9-18 พฤษภาคม 53 : สิกขิม เมื่อ...
ReadyPlanet.com


9-18 พฤษภาคม 53 : สิกขิม เมื่อยามฝนพรำ
avatar
วันแรมทาง



 
สิกขิม เมื่อยามฝนพรำ 9-18 พฤษภาคม 2553
บักโดกรา-ดาร์จีลิ่ง-กาลิมปง-กังต๊อก-ทะเลสาบฉางกู-ลาชุง-ยุมถัง-เพลลิ่ง-บักโดกรา

กลับมาถึงเมืองไทยกันโดยสวัสดิภาพ ก่อนการประกาศเคอร์ฟิวในเมืองกรุงแค่วันเดียว ทำให้การเดินทางของทริปนี้จบลงโดยปกติสุข ทุกคนกลับถึงบ้านตามแผน ทั้งสาวเชียงใหม่ สาวชุมพร สาวชลบุรี และหนุ่มสาวชาวกรุงเทพฯ แม้ทริปนี้จะมีหลายเรื่องหลายอย่างผิดแผนไปบ้าง ด้วยอุปสรรคจากสภาพอากาศ จากสภาพถนนหนทาง และจากสภาพความพร้อมของร่างกายพวกเราเอง (แถมยังมีปัญหาจากการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่อีก) แต่โดยรวมแล้วทริปนี้ของเราก็บรรลุเป้าหมายค่ะ ทุกคนสนุกสนานเฮฮากันตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย และเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว กลับมาถึงเมืองไทยก็ยังติดต่อถึงกันด้วยความเป็นห่วงเพราะสถานการ์บ้านเมืองไม่ปกติ ดีใจจังที่ได้ร่วมเดินทางกับทุกคนในทริปนี้ และหวังว่าทริปนี้จะสร้างความประทับใจให้กับทุกๆ คนบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณทุกคนค่ะที่ทำให้การเดินทางสู่สิกขิมในครั้งนี้มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และเสียงกดชัตเตอร์ตลอดทาง ถึงจะเจอร้อนบ้าง หนาวบ้าง ฝนตกบ้าง แต่บนเส้นทางก็เต็มไปด้วยสีสันที่น่าจดจำค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ วันแรมทาง กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-05-21 13:48:44 IP : 125.24.20.239



ความคิดเห็นที่ 346 (1383732)
avatar
คนแรมทาง

ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

คิดถึงๆๆ สมาชิกในทริปนี้ทุกคนเลย สักวันคงได้เจอกันเพราะความคิดถึงจ้ะ :)

ขอโทษคุณกิมจิด้วยนะคะที่เข้ามาตอบช้าไปหน่อย(ไม่หน่อยซินะ ช้ามากกกก ผ่านมาเกือบเดือนแล้วอ่ะ)
ขอบคุณนะคะที่ติดตามชม และความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ตั้งแต่ยังไม่ได้เจอกัน

อย่างที่พี่เข้าใจก็น่าจะถูกค่ะ สิกขิมดูเหมือนจะมีแค่ฝนกับหนาว เพราะช่วงที่เมืองอื่นๆ ร้อนมากๆ สิกขิมก็ยังอากาศเย็นอยู่ค่ะ แต่จะบอกว่าเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเดือนที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวสิกขิมก็คงไม่ใช่นะคะ แต่เป็นช่วงที่มีดอกไม้เยอะ และมีจุดเด่นอยู่ที่กุหลาบพันปีบานค่ะ แต่ก็อาจจะเริ่มมีฝน ฟ้าครื้ม ไม่ค่อยได้เห็นเทือกเขานัก เพราะฟ้าไม่โปร่งค่ะ

ถ้าใครอยากเห็นฟ้าใสๆ อากาศเย็นๆ เห็นวิวเทือกเขาเต็มๆ ตา คงต้องไปช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่ตุลาคม-มีนาคมค่ะ ถ้าเป็นช่วงธันวาคม-มกราคม อากาศจะหนาวเย็นมาก และหิมะเต็มค่ะ

ช่วงที่ดีหรือที่เหมาะสำหรับไปสิกขิม ขึ้นอยู่ที่ว่าคนไปอยากได้ชื่นชมสิกขิมในมุมมองไหนมากกว่าค่ะ
หวังว่าวันแรมทางจะมีโอกาสได้ต้อนรับคุณกิมจิร่วมทริปสิกขิมในปีหน้านะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-07-20 22:34:17 IP : 125.24.36.31


ความคิดเห็นที่ 345 (1383654)
avatar
Gain

บรรยายยยยยได้  ยอดเยี่ยมขอชื่นชม

 

และความคิดถึงจะนำเรากลับมาเจอกันอีกนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น Gain (gain2550-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-07-20 15:20:30 IP : 58.11.56.49


ความคิดเห็นที่ 344 (1380658)
avatar
กิมจิ
ได้ติดตามชมรูปมาตลอด ทำให้อยากไปเทียวสิกขิมมากขึ้น  สนุกกับการเล่าเรื่องและภาพสวยๆ น้องๆวันแรมทางนิสัยน่ารักทุกคนเลยนะ  อึมสิกขิมมีแต่ฝนกับหนาวใช่ป่าว แล้วพฤษภาคมเป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปเที่ยวที่สุดใช่มั้ยคะ  หวังว่าคงได้ใช้บริการจากวันแรมทางในสิกขิมทริปปีหน้า
ผู้แสดงความคิดเห็น กิมจิ วันที่ตอบ 2010-06-22 13:44:12 IP : 118.172.79.139


ความคิดเห็นที่ 343 (1380652)
avatar
ช่าเองคะ

ขอบคุณวันแรมทางมากคะที่ทำให้ได้พบเพื่อนใหม่ที่ดีที่สุด  ทำให้ได้พบบรรยากาศที่สดชื่นตลอดเวลาในการเดินทาง ได้พบเพื่อนที่เข้าใจ เพื่อนที่ให้ความสนุก เพื่อนที่ให้รอยยิ้ม เพื่อนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันและเวลาที่คิดถึงถ้ามีโอกาสคงได้ร่วมทางกันอีกนะคะ ขอบคุณจากใจจริงคะ

                                 ช่าเองคะ

                                     

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่าเองคะ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-22 13:26:43 IP : 180.214.192.187


ความคิดเห็นที่ 342 (1380545)
avatar
คนแรมทาง
image

เช้านี้ฝนตกลงมาส่งพวกเรา แทนที่จะเป็นฟ้าเปิดให้เห็นยอดของโฉมงามคันเชงจุงก้า สรุปว่าโอกาสสุดท้ายที่จะได้ยลยอดเขาหิมะที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกได้หมดลงอย่างสิ้นเชิงแล้วค่ะ อุตส่าห์แอบหวังไว้ตอนก่อนนอนว่าอาจจะได้เห็นคันเชงจุงก้าออกมาโบกมือลาก่อนกลับซะหน่อย

ออกเดินทางได้สักพักฝนก็เริ่มหยุดแล้ว อากาศเย็น มีสายหมอกลอยมาตามลม กลายเป็นม่านหมอกนี่แหละที่มารับและมาส่งพวกเรา จริงๆ ก็อยู่กับเรามาตลอดทั้งทริปนี้แหละ ฝน หมอก ดอกไม้ และสายลมเย็นๆ ทริปนี้ชุ่มฉ่ำชื่นใจจริงๆ นั่งกันเงียบๆ ซึมซับบรรยากาศ สูดไอเย็นและอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดให้เต็มที่ คงอีกนานกว่าจะได้เจอกันอีกนะสิกขิม

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง พวกเราก็ลงมาถึงเมืองบักโดกรา อากาศเริ่มร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสียงแตรรถ ผู้คนเดินกันขวักไขว่ การจราจรติดขัด พลขับที่เคยเหยียบกระจายบนเส้นทางลัดเลาะขึ้นเขาลงเขา ตอนนี้กลายเป็นเต่าอยู่ในเมืองค่ะ เรากลับสู่โลกของความจริงแล้วค่ะ ความจริงที่ว่า ที่นี่....อินเดีย

พลขับไปส่งพวกเราถึงสนามบินบักโดกราประมาณ 10.30 น. ทุกอย่างราบรื่นดี พวกเราบอกลาไกด์และคนขับรถ แล้วเข้าไปเช็คอิน รอกลับบ้านกัน วันนี้เครื่องออกตรงเวลาค่ะ 12.05 น. เหิรฟ้าจากสนามบินบักโดกรา-ประเทศอินเดีย บินตรงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ-ประเทศไทย ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี พวกเรากลับถึงมาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ ถึงเมืองไทยจะอากาศร้อนกว่าสิกขิมมากมาย แต่เราก็รักเมืองไทยมากกว่าค่ะ สวัสดีเมืองไทย...ที่รักและคิดถึง

การเดินทางของความคิดถึงสิกขิมที่สะสมมา 3 ปี ตอนนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วค่ะ เราได้กลับไปเยือนสิกขิมอีกครั้งในวันที่ฝนตก (เหมือนเดิม) ทั้งที่ไปเร็วกว่าเดิมเกือบเดือน ได้สัมผัสบรรยากาศทั้งที่เหมือนและต่างจากเดิม กับเพื่อนร่วมทางกลุ่มใหญ่ (12 คน ถือว่าใหญ่แล้วค่ะสำหรับเส้นทางท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ทริปแสวงบุญของวันแรมทาง และใหญ่มากแล้วถ้าเทียบกับทริปแรกที่ไปกัน 3 คน) แต่เป็นกลุ่มที่ทุกคนสามารถเข้ากันได้ดี ทั้งที่ต่างวัยและต่างใจ ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ทำให้การเดินทางสู่สิกขิมในครั้งนี้สนุกสนานเฮฮาอารมณ์ดี มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ และมีมิตรภาพใหม่ๆ กับความประทับใจเก็บใส่กระเป๋ากลับมาเต็มๆ การเดินทางสิ้นสุดลง แต่ความทรงจำยังคงอยู่ตลอดไปค่ะ....ขอบคุณทุกคนนะคะ แล้วความคิดถึงจะพาเรากลับมาเจอกันอีกค่ะ :)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-21 13:27:45 IP : 125.24.73.189


ความคิดเห็นที่ 341 (1380544)
avatar
คนแรมทาง
image

สวัสดีค่ะพี่อ๋อย ทริปหน้ายังไม่ได้ออกเดินทางเลย เตรียมตั้งตารอดูเสียแล้วเหรอคะ

วันที่ 10 วันสุดท้ายของการเดินทาง อาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2553  :  เพ็ลลิ่ง (Pelling) - บักโดกรา (Bagdogra)

ตี 4 ครึ่ง พวกเราพร้อมกันที่ห้องอาหารค่ะ เป็นมื้อที่เช้าที่สุดในทริปนี้เลย แต่ก็ต้องกินรองท้องกันหน่อยนะ เพราะต้องนั่งรถอีกหลายชั่งโมง อาหารหลักๆ ของมื้อนี้ก็เป็นไข่ต้มค่ะ แจ้งกับทางโรงแรมไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน แล้วก็มีโจ๊กซองๆ ที่เตรียมมาจากเมืองไทย ขนมปัง เนย เครื่องดื่มชากาแฟ และอื่นๆ ค่ะ

เติมพลังเรียบร้อยก็เตรียมตัวออกเดินทาง ระหว่างรอพนักงานทยอยขนกระเป๋าขึ้นรถ ก็ถ่ายรูปกันไปพลางๆ (นางแบบพร้อมทำงานแต่เช้ามืดเลยจ้ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-21 13:14:00 IP : 125.24.73.189


ความคิดเห็นที่ 340 (1380537)
avatar
พี่อ๋อย
ชมไปก็คิดถึงความหลังเนอะ จะรอดูใหม่วันที่29นะจ๊ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พี่อ๋อย วันที่ตอบ 2010-06-21 12:13:50 IP : 180.180.193.197


ความคิดเห็นที่ 339 (1380500)
avatar
คนแรมทาง
image

หลังจากอิ่มท้องเรียบร้อย ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนกัน เพราะที่นี่ไม่มีอะไรให้ช็อปนักค่ะ อากาศเย็น หมอกหนา แล้วสายตาก็ดันไปสะดุดกับหลักกิโลเมตรหลักนี้เข้า ไม่ถ่ายไม่ได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องออกเดินทางแต่เช้ามืด จะรอแสงอาทิตย์คงไม่ได้ค่ะ กดซะเลย

คืนนี้ต้องรีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางตั้งแต่ตีห้าค่ะ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะทุกคน

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 23:55:38 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 338 (1380499)
avatar
คนแรมทาง
image

ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว คืนนี้เราจะพักที่ De Regency เป็นโรงแรมที่มาตรฐานดีแห่งหนึ่งในเพ็ลลิ่งค่ะ เก็บของเข้าห้องแล้วพักผ่อนกันสักหน่อย ก่อนออกไปกินอาหารค่ำที่ร้านอาหารซึ่พี่ปลากับน้องตาลเปิดหนังสือคู่มือเลือกมาค่ะ เป็นร้านในโรงแรม Kabur ซึ่งมีนักท่องเที่ยวแนะนำกันเยอะ แต่พอมาถึงร้านแล้ว รู้สึกว่าบรรยากาศไม่เหมาะกับผู้ใหญ่เท่าไหร่ค่ะ ไม่ใช่เรื่องอาหารหรือบริการนะ แต่เพราะแสงสีของร้านนี่แหละ แต่จะเปลี่ยนร้านใหม่ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วค่ะ เพราะฝนเริ่มตก และเมืองนี้เล็กมากๆ ไม่มีร้านอาหารให้เลือกมากนัก เท่าที่เดินผ่านมาก็จะเป็นร้านเล็กๆ ทั้งนั้นค่ะ

ได้เวลาอาหารแล้วค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 23:44:56 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 337 (1380497)
avatar
คนแรมทาง
image

ลงมาจากพระราชวังเก่า เราก็ไปเที่ยวต่อที่วัดพีมายางเซ (Pemayangtse) พระอารามทางศาสนาพุทธสายทิเบตที่เก่าแก่และงดงามค่ะ ที่วัดนี้ก็เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดอีกแห่ง เพราะตั้งอยู่บนภูเขาสูงค่ะ

แต่มาถึงที่นี่วัดก็ปิดแล้วจ้ะ วิหารใหญ่ปิดเรียบร้อย (ปิดอีกแล้ว คุณไกด์โดนหักคะแนนไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย) ส่วนวิหารน้อยๆ ที่มีกงล้อมนต์ขนาดใหญ่ยังเปิดอยู่ค่ะ และยังสามารถเยี่ยมชมรอบๆ วัดได้ค่ะ

ไปเดินถ่ายรูปรอบๆ วัดกันสักรอบ

พระลามะองค์น้อยๆ กำลังเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนานค่ะ

มองจากที่วัดจะเห็นพระราชวังแรบเด็นท์เซด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 23:15:52 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 336 (1380495)
avatar
คนแรมทาง
image

เกือบถึงแล้วค่ะ จากตรงนี้เดินอีกหน่อยเดียวก็เข้าเขตพระราชวังเดิมแล้ว

ไปต่อกันเลย

ถึงแล้วจ้ะ เดินชมบรรยากาศรอบๆ กันนะ สิ่งก่อสร้างที่เห็นอยู่นี้ ล้วนแต่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่แล้วเกือบทั้งสิ้นค่ะ

สุดท้ายแล้วฟ้าก็ไม่เปิดให้เราเห็นยอดเขาเลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 22:59:22 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 335 (1380494)
avatar
คนแรมทาง
image

เดินทางต่อถึงเพ็ลลิ่ง พวกเราก็แวะเที่ยวกันก่อนเลย เพราะเหลือเวลาเที่ยวน้อยแล้ว

ไปเที่ยวที่พระราชวังเก่าแรบเด็นท์เซ (Rabdentse Palace) เมืองหลวงแห่งที่ 2 ของสิกขิมต่อจากยุมสง (Yuksam) ราชธานีแห่งแรก แต่พระราชวังแรบเด็นท์เซนั้นตั้งอยู่บนภูเขานะคะ ต้องออกแรงเดินกันหน่อย ประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ ด้านบนเป็นจุดชมวิวยอดเขาคันเชงจุงก้าที่งดงามอีกแห่งหนึ่งด้วย (ถ้าฟ้าเปิดให้เห็นนะ)

ออกเดินกันเถอะเรา

ระหว่างทางจะมีป้ายบอกระยะทางที่เหลือ และคำพูดให้กำลังใจด้วย คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มเดินขึ้นมาแล้วเปลี่ยนใจน่ะ

ดูจากต้นไม้แล้ว ที่นี่น่าจะอากาศเย็นตลอดทั้งปีนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 22:44:23 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 334 (1380492)
avatar
คนแรมทาง
image

ช่ารักเด็กอีกแล้วค่ะ พอดีเด็กๆ เลิกเรียนเดินกลับบ้านผ่านมาแถวนี้ พี่ม่านเลยส่งยิ้มหวานๆ พร้อมลูกอมให้ แล้วก็ถ่ายรูปกันซะหน่อย แต่ดูจากแววตาของเด็กๆ แล้ว เหมือนจะกำลังสนใจอะไรบางอย่างอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นกล้องถ่ายรูปของใครสักคนที่กำลังจับภาพนี้แหละ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 22:36:02 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 333 (1380491)
avatar
คนแรมทาง
image

ขับรถมาอีกสักพักก็มาจอดแวะตอนจุดชมวิวต้นไม้ใหญ่ต้นนี้กัน

มองลงไปด้านล่างจะเห็นวิวประมาณนี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 22:26:46 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 332 (1380489)
avatar
คนแรมทาง
image

กินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อเลย แล้วก็มาแวะที่จุดตรวจก่อนเข้าเขตสิกขิมตะวันตกค่ะ ระหว่างที่รอคุณไกด์ทำเรื่องตรวจใบอนุญาต พี่ม่านกับพี่บีซึ่งตามหาไปรษณีย์เพื่อจะซื้อแสตมป์มาหลายวัน ก็เจอเข้ากับไปรษณีย์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ทีแรกก็ตั้งใจกันว่าจะติดแสตมป์ที่โปสการ์ดซึ่งเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะฝากส่งเลย แต่พอเห็นซองจดหมายเก่าๆ ซองหนึ่งที่วางอยู่ตรงนั้น เลยไม่มีใครกล้าฝากส่งสักคน ซื้อแสตมป์เสร็จก็ออกเดินทางต่อกันเลย
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 22:10:08 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 331 (1380482)
avatar
คนแรมทาง
image

พี่น้อยขอแวะซื้อผักสดๆ ข้างทางซะหน่อย ได้กระเจี๊ยบเขียวมา 2 มัดค่ะ ส่วนพี่ๆ แก๊งค์ สส. ก็ได้มะม่วงมาหลายลูก มื้อกลางวันนี้พวกเราเลยได้กินผัดกระเจี๊ยบเขียวกับยำมะม่วงกัน

มื้อนี้มีแม่ครัวหลายคนค่ะ ช่วยกันเตรียมวัตถุดิบใหญ่เลย

ส่วนคนผัดคือพี่น้อย ซึ่งพกพริกแกงแบบซองมาด้วย ผัดพริกแกงใส่ผักตามด้วยผู้ช่วยแม่อีกหน่อย อร่อยล้ำค่ะ เสียดายตอนกินลืมถ่ายรูปค่ะ หิวหน้ามืด กินกันไม่สนใจใคร หมดทุกอย่างค่ะ (ยกเว้นอาหารแขก)

เด็กน้อยน่ารักคนนี้ มากับพ่อและแม่ค่ะ มาแวะกินข้าวที่ร้านนี้เหมือนกัน พี่ปลาขออุ้มก็ให้อุ้มด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 21:03:44 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 330 (1380481)
avatar
คนแรมทาง
image

ขับรถมาอีกสักพักก็ถึงจุดแวะระหว่างทาง ซึ่งเป็นร้านค้าเล็กๆ มีอาหาร เครื่องดื่ม ขนมขาย และมีห้องน้ำให้เข้า แม้แต่รถบัสก็จอดแวะที่นี่กันค่ะ ดีนะที่พวกเรามาถึงก่อน ไม่งั้นต้องต่อคิวเข้าห้องน้ำยาวเลย 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 20:54:18 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 329 (1380477)
avatar
คนแรมทาง
image

ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกเดินทางกันเลย จากกังต็อกไปเพ็ลลิ่ง ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงค่ะ ระหว่างทางเราก็เลยต้องหาอาหารเสริมกันหน่อย คือพี่ปลาอยากกินข้าวโพดปิ้งแบบไม่แข็งมาหลายวันแล้วน่ะ แต่ยังไม่ได้กินซักที คราวนี้เจอแบบที่ใช่ เลยพุ่งเข้าใส่ทันที ส่วนใหญ่ที่เจอจะปิ้งแบบเอาข้าวโพดปอกเปลือกแล้ววางปิ้งบนถ่านโดยตรง ซึ่งทำให้เมล็ดข้าวโพดแข็ง แต่เจ้านี้ปิ้งทั้งเปลือก แล้วถึงปอกเปลือกออกมาอังไฟต่ออีกหน่อยก็สุกพอดี แต่ถ้าไม่กำกับอยู่ อังไฟนานก็อาจจะแข็งได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 20:32:16 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 328 (1380475)
avatar
คนแรมทาง
image

นั่นซิคะป้านุช ความสุขมันผ่านไปเร็วเสมอ แต่ความสุขอยู่กับเราตลอดเวลาในความทรงจำนะคะ (ถ้ายังจำได้อยู่ก็มีความสุขทุกครั้งที่นึกถึงค่ะ)

จะถึงโค้งสุดท้ายของทริปกันแล้ว นุ้ยสรุปจบทริปได้ทันสมดังตั้งใจก่อนเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบางแน่นอนค่ะ สู้ๆ มาต่อเลยนะคะ

วันที่ 9 ของการเดินทาง วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2553  :  กังต็อก (Gangtok) - เพ็ลลิ่ง (Pelling)

อรุณสวัสดิ์เมืองกังต็อกอีกครั้ง วันนี้พวกเราจะต้องออกเดินทางสู่เมืองเพ็ลลิ่ง ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทางตะวันตกของสิกขิม และเป็นเมืองสุดท้ายทางตะวันตกที่นักท่องเที่ยวจะไปถึงได้ค่ะ เพ็ลลิ่งยังเป็นศูนย์กลางของการเทรกกิ้ง หรือการเดินป่าเดินเขาของนักเดินเท้าสู่ภูเขาหิมะซึ่งออกเดินทางจากเมืองนี้ด้วย

ก่อนออกเดินทาง เช้านี้เราไปเติมพลังกันที่ร้านเดิม Baker Cafe ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 20:07:41 IP : 180.180.1.4


ความคิดเห็นที่ 327 (1380472)
avatar
ป้านุช

 เฮ้อ อ่านมาใกล้จบแล้วซิ ความสุขนี่มันช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน

ผู้แสดงความคิดเห็น ป้านุช วันที่ตอบ 2010-06-20 19:27:37 IP : 58.147.20.205


ความคิดเห็นที่ 326 (1380450)
avatar
คนแรมทาง
image

กลับมาถึงกังต็อกโดยสวัสดิภาพ พวกเราเข้าพักที่โรงแรมการ์มาที่เดิม และได้ห้องเดิมกันเกือบทุกคน เวลาที่เหลือช่วงเย็นก็ให้ทุกคนได้พักผ่อน เดินเล่น ช็อปปิ้งกันตามอัธยาศัย แล้วมื้อค่ำค่อยเจอกัน มื้อนี้เรากับพี่ปลาเลือกร้านหรูสไตล์ฝรั่งที่เดิม เพื่อฉลองวันเกิดให้พี่น้อยด้วย จองโต๊ะเรียบร้อย ก็เดินไปสั่งเค้กที่ร้านเบเกอร์ คาร์เฟ่ และด้วยความที่กลัวว่ามื้อเย็นนี้พี่น้อยจะไม่มากินด้วยอีก เลยต้องกำชับป้านุชให้ชวนพี่น้อยมาให้ได้ ไม่งั้นจะเสียความตั้งใจค่ะ แล้วพี่น้อยก็มาในที่สุด พอทานข้าวกันเสร็จพวกเราก็ร้องเพลง  Happy Birthday ให้พี่น้อยอธิษฐานเป่าเทียนวันเกิดกัน โดยมีพี่น้อยกำกับจังหวะด้วยตัวเองค่ะ

สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่น้อย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 14:58:02 IP : 117.47.241.16


ความคิดเห็นที่ 325 (1380449)
avatar
คนแรมทาง
image

ขับตามกันมาจนเข้าใกล้กังต็อกแล้ว รถคันของเราเกิดยางแบน ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรทิ่มเอา เลยต้องจอดเปลี่ยนยางกัน โดยมีพลขับของรถสว.และรถสส. มาช่วยอย่างแข็งขัน เจ้าหนุ่มน้อยของเราดูจะคล่องแคล่วสู้พี่ๆ ไม่ได้ นี่แหละนะคุณค่าของประสบการณ์ ความชำนาญอยู่ที่การฝึกฝนและได้ปฏิบัติจริงๆ ถึงจะขับรถดีแค่ไหน ยังไงก็ยังอ่อนประสบการณ์อยู่ดี

ทุกคนยืนให้กำลังใจ แต่ดูสมาชิกรถเราซิ ทำท่าเหมือนไว้อาลัยให้กับยางที่จากไปอย่างนั้นแหละ...555

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 14:47:53 IP : 117.47.241.16


ความคิดเห็นที่ 324 (1380444)
avatar
คนแรมทาง
image

พอกินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ รถเรานำหน้ามาได้พักหนึ่งพลขับก็จอดข้างทางเพื่อรออีกสองคันข้างหลัง พวกเราก็เลยลงมานั่งชมวิวกัน นางแบบก็เลยต้องทำงานตามระเบียบ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 14:39:41 IP : 117.47.241.16


ความคิดเห็นที่ 323 (1380443)
avatar
คนแรมทาง
image

ผ่านไปเกือบครึ่งวันพอดี พวกเราแวะกินข้าวกลางวันที่ร้านเดิม เมื่อตอนขาไปแวะที่ตอนฝนตก เลยไม่ได้สังเกตุชื่อร้าน วันนี้แวะตอนฝนไม่ตกเลยเดินสำรวจรอบๆ ร้านซะหน่อย ที่นี่เป็นโรงแรมด้วยค่ะ ทั้งโรงแรมและร้านใช้ชื่อว่า Hotel Angeela Fooding ห้องทานอาหารมีระเบียบยื่นออกไปให้ชมวิวกว้างๆ ของนาข้าวขั้นบันไดด้านล่างได้กว้างๆ ส่วนห้องครัวที่ปรุงอาหารแยกออกมาอยู่อีกหลังหนึ่งค่ะ

ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ พวกเราก็นั่งกินบรรยากาศกันไปก่อน

 

ผ้าหลุมไหล่ผืนนี้ นุ้ยเพิ่งเอาออกมาใช้เป็นครั้งแรก หลังจากซื้อมาจากพาราณสีเมื่อทริปแสวงบุญปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทั้งร้านเหลือลายนี้ สีนี้อยู่ผืนเดียว เป็นผืนที่แขวนโชว์ค่ะ แต่ชอบเลยให้เค้าสอยลงมาให้ ซักเก็บไว้อย่างดี เพิ่งมีโอกาสได้ออกงานคราวนี้แหละ พี่น้อยถามว่ามีอีกมั้ย พี่น้อยชอบสีส้ม ก็บอกไปตามตรงว่ามีผืนเดียวค่ะ แต่ถ้าเป็นโทนสีส้มลายอื่นๆ ก็ได้ เดี๋ยวกลับมาดูให้ที่บ้าน ตอนนั้นพี่น้อยก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ยืมไปถ่ายรูปนี่แหละ หลังจากนั้นพี่น้อยก็บอกตามตรงว่าอยากจะซื้อต่อ ขายให้ได้มั้ย นุ้ยก็ยังไม่ได้ตอบอะไรค่ะ เพราะยังงงๆ อยู่ ไม่คิดว่าพี่น้อยอยากได้จริงๆ ของเราก็เอาออกมาใช้แล้วด้วย เลยเงียบๆ ไป

มาปรึกษากับพี่ปลาว่าพี่น้อยขอซื้อ แล้วก็สรุปกันว่าถ้าพี่น้อยเงียบๆ ไปไม่ได้ทวนถามอีก กลับไปจะไปดูของใหม่ๆ ที่มีอยู่ว่ายังมีสีส้มมั้ย แล้วค่อยส่งข่าวไปบอกพี่น้อยอีกที แต่ผลสรุปสุดท้ายว่าวันที่จะกลับเมืองไทย พี่น้อยมาทวงคำตอบเรื่องผ้า พร้อมกับบอกว่าจบทริปแล้วค่อยให้ก็ได้ งานนี้เลยต้องยอมแต่โดยดี เพราะเห็นแล้วว่าพี่น้อยชอบมากจริงๆ ส่วนเราเองยังไปพาราณสีอยู่บ่อยๆ ค่อยไปหาซื้อใหม่ก็ได้นะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 14:08:45 IP : 222.123.34.151


ความคิดเห็นที่ 322 (1380441)
avatar
คนแรมทาง
image

ถัดจากด่านตรวจมาอีกพักใหญ่ พลขับก็พาพวกเราแวะที่จุดชมวิวแห่งหนึ่ง ซึ่งรถคันอื่นก็ไม่ได้แวะกัน เราเริ่มเข้าใจแล้วแหละที่คนขับชอบบ่นในรถว่าไกด์ขี้เกียจเพราะอะไร เพราะหลายๆ ที่หลายๆ แห่งที่ควรจะพาไปพาแวะ ไกด์มักไม่ทำ ขนาดที่ๆ บอกให้พาไปยังไม่ไปเลย ซึ่งคนขับคงจะเปรียบเทียบกับไกด์คนอื่นๆ ที่เคยเจอแล้วเห็นว่าคนนี้ขี้เกียจจริงๆ

คลื่นภูเขาสลับซับซ้อนกันไปสุดลูกหูลูกตา นี่ถ้าฟ้าโปร่งๆ คงมองเห็นเขาเรียงซ้อนกันได้ไกลกว่านี้อีก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 13:46:08 IP : 117.47.241.16


ความคิดเห็นที่ 321 (1380440)
avatar
คนแรมทาง
image

ระหว่างรถจอดที่ด่านตรวจ พวกเราก็ลงไปยืดเส้นยืดสาย ถ่ายรูป และเข้าห้องน้ำกัน รอคิวเข้าห้องน้ำอยู่ก็เห็นแม่ไก่กับลูกไก่กลุ่มนี้กำลังเดินหาอาหารกันอยู่ค่ะ น่ารักดีจัง เจ้าลูกไก่เดินตามแม่ต้อยๆๆ เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 13:39:54 IP : 222.123.34.151


ความคิดเห็นที่ 320 (1380439)
avatar
คนแรมทาง
image

ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว พี่ปลาบอกให้ไกด์พาไปแวะที่วัดลาชุงก่อน เพราะเมื่อวานกลับมาถึงลาชุงบ่ายมากแล้ว พอทานข้าวกันเสร็จก็เลยปล่อยให้พักผ่อนกัน แต่คุณไกด์ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากพาไปนัก แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ แล้วสุดท้ายพวกเราก็ไม่ได้เที่ยววัดลาชุงอยู่ดี เพราะคุณไกด์ไม่ได้บอกคนขับรถคันอื่นๆ ให้ไปที่วัด ยกเว้นคันที่ตัวเองนั่งไป พอมาเจอกันตรงจุดพักรอ คุณไกด์ก็มาบอกว่าไปถึงวัดมาแล้ว แต่วัดปิด แล้วก็ยืนยันว่าบอกรถทุกคันแล้ว แต่คนขับคันเราก็ยืนยันเช่นกันว่าไกด์ไม่ได้บอกเค้า จะเชื่อใครดีหว่า หลังจากไกด์และพลขับส่งภาษากันครู่หนึ่ง พวกเราก็ออกเดินทางต่อ และสังเกตได้ว่าหนุ่มน้อยพลขับคันเราจะถูกสั่งห้ามนำหน้าทิ้งช่วงคันอื่น เวลาขับนำไปได้ระยะหนึ่งก็จะต้องจอดรอตลอด แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับพวกเรานะ ปกติก็รั้งท้ายเพื่อจอดถ่ายรูปกันอยู่แล้ว

ระหว่างจอดรถรอคันสส. ที่แวะไปวัดมา พวกเราก็ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ จ้ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 13:30:42 IP : 222.123.34.151


ความคิดเห็นที่ 319 (1380435)
avatar
คนแรมทาง
image

ก่อนที่พวกเราจะออกเดินทาง ทางโรงแรมได้มีพิธีขอบคุณ และอวยพรให้พวกเราโชคดี เดินทางโดยสวัสดิภาพ และมอบผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์นี้ให้ทุกคนตามประเพณีปฏิบัติของชาวพุทธนิกายมหายานคะ

พอรับผ้ากันถ้วนหน้าแล้ว พวกเราก็มาบันทึกภาพหมู่เป็นที่ระลึกกันก่อนออกเดินทาง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 12:27:14 IP : 114.128.143.28


ความคิดเห็นที่ 318 (1380434)
avatar
คนแรมทาง
image

ก่อนอาหารเช้า และหลังอาหารก่อนออกเดินทาง หลายคนใช้เวลาส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่การถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ ที่พักนี่แหละ

เช้านี้มีโอกาสพิเศษด้วย เป็นวันครบรอบวันเกิดของพี่น้อยคนสวยค่ะ ขออนุญาตไม่บอกนะคะว่าฉลองครบปีที่เท่าไหร่ แต่ขอกระซิบบอกว่าพี่น้อยหน้าตาอ่อนกว่าอายุหลายยยยยยยยปีค่ะ

หลังอาหารเช้าพวกเราก็เลยร่วมกันอวยพรวันเกิดให้พี่น้อยกัน ขอให้มีความสุข และสุขภาพแข็งแรงอย่างนี้ไปอีกนานๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 12:17:50 IP : 117.47.61.106


ความคิดเห็นที่ 317 (1380433)
avatar
คนแรมทาง
image

วันที่ 8 อาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2553  :  ลาชุง (Lachung) - กังต็อก (Gangtok)

สวัสดีวันใหม่ค่ะ เช้านี้ที่ลาชุงฝนไม่ตก แต่ฟ้าก็ยังไม่เปิดนะ แอบตื่นแต่เช้ามาแง้มม่านที่หน้าต่างดูเพื่อว่าฟ้าจะเปิดแต่เช้าตรู่ให้ได้เห็นยอดเขาหิมะเต็มๆ ตาบ้าง แต่ก็ผิดหวังเป็นวันที่สองค่ะ

มาลาชุงครั้งนี้ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจเลย แต่ถ้าจะโทษใครสักคนที่ทำให้ฤดูกาลเริ่มแปรปรวนไป ก็คงต้องโทษที่คนเราเองนี่แหละที่ทำร้ายธรรมชาติก่อน ยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของอากาศในหลายๆ พื้นที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ ยิ่งรู้สึกกลัวว่าวันหนึ่งสถานที่เหล่านี้จะไม่สวยเหมือนเดิมค่ะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้ในทุกๆ สถานที่ที่มีโอกาสได้ไปเยือน คือ เที่ยวอย่างรู้คุณค่าและรักษาธรรมชาติไว้ให้คงเดิมมากที่สุดค่ะ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-20 12:14:06 IP : 117.47.61.106





Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด