราใช้เวลาเดินทางรวมเวลาพักประมาณ 45 นาที นับตั้งแต่เริ่มเดินอ้อมเขา จนมาโผล่ข้างวัดนัมกัล นับว่าได้ออกกำลังกายให้ได้เหงื่อไปในตัวทีเดียว และจุดหมายปลายทางของพวกเราก็คือร้านกาแฟ Coffee Talk ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 18:56:34 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 203 (1331636)
avatar
คนแรมทาง
image

พักกันพอหายเหนื่อยแล้วก็ออกเดินกันต่อ ระหว่าทางเราก็แวะเข้าไปหมุนกงล้อมนต์บ้างเป็นบางช่วง
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 18:21:58 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 202 (1331635)
avatar
คนแรมทาง
image

เดินขึ้นไปชมด้านบนกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:58:29 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 201 (1331634)
avatar
คนแรมทาง
image

เดินถัดมาอีกหน่อยก็จะเจอกับสิ่งปลูกสร้างนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าคืออะไรค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:56:33 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 200 (1331632)
avatar
คนแรมทาง
image

วันนี้ฟ้าเป็นฟ้าค่ะ มองไกลออกไปจะเห็นเทือกเขาหิมะด้วย ถ้าไม่มีเมฆคงได้เห็นชัดกว่านี้ แต่เมฆสีขาวปุยก็ตัดกับสีท้องฟ้าและสีต้นไม้ไร้ใบได้สวยดีนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:51:40 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 199 (1331631)
avatar
คนแรมทาง
image

สถูปนี้สวยจัง ยิ่งวันฟ้าใสอย่างนี้ สีขาวของสถูปตัดกับสีท้องฟ้าสีฟ้า แจ่มค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:47:47 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 198 (1331630)
avatar
คนแรมทาง
image

เดินกันมาพักใหญ่ เริ่มได้เหงื่อเหมือนกันนะ แล้วก็มาถึงมุมหนึ่งซึ่งมีสถูปใหญ่นี้ตั้งอยู่ มีศาลาให้นั่งพักด้วย ก็เลยแวะพักขากันหน่อย (ระหว่างที่คนอื่นนั่งพัก เราก็มาเดินถ่ายรูปสถูปแทน) 
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:43:24 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 197 (1331629)
avatar
คนแรมทาง
image

รอบๆ กงล้อมนต์นี้ก็เป็นตัวอักษรมนต์คำว่า "โอม มณี เป๋มา ฮุม" เช่นกันค่ะ การหมุนกงล้อมนต์นี้ก็เท่ากับการได้สวดมนต์บทนี้ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:37:51 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 196 (1331627)
avatar
คนแรมทาง
image

และนี่คือที่มาของก้อนหินมณีขนาดมหึมาที่มีสีสันสดใสค่ะ ฝีมือพระลามะรูปนี้นี่เอง ท่านกำลังระบายสีอยู่ค่ะ

คนทิเบตเชื่อว่าหากท่องมนต์ "โอม มณี เป๋มา ฮุม" นี้วันละนับร้อยนับพันรอบ จะทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง เพราะพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์แห่งความกรุณาจะปกป้องผู้ที่นับถือพระองค์

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:27:15 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 195 (1331625)
avatar
คนแรมทาง
image

นอกจากก้อนหินมณีก้อนเล็กๆ ที่แกะสลักแล้วนำมาวางแล้ว ก็มีหินใหญ่ๆ แบบนี้ด้วย อันนี้คงไม่ได้ยกมาวางแน่ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-27 17:21:32 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 194 (1331510)
avatar
คนแรมทาง
image

เท่าที่ค้นข้อมูลได้ความว่า นี่คือ "ก้อนหินมณี" ซึ่งชาวทิเบตนิยมแกะสลักเป็นตัวอักษรคำว่า  "โอม มณี เป๋มา ฮุม" แล้วกองไว้เป็นเนินสูง หรือตามทางบนภูเขา มนต์นี้แปลตามตัวคือ "มณีในดอกบัว" โดยมณีในที่นี้หมายถึงวิธีการซึ่งคือความกรุณา และดอกบัวหมายถึงปัญญาหรือความรู้ที่ยิ่งใหญ่ การตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความว่างเปล่า การเชื่อมโยงระหว่างกรุณาและปัญญาไปสู่ความหลุดพ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-26 16:37:40 IP : 58.9.34.134


ความคิดเห็นที่ 193 (1331509)
avatar
คนแรมทาง
image

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจของน้องตาล พระอาจารย์ทวีก็พาเดินอ้อมเขาที่จะไปโผล่ตรงข้างวัดนัมกัล เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ใช้ได้ที่เดียว อากาศเย็นสบายดี มีร่มไม้คอยกันแดด และตลอดเส้นทางจะมีธงทิวและก้อนหินแกะสลักที่ชาวทิเบตนำมาบูชาด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-26 16:36:45 IP : 58.9.33.116


ความคิดเห็นที่ 192 (1331506)
avatar
คนแรมทาง
image

ส่วนที่นี่เป็นที่สุดท้ายที่พระอาจารย์พาเดินมาดู Tebet Charity เสียค่าเรียนเป็นรายเดือนประมาณเดือนละ 400 รูปี มีห้องเรียนและบริเวณโดยรอบดูสะอาดตา น่าเรียนเหมือนกัน แต่ปัญหาคือมันอยู่ไกลมากๆ แบบว่าต้องเดินกันเหนื่อยน่ะ น้องตาลเลยขอตัดที่นี่ออกเป็นที่แรก เพราะให้เดินมาเรียนทุกวันคงไม่ไหว

แล้วภารกิจการเดินหาที่เรียนให้น้องตาลก็สำเร็จ หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องแล้วแหละ จริงๆ มีที่เรียนมากกว่านี้นะ แต่ 3 ที่นี้เป็นที่หลักๆ ที่นิยมกัน บางที่พระอาจารย์ชี้ให้ดูว่าอยู่ในตึกนี้ ในซอยนี้ แต่พวกเราไม่ได้เดินเข้าไปน่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-26 16:23:15 IP : 58.9.33.116


ความคิดเห็นที่ 191 (1331504)
avatar
คนแรมทาง
image

ออกจาก LHA พระอาจารย์ก็พาเดินไปดูที่เรียนที่วัด (ไม่รู้ว่าชื่อวัดอะไรนะ) เรียนที่วัดไม่ต้องเสียเงินค่ะ แต่ต้องทำบุญบำรุงการศึกษาแรกเข้า 500 รูปี หลังจากนั้นก็เข้าเรียนได้เลย เรียนได้ทุกคลาสที่สนใจ แบ่งเป็นหลายระดับเช่นกัน แต่ไม่เยอะเท่าที่ Lha นะ โดยส่วนตัวแล้วเราชอบที่นี่มากกว่าเพราะห้องเรียนดูโปร่งสบาย และมีบริเวณลานวัดให้พักผ่อนได้ พระอาจารย์ทวีบอกว่าในช่วงเย็นจะมีคลาส Conversation หรือคลาสสนทนาให้นักเรียนจับกลุ่มพูดคุยกัน เป็นการฝึกพูดกับเพื่อนๆ

วัดนี้ต้องเดินออกมาห่างจากย่านใจกลางเมืองพอสมควร ขาลงน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะเป็นทางลาดลงเขา แต่ขาขึ้นนี่ซิ ไม่อย่าจะคิด

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-26 16:11:23 IP : 58.9.33.116


ความคิดเห็นที่ 190 (1331501)
avatar
คนแรมทาง
image

ภารกิจต่อไปของวันนี้คือมีนัดกับพระอาจารย์ทวีตอนบ่ายสองโมง เพื่อให้ท่านพาไปดูที่เรียนภาษาค่ะ (พี่ปลาเจอพระมหาทวีโดยบังเอิญ ท่านพาเด็กไทยขึ้นมาส่งเรียนภาษาเช่นกัน ส่วนตัวท่านเองเรียนปริญญาเอก(หรือโท ไม่แน่ใจ) อยู่ที่คุรุเกษตร (ใกล้ๆ เมืองจันดิการ์) และพาเด็กมาส่งที่ธรรมศาลาอยู่เสมอๆ พวกเราก็เลยโชคดี ได้ผู้รู้เป็นผู้นำทาง)

ระหว่างรอเวลาตามนัดหมาย เราก็เดินดูของกันไปเรื่อย แล้วก็เดินสวนกับพระอาจารย์ทวีกลางทาง ท่านเลยถามว่าพร้อมจะไปดูโรงเรียนเลยมั้ย ทุกคนก็โอเค รวมทั้งพี่น้องกับพี่จี้ที่จะไปดูด้วย เผื่อว่ามีน้องๆ หลานๆ สนใจจะมาเรียนบ้าง แล้วพวกเราก็เดินเรียงแถวตามพระอาจารย์ไป และที่แรกที่ท่านพามาดูคือสถาบัน LHA ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะอยู่ในย่านการค้า ไปมาสะดวก มีสอนหลายระดับแบ่งตามตารางเวลา โดยครูสอนจะเป็นอาสาสมัครเจ้าของภาษาเลย สนใจเรียนคลาสไหนก็มาเรียนเวลานั้น ที่นี่เสียค่าเรียนคลาสละ 30 รูปี (ยกเว้นชาวทิเบตเรียนฟรี) แต่ห้องเรียนที่นี่จะดูมืดๆ ทืบๆ หน่อยนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-05-26 15:36:45 IP : 58.9.33.116





Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด