|
5 สถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดในโลกที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต! | |
soniasu |
หลายๆ ครั้ง ที่คนชอบคิดว่า “สถานีรถไฟใต้ดิน” ในต่างประเทศ มักจะไม่สะอาด มืด น่ากลัว ไม่ควรเดินทางไปคนเดียว และไม่ใช่ที่ๆ จะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่น รีบไปรีบกลับน่าจะเป็นการดีที่สุด ซึ่งคนที่คิดแบบนี้ แน่นอนครับว่า คงไม่เคยได้ไปสัมผัส “สถานีรถไฟใต้ดิน” เหล่านี้เป็นแน่ เพราะสถานีเหล่านี้จากทั่วทุกมุมโลกคือตัวอย่างของสถานีที่สวยงามที่สุด มีตั้งแต่สถานีที่สวยงามราวกับนำหอศิลป์ขนาดใหญ่มาตั้งไว้ที่สถานี ไปจนถึงสถานีที่เลียนแบบเรือดำน้ำโบราณ เรามาดูกันเลยว่าสถานีรถไฟใต้ดินเหล่านั้นจะอยู่ที่ประเทศไหนกันบ้าง และต้องขอบอกว่า ความงามของสถานีเหล่านั้น อาจทำให้คุณอยากจองตั๋วเครื่องบิน ไปลองนั่งรถไฟด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิตก็เป็นได้ครับ 1. สถานีรถไฟใต้ดิน T-Centralen กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
ถือเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นชื่อว่ามีสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ครับ กับกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ที่นี่ สถานีรถไฟใต้ดินได้ถูกรังสรรค์ราวกับยกหอศิลป์เอามาไว้ใต้ดินเลยทีเดียว ศิลปินกว่า 140 ท่าน ได้ฝากผลงานเอาไว้ในกว่า 90 สถานีทั่วเมืองครับ มีทั้งงานศิลปะ และจิตรกรรม ที่มีทั้งแบบชั่วคราวมาจัดแสดง หรือเป็นแบบถาวรก็มีครับ และไฮไลท์ก็อยู่ที่สถานีที่ชื่อ T-Centralen นี่เองครับ โดยสถานีนี้เป็นสถานีใหญ่ ที่เป็นจุดรวมของสามสถานี ซึ่งผลงานศิลปะที่เป็นพระเอกของสถานีนี้ถูกบรรจงสร้างเอาไว้เมื่อปี 1970 ครับ โดยลักษณะจะเป็นภาพวาดสีน้ำเงินขาว เป็นรูปคล้ายช่อมะกอกโค้งรับกับซุ้มทางเดิน ตัดกับสีขาว และกระเบื้องโมเสก ถือได้ว่าทำออกมาไร้ที่ติมากๆ ครับ เอาเป็นว่า ใครมีโอกาสจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวสวีเดนแล้วล่ะก็ อย่าลืมหาโอกาสนั่ง รถไฟไปที่สถานีนี้นะครับ 2. สถานีรถไฟใต้ดิน Toledo เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี
หากใครที่ชื่นชอบงานศิลปะแบบโมเสก ประกอบกับการเล่นแสงของไฟ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง แถมได้รับความประทับใจไปเต็มๆ อย่างแน่นอนครับ กับสถานีรถไฟใต้ดิน Toledo ที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี สถานีนี้เปิดเมื่อปี 2012 นี่เองครับ และได้กลายเป็นหนึ่งในสถานีที่สวยที่สุดในโลกไปเสียแล้ว จากผลงานศิลปะจากกระเบื้องโมเสกของศิลปินชื่อ William Kentridge ที่บอกเล่าเรื่องราวของสายน้ำ และแสงไฟ ผ่านอุโมงค์ลงไปยังชานชาลาของสถานี ค่อยๆ ไล่สีลงไปโดยการใช้กระเบื้องโมเสก และกระเบื้อง Bisazza พร้อมแสงไฟที่สาดส่องอย่างงดงาม ทันทีที่เพื่อนๆ ได้ลงบันไดเลื่อนลงไปเรื่อยๆ นั้น เพื่อนๆ จะเข้าใจเองครับว่าความงดงามของศิลปะชิ้นนี้ มีความน่าประทับใจมากแค่ไหน 3. สถานีรถไฟใต้ดิน Union Station กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา
สถานีนี้ในอเมริกา ถือได้ว่ามีความแตกต่างอย่างมากจากสถานีอื่นๆ ในประเทศครับ เนื่องด้วยประวัติศาสตร์ที่มีของสถานีนี้มีความแตกต่างออกไปนั่นเอง โดยสถานีนี้ถูกวางแผนสร้างขึ้นในช่วงสมัยของประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ที่ต้องการให้สถานีนี้สะท้อนความมีเกียรติของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่เพียงแค่สักแต่ว่าสร้างไปอย่างนั้น และผลที่ออกมาก็เป็นดั่งที่เห็นครับ ศิลปะจากหลายๆ สิ่งก่อสร้างในโลกถูกรวมเอาไว้ที่นี่ การแกะสลักเพดานถูกรังสรรค์อย่างปราณีตงดงาม เพดานโค้งเว้า ได้รับแบบอย่างจากมหาวิหารของคริสตจักรในอดีต ใครที่ได้มาสัมผัสสถานีรถไฟใต้ดินแห่งนี้ก็ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่นี่ให้ความรู้สึกทั้งความยิ่งใหญ่ และความสงบราวกับว่าได้เข้ามาในโบสถ์ มากกว่าเข้ามาในสถานีรถไฟใต้ดินเสียอีกครับ 4. สถานีรถไฟใต้ดิน Arts et Metiers กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
พบกับสถานีที่เต็มไปด้วยความงามของจิตรกรรม และงานกระเบื้องโมเสกกันไปแล้ว มาถึงคราวของอะไรที่เท่ๆ กันบ้างครับ กับสถานีแห่งนี้ในประเทศฝรั่งเศส ที่ออกแบบมาราวกับว่าเพื่อนๆ ได้ย้อนยุคไปนั่งอยู่ในเรือดำน้ำทองแดงในอดีตเลยล่ะครับ ผลงานการออกแบบสถานีแห่งนี้ออกแบบโดยศิลปินนักวาดการ์ตูนชื่อดังชาวเบลเยี่ยมที่ชื่อ Francois Schuiten โดยได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานนิยายของ Jules Verne ครับ โดยผนังของชานชาลาถูกบุอย่างปราณีตด้วยโลหะเงาวับสีทองแดง เพดานถูกตกแต่งห้อยลงมาด้วยเกียร์ และผนังถูกประดับประดาด้วยภาพวาดสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งใครที่ได้มาสถานีนี้ ก็อย่าลืมแวะขึ้นไปที่พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ด้านบนของสถานีนี้นะครับ เพราะเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งประดิษฐ์ในศตวรรษที่ 18-19 ที่เจ๋งไม่แพ้ความงดงามของสถานีนี้เลยทีเดียว! 5. สถานีรถไฟใต้ดิน Formosa Boulevard เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน
ปิดท้ายกันที่เมืองในแถบเอเชียกันบ้างครับ สำหรับเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เมืองนี้มีสถานีรถไฟที่ได้รับการขนานนามว่ามีผลงานศิลปะจาก “แก้ว” ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ครับ โดยผลงานของสถานีนี้ ถูกรังสรรค์โดยศิลปินชาวอิตาลีชื่อ Narcissus Quaglianta ด้วยการนำแก้วน้ำเข้าจากเยอรมันกว่า 4,500 ชิ้น มาสร้างเป็นโดมขนาดใหญ่กว่า 30 เมตร บอกเล่าเรื่องราวของ “ความรักและความอดทน” ของชีวิตมนุษย์ และยังแสดงถึงดิน น้ำ แสงและไฟอีกด้วย ยังไม่พอครับ สถานีนี้ยังมีผลงานศิลปะสามมิติ ของศิลปินชื่อดัง Su Chia-hsien อีกด้วยครับ เอาเป็นว่า หากเพื่อนๆ ต้องการสัมผัสความงามของสถานีแห่งนี้ พยายามหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนนะครับ แล้วเพื่อนๆ จะได้อิ่มเอมกับงานศิลปะที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
เป็นอย่างไรก็บ้างครับเพื่อนๆ กับสถานีรถไฟใต้ดินทั้ง 5 สถานีข้างต้น ถ้าเพื่อนๆ ได้มีโอกาสได้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปประเทศเหล่านี้ ก็อย่าลืมแวะเวียนไปสัมผัสความงามกันได้นะครับ ส่วนใครที่กำลังวางแผนเที่ยวต่างประเทศ ก็อย่าลืมให้เรา เอ็กซ์พีเดีย (Expedia) เป็นผู้ช่วยในการวางแผนเที่ยวของเพื่อนๆ นะครับ ทั้งเรื่องการจองตั๋วเครื่องบิน และที่พัก ตอบครบจบในที่เดียวเลยครับ!
|
ผู้ตั้งกระทู้ soniasu :: วันที่ลงประกาศ 2016-11-28 15:40:18 IP : 223.27.244.48 |
Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด |