ที่ปลาไม่ถูกใจคือ อยากจะเดาว่า ลามะเอาผ้ามาคล้องคอ ถ้าไห้เงินไม่ยอมเอาผ้าออก ใช่ไหม

at Hemis Monastery
Photo by Pla - 2 July 2009 at 10:00 am
_________________________________________________

พวกเรายืนขาแข็งกันอยู่ชั่วโมงนึงแล้ว ตามกำหนดการงานจะเริ่ม 10 โมงเช้า แต่นี่ก็ได้เวลาแล้ว ผู้คนเริ่มเข้ามาในงานเยอะขึ้น พวกเราก็ถูกเบียดมากขึ้นเรื่อยๆ ผนังด้านหลังพวกเรา หลวงพี่ท่านก็เพิ่งลงสีไว้ใหม่ๆ เป็นสีฝุ่นสีขาว พิงเข้าไปได้เรื่องติดสีขาวกันมาเป็นแถบๆ

ฝนก็ตกๆ หยุดๆ บางทีก็เหมือนมีเกล็ดหิมะปลิวลงมา หนาวจัง..
เมื่อยแล้ว เมื่อยอีก ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มองลงมาด้านล่าง พวกลามะเริ่มมานั่งกันแล้ว แต่แขกวีไอพี ยังไม่มีใครมา เก้าอี้ว่างแบบน่านั่งเหลือเกิน (โอย..เมื่อย แต่ไม่กล้าบ่น ในฐานะผู้นำ ป.ปลา ต้องอดทน โอย...)

แล้วเราก็เห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกใจอย่างแรง...

at Hemis Monastery
Photo by Pla - 2 July 2009 at 09:00 am
_________________________________________________

พี่ตุ๊กหันมาถาม ป.ปลา ว่าแล้วคนท้องถิ่น คนพื้นเมืองล่ะปลา ไม่เห็นมี
มองไปทางขวา.. ก็เห็นมีชาวบ้านนั่งอยู่กลุ่มนึง ก็มีเท่าที่เห็น ที่เหลือก็นักท่องเที่ยวทั้งนั้น หัวดำหัวแดงเต็มไปหมด..

พื้นที่ตรงเก้าอี้สีขาวที่ว่างๆ ไว้ ก็ไม่รู้ว่ากั้นไว้ให้ใคร ไม่มีป้ายบอก
ส่วนพื้นที่ชั้นล่างในอาคาร ตรงมุมเสา หลังแนวเชือกที่กั้นเก้าอี้ขาวๆ ถูกจัดเตรียมไว้ให้ พวกนักข่าวกับสื่อต่างๆ (press and media)

at Hemis Monastery
Photo by Pla - 2 July 2009 at 09:00 am
_________________________________________________

ในที่สุดก็เข้างานได้สักที..
มาถึงงาน ซึ่งก็คือลานหน้าวัด ผู้คนยังไม่แน่นแต่มากมายพอควรแล้วเพราะพวกเราหาที่นั่งไม่ได้เลย ป.ปลา ทิ้งคณะ ขอตัวไปเดินสำรวจรอบๆ ก็พบว่าที่นั่งถูกจองไว้หมดแล้ว

พื้นที่ด้านในตัวอาคารที่เห็น ชั้นล่างถูกจัดเตรียมไว้สำหรับ ลามะ พระสงฆ์และภิกษุณี แม่ชี ทั้งหลาย
พื้นที่ชั้นสอง เตรียมไว้สำหรับแขก วีไอพี (ซึ่งจนงานเริ่มแล้วก็ยังไม่มีใครมานั่ง)
พื้นที่ด้านบนที่เห็นมีคนยืนกันเต็มนั้น หลวงพี่ท่านขายบัตรค่ะ 200-300 รูปี นั่นแหละไม่แน่ใจ ข้างบนนั้น..พอเดินขึ้นไปจะมีแนวเชือกกั้นไว้ ถ้าเข้าไปในแนวเชือกก็จะมีลามะเดินมาบอกว่าต้องซื้อบัตร พอถามท่านว่าซื้อบัตรแล้วได้นั่งหรือเปล่า ท่านบอกว่าเปล่า โยมต้องเอาเก้าอี้มาเอง ค่าบัตรนี่คือเสียเป็นค่าเข้าพื้นที่ตรงนี้เท่านั้น แหะๆ.. ไปล่ะหลวงพี่ ขึ้นมาดูแล้วก็ไกลมองอะไรด้านล่างไม่เห็น แถมยังเสียตังค์แล้วไม่ได้นั่งอีก ไปดีกว่า..

กลับลงมาแจ้งข่าวด้านล่าง ทุกคนบอกว่าไม่เสียตังค์ละ ยืนแอบๆ แถวๆ นี้ดีกว่า
พวกเราปักหลักตรงระเบียงชั้นสอง ได้ที่ริมหน้าต่าง มีที่ทางให้พอยืนได้ ประมาณว่าซ้อนแถวได้สองคนแบบไม่เบียด ด้านหน้าเรามีเก้าอี้พับตัวเล็กๆ วางไว้ 10 กว่าตัว เป็นของคณะทัวร์ฝรั่ง ทีมงานเขาได้เอาเก้าอี้มาจับจองที่นั่งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ฝรั่งพวกนั้นยังไม่มา ที่ตรงนี้ไม่เสียตังค์แต่ถ้าอยากนั่งตรงนี้ต้องส่งคนมานอนจองที่ไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็ขนเก้าอี้กันมาเอง คณะฝรั่งเขาทำกันอย่างนั้น แต่กระเหรี่ยงอย่างเราไม่ต้องจอง มาหาเอาข้างหน้าเบียดๆ กันไป เมื่อยดี..

(งกน่ะ..สรุป)

at Hemis Monastery
Photo by Pla - 2 July 2009 at 09:00 am
_________________________________________________

จากประตูเล็กๆ ที่ถูกดักเก็บเงินบริจาค เราต้องเดินตามทางขึ้นไปอีกสักเหนื่อยถึงจะไปถึงวัดเฮมิสที่อยู่ด้านบน ป.ปลา บอกให้ทุกคนเดินขึ้นไปกันก่อน เพราะสมาชิกสำคัญหายไปสอง พอกลับลงมาดูข้างล่าง อะ..ที่หน้าประตูนั่นเอง พบพี่น้อยกำลังยืนซื้อแผ่นซีดีเพลงและบทสวดมนต์ของลามะอยู่ โดยมีน้องตาลเป็นผู้ช่วย เห็นว่ากำลังให้คนขายเปิดแผ่นให้ฟัง แหะๆ งานยังไม่เริ่มเลย พี่น้อยของเราก็ออกสตาร์ทซะแล้ว

ไม่ทันได้ดูว่าตกลงแล้วพี่น้อยได้ซื้อแผ่นซีดีหรือเปล่า ป.ปลา ก็แว๊บขึ้นมาก่อน ก็เห็นว่ามีน้องตาลดูแลอยู่แล้วทั้งคนเลยไม่ห่วง มาถึงเห็นทุกคนยืนรออยู่ ป.ปลา ก็เลยเดินขึ้นไปซื้อตั๋วเข้างานที่หน้าประตูวัด งานนี้ คนละ 100 รูปีค่ะ บัตรที่หลวงพี่เอามาจำหน่ายเราก็เป็นบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ภายในวัดนั่นแหละ ปกติถ้าไม่ได้มีงานเทศกาล เวลาเข้ามาเที่ยววัดก็ไม่เสียเงิน อาจจะมีทำบุญบ้าง 20-30 รูปี แต่วันนี้มีงานสำคัญ เลยเก็บเงินกันซะหน่อย ราคานี้เฉพาะต่างชาติค่ะ ชาวพื้นเมืองรู้สึกว่าจะเสียแค่ 10-20 รูปี เท่านั้น

at Hemis Monastery
Photo by Pla - 2 July 2009 at 09:00 am
_________________________________________________

ถึงแล้ววัดเฮมิส..
รถกำลังจะเลี้ยวไปตามทางขึ้นสู่วัด อยู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่มาโบก เห็นเขาคุยกันกับคนขับเป็นภาษาลาดัก ว่าอะไรไม่รู้ฟังไม่ออก แต่ก็พอเดาๆ ได้ว่าไม่ให้รถขึ้นไปทางนี้ ทางนี้อนุญาตให้เฉพาะวีไอพี เท่านั้น (อะไรกัน..เรามีป้านุชมาด้วยนี่ ยังวีไอพีไม่พออีกเหรอ) สรุปก็คือพวกเราต้องเลี้ยวไปอีกทาง ไปได้ไม่ไกลแค่สัก 100 เมตร รถก็จอดติดกันเป็นแถวๆ คนขับบอกให้เราลงตรงนี้เลย รถเข้าไปไม่ได้แล้ว พี่แกชี้ทางเดินให้เราเดินขึ้นเขาไป วัดอยู่ข้างบนโน่นนน.. แน่ะ

อันที่จริง ป.ปลา เคยเดินแล้วล่ะเมื่อปีก่อน แต่ไม่บอกใครหรอกนะว่ามันไกลโขอยู่ อิอิ กลัวทุกคนท้อแท้ หมดกำลังใจน่ะ ขณะที่ทุกคนก้าวลงมาจากรถ พวกเราก็พบว่าอากาศมันเริ่มหนาวจับจิต หูเย็นยะเยือกเลย ฝนก็เริ่มตกพรำๆ ป.ปลาเก็บกล้องก่อนล่ะก้า ตัวเปียกได้แต่กล้องเปียกไม่ได้ (เดี๋ยวพี่นุ้ยจะดุเอาค่ะ) ทุกคนเอาเสื้อกันหนาว หมวก ถุงมือ มาใส่ เอาล่ะ..พร้อมเดิน ไปกันเถอะค่ะ..

เดินขึ้นมาตามทางเรื่อยๆ หายใจลึกๆ เหนื่อยนะแต่ฟอร์มแข็งแรงในฐานะผู้นำ (โอย..เหนื่อย)
สองข้างทางมีชาวลาดักนำของมาขาย เหมือนงานวัดบ้านเราเลย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป (กลัวกล้องเปียกนิ) มีร้านขายผัดหมี่ ขายโมโม่ไส้ผัก ขายลูกชิ้น เฮ้ย..อันหลังนี่มันงานวัดสัตหิบแล้ว อิอิ

ขึ้นมาถึงประตูด่านแรก มีลามะสองรูป มายืนดักขอเงินบริจาค ทีแรก ป.ปลา ก็นึกว่าต้องจ่ายค่าตั๋วเข้างานตรงนี้ พอเข้าไปถามถึงรู้ว่าไม่ใช่ หลวงพี่ท่านบอกว่า เงินบริจาคน่ะโยม as you like... ha ha (ทุกที) พยายามฟังอยู่นานว่ามันบริจาคค่าอะไรกันฟะ? ก็ฟังไม่รู้เรื่อง สงสัยภาษาอังกฤษแบบแขกๆ ของ ป.ปลา จะไม่แข็งแรงพอ ก็เลย เอาวะ.. ใจป้ำบริจาคไปซะ 200 รูปี ให้มันรู้กันไปว่าคณะเรา คนไทยใจดี แหะๆ พอได้ใบเสร็จมาแล้ว อ่านแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีแหละว่าไอ้ที่บริจาคไปมันค่าอะไร ไม่เป็นไรนิ ทำบุญ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

ปล. ฝรั่งตาน้ำข้าวทั้งหลาย ไม่มีใครยอมบริจาค แถมยังบ่นกันหงุบหงิบๆ ทำนองตำหนิกันด้วย ส่วนชาวพื้นเมืองลาดักเอง เขาก็ทำบุญกันนะ เห็นยื่นเงินให้โดยไม่คิดอะไร คนละ 10-20 รูปี ท่าทางดูมีความสุขกันอีกต่างหาก ชาวพุทธเหมือนกันคงเข้าใจกันมากกว่า..

On the way from Leh to Hemis Monastery
Photo by Pla - 2 July 2009 at 07:30 am
_________________________________________________

เช้าวันที่สองในเลห์ วันนี้อากาศดีในตัวเมืองเลห์ เย็นกำลังสบายๆ ไม่หนาวมาก ป.ปลา ปลุกทุกคนแต่เช้า เพราะวันนี้เราต้องไปดูงานเทศกาลหน้ากากที่วัดเฮมิส คณะนี้สุดยอดเลย ตื่นเร็ว อาบน้ำแต่งตัวเร็ว กินเร็ว ไปเร็ว ตรงเวลาเป๊ะไม่มีใครต้องให้รอ โรงแรมเตรียมอาหารเช้าให้เราแบบง่ายๆ เป็นขนมปัง เนย แยม ไข่เจียว ชา กาแฟ กินพรึบเดียว ทุกคนก็พร้อมเตรียมขึ้นรถ เรามีกัน 10 ชีวิต ป.ปลา จัดรถให้ 3 คันเลย จะได้นั่งกันสบายๆ ไม่เบียด วันนี้ยังมีบางคนปวดหัวอยู่บ้าง แต่ก็ไหว สู้ สู้

ประมาณเจ็ดโมงครึ่ง รถเราก็พาชาวคณะออกมานอกเมือง เข้าใกล้วัดเฮมิสเข้าไปทุกที ฟ้าเริ่มครึ้มฝนเริ่มพรำ นายแซมบอกว่า เป็น blessing rain ฝนตกเอาฤกษ์เอาชัย เวลาจะมีงานพิธีที่เฮมิส ฝนตกทุกปี อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ แต่คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะทุกคนเตรียมอุปกรณ์กันหนาวติดรถมาด้วยแล้ว พร้อมค่ะ!

View from Leh City
Photo by Pla - 1 July 2009 at 06:30 pm
_________________________________________________

วันนี้เดินดูของกันเฉยๆ เดินชมวิถีชาวบ้านที่ไม่ค่อยจะมีให้เห็นแล้วในเมืองเลห์แห่งนี้ ภาพแบบนี้เคยมีอยู่เยอะในปีก่อนๆ แต่ตอนนี้หายากเต็มที

ไม่นานก็กลับเข้าโรงแรม ยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ยกเว้น ป.ปลา ที่ซื้อถุงนอนขนเป็ดกลับมากระสอบใหญ่ ก็ซื้อถุงนอนตั้ง 12 ผืน คนขายใส่กระสอบมาให้ 2 กระสอบ ตาลถือซะกระสอบนึง อีกกระสอบนึงป้านุชแบกตั้งแต่ที่ร้านจนถึงโรงแรม จะช่วยถือก็ไม่ยอม (ไม่รู้ว่าเจ้าตาล ไปพูดอะไรกับป้านุชเข้า ป้าเลขฮึดแบกกระสอบแข่งกับตาลซะอย่างนั้น)

โอย.. ขอบพระคุณป้านุชนะคะ ที่อุตส่าห์แบกถุงนอนมาให้ (ป.ปลา รู้สึกผิดอย่างแรง)
ส่วนตาล.. พี่ปลาขอบใจหลาย..

ถุงนอน 12 ผืน ป.ปลา เหลือกลับบ้านมาแค่ 6 ผืน ที่เหลือพี่ๆ ช่วยกันซื้อต่อไปจนหมด แหม..ขายดีจริงๆ

วันนี้จบวันแรกในเลห์ ด้วยอาหารแขกที่ดูไม่ค่อยมีใครจะชอบกินเท่าไรนัก
ป.ปลา กับ เจ้าตาล นอนด้วยกัน และก็หลับฝันดี แต่คนอื่นๆ ไม่รู้ซินะ หวังว่าคงหลับฝันดีกันนะคะ

View from Leh City
Photo by Pla - 1 July 2009 at 06:30 pm
_________________________________________________

เห็นทำท่าหมดแรง ก็เลยไม่พาไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Shanti Stupa ตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก
พากลับโรงแรม นึกว่าพี่ๆ จะพักกัน ที่ไหนได้ทุกคนกระตือรือร้นจะไปเดินตลาดกันซะงั้น เรี่ยวแรงที่หายไปกลับมีมาเพิ่มราวปาฏิหารย์ โดยเฉพาะพี่น้อย..ป้อแป้ ป้อแป้ อยู่ดีๆ พอได้เวลาช้อป พี่น้อยก็จะแข็งแรงขึ้นมาในบัดดล

View in front of Lumbini Hotel, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 06:00 pm
_________________________________________________

กลับถึงโรงแรมที่พักตอนหกโมงเย็น โรงแรมที่พวกเราพักชื่อ Lumbini Hotel อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเลห์ เดินขึ้นมา 5 นาที ก็ถึงย่าน Shopping ใจกลางเมือง ป.ปลา ชอบให้คณะมาพักที่นี่ เพราะมันไม่ใกล้และไม่ไกลจากเมืองจนเกินไปนัก ใครว่างอยาก Shopping ก็เดินไปได้ไม่ไกล ที่นี่เรามาพักกันทุกปี คุยกันรู้เรื่องคุ้นเคย แต่ดันลืมสอนพ่อครัวเจียวไข่แบบไทยๆ ปีนี้กว่าพี่แกจะเจียวไข่เป็น ก็ได้อร่อยกันวันสุดท้ายเลย เหอะๆ

View from Leh Palace, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:50 pm
_________________________________________________

หมดแรงแล้ว..ภาพนี้คงไม่ต้องบรรยายนะ

View from Leh Palace, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:50 pm
_________________________________________________

อันที่จริงแล้ว พระราชวังเลห์แห่งนี้ มีจุดเด่นน่าสนใจ และก็มองดูสวยงามจากภายนอกมากกว่า พอเข้าไปข้างในส่วนใหญ่ห้องหับต่างๆ จะเก่าและไม่ได้ตกแต่งอะไรเป็นพิเศษ หลายคนเข้าไปแล้วก็มักจะไปหยุดอยู่ที่จุดชมวิวด้านหน้าพระราชวังเพื่อถ่ายรูปตัวเมืองเลห์ จากนั้นก็หมดธุระกับพระราชวังแห่งนี้ แค่นี้แหละ leh palace
"อดีตคงยิ่งใหญ่และงดงาม.. แต่ปัจจุบัน กาลเวลาพรากทุกอย่างไป เหลือไว้แค่ความทรงจำ"

View from Leh Palace, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:50 pm
_________________________________________________

เข้ามาแล้วก็หยุดอยู่แค่ตรงนี้แหละ..
ป้านุชบอกว่า จ่าย 100 รูปี เดินดูแค่ 30 รูปี ก็พอ (แค่นี้ก็คุ้มแล้วเนอะ ป้านุชเนอะ)

View from Leh Palace, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:50 pm
_________________________________________________

กว่าจะเดินเข้าข้างในได้ ก็อ้อยอิ่งกันอยู่นาน..
มันสวยดีเนอะ ประตูบานนี้น่ะ เห็นหยุดดูกันทุกคน

View from Leh Palace, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:50 pm
_________________________________________________

มาถึงเสียที Leh Palace หรือพระราชวังเลห์ ที่นี่เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นกลางเมืองเลห์ ขนาดความสูง 9 ชั้น ถูกสร้างในปี ค.ศ.1630 ก็ 379 ปีมาแล้ว มีลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมใกล้เคียงกับพระราชวังโปตาลาในทิเบตคือมีผนังเอียงเข้าหากันทุกด้าน (แต่ดูๆ แล้ว มันเก่าลงเยอะเลยตอนนี้)

ทีแรกทุกคนเริ่มเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็ทำท่าจะไม่เข้าไปข้างใน แต่พอ ป.ปลา บอกว่าจ่ายเงินซื้อตั๋วแล้ว ค่าบัตรคนละ 100 รูปี ทุกคนก็พากันเดินเข้าข้างในกันอย่างรวดเร็ว ดีมาก..ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ให้น้องๆ อิอิ

นี่เลย.. พี่อ๋อย เดินเข้าไปเป็นคนแรก

View from Namgail Tsemo Gompa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:30 pm
_________________________________________________

แล้วเราก็เห็นจุดหมายปลายทางต่อไป leh palace
จากที่วัด Namgail Tsemo Gompa จะมีทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะไปตามไหล่เขา สามารถเดินเท้าลงไปได้ถึง leh Palace ป.ปลา ถามทุกคนแล้วว่าอยากเดินลงไปไหม คำตอบได้มาแบบไม่ต้องถามซ้ำ (No) ไม่..คำเดียวชัดเจน

แหม..ก็ล้อเล่นน่า
ทุกคนขึ้นรถ แล้วรถก็พาเราวิ่งลัดเลาะเข้าไปในเมืองตัว ทีแรกก็นึกว่าคนขับรถจะเปลี่ยนแผนพาเรากลับโรงแรม กำลังว่าจะอ้าปากถาม ก็พอดีรถวิ่งเลี้ยวออกจากเมือง ไปได้อีกนิดนึงจึงเห็นว่ามีถนนอ้อมตัดขึ้นไปที่ Leh Palace หรือ พระราชวังเลห์

View from Namgail Tsemo Gompa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:30 pm
_________________________________________________

ท้องฟ้าที่เลห์ สีจัดจ้าน สวยงามและมีเสน่ห์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ที่สำคัญมันก็ทำให้ ตัวดำ หน้าแดง ปากแห้ง และผิวลอก ทุกครั้งที่ไปเยือนเช่นกัน แหะๆ

View from Namgail Tsemo Gompa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:30 pm
_________________________________________________

ที่วัด Namgail Tsemo Gompa นี้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสูงขนาดตึก 3 ชั้น และพระคัมภีร์เก่าแก่จากทิเบต บริเวณเหนือตัววัดจะเป็นซากป้อมปราการเมืองเก่า วัดนี้เป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งที่สามารถเห็นตัวเมืองเลห์ได้อย่างสวยงาม

ข้อมูลเก่า จากการมาเที่ยวปีก่อนๆ บอกว่า วัดนี้จะเปิดให้เข้าชมในช่วงเช้าตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงแปดโมงเช้า แล้วก็ต้องเดินขึ้นไปเอง ทางขึ้นก็เดินได้จากตัวเมืองเลห์หรือให้รถไปส่งที่ Leh palace แล้วเดินต่อขึ้นไปอีกไม่ไกล (ก็เห็นใครๆ เขาก็เดินกัน โดยเฉพาะพวกฝรั่งตาน้ำข้าว) แต่กะเหรี่ยงอย่างเรา เห็นแล้วว่ามันไกลและเหนื่อยมาก เลยไม่เคยขึ้นไปถึงสักที

ปีนี้..รถของเราพาปุเลงๆ ขึ้นไปจนถึงวัดเลย เดินนิดเดียวก็สามารถขึ้นไปกราบนมัสการองค์พระด้านในได้ เห็นทีจะต้องบันทึกข้อมูลใหม่ ทริปต่อไปคงพาไปอีก แต่คงไม่ใช่วันแรก เดี๋ยวจะพากันเป็นลมไปเสียก่อนน่ะ

View from Namgail Tsemo Gompa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:30 pm
_________________________________________________

View from Namgail Tsemo Gompa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 04:30 pm
_________________________________________________

View from Shanti Stupa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 03:00 pm
_________________________________________________

  View from Sankar Gompa, at Leh
Photo by P"Took - 1 July 2009 at 03:45 pm
_________________________________________________

อี๊ดดด เห็นรูป Shanti stupa ของ ป.ปลาแล้วกิเลสพุ่งปรี๊ดดด

อยากได้ wide มาใช้สักตัว เนอะพี่ตุ้ยเนอะ

View from Shanti Stupa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 02:50 pm
_________________________________________________

View from Shanti Stupa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 02:45 pm
_________________________________________________

View from Shanti Stupa, at Leh
Photo by Pla - 1 July 2009 at 02:30 pm
_________________________________________________

มาแล้วค่ะ ป.ปลา กลับมาทำงานแล้ว
ใครๆ ที่รอคอย อย่าคาดหวังนะ
ป.ปลา ไม่ใช่ตากล้อง ไม่ใช่นักเขียนอย่าง..พี่นุ้ย
รูปอาจไม่สวย เขียนอาจไม่เก่ง อ่านแล้วอาจจะไม่สนุก
ป.ปลา ชอบเดินทาง ชอบกิน ชอบมองวิว ชอบเดินเหม่อๆ ไปเรื่อยๆ หลงทางไปเพลินๆ
เขียนไม่ค่อยเป็นหรอก แต่เดี๋ยวจะเล่า จะเล่า เท่าที่จำได้ก็แล้วกันนะคะ   

หมดแรงแล้ว