หมดสภาพกันเลยพี่เรา ถึงจะกินยาเข้าไปตอนนี้ก็ยังไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นค่ะ เพราะยาต้องใช้เวลาการออกฤทธิ์นานหลายชั่วโมงทีเดียว มาม่าที่สั่งมาของพี่น้อยกับพี่ปลาก็เลยไม่มีใครแตะต้อง

แคมป์ระหว่างเส้นทางพวกนี้สามารถพักค้างแรมได้ด้วยนะ แต่ไม่ได้ถามว่าเค้าคิดราคาเท่าไหร่ยังไง คนที่มาพักแรมส่วนใหญ่น่าจะเป็นบรรดาคนขับรถมากกว่านักท่องเที่ยวน่ะ

เข้าประจำที่อีกแล้ว เวลาประมาณเดิมอีกแล้ว (ห้าทุ่มโดยประมาณ) เมื่อไหร่จะได้เข้างานเร็วกว่านี้เนี่ย เพื่อไม่ให้เสียเวลา เริ่มเลยแล้วกัน

เปิดประเด็นกันที่วิวนี้ค่ะ ฟ้าเป็นฟ้าจริงๆ พี่ตุ๊ก มีเมฆขาวๆ แซมนิดหน่อย พอให้สีตัดกันชัดเจน

โอย เห็นฟ้าแล้วใจละลาย

ระหว่างทางริกซินเรียกให้พวกเราดูเจ้าตัวนี้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวอะไร แต่มันใช้ชีวิตอยู่ตามหน้าผาค่ะ

ออกรถมาได้หน่อยเดียว เจ้าตาลก็ขอให้รถจอด เพราะเกิดมองเห็นความงามที่ไม่ธรรมดาของเทือกเขาบริเวณนี้ค่ะ ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าบนยอดเขามีเส้นสีขาวๆ เหมือนการตัดเส้นเวลาวาดรูปเลย แต่จริงๆ แล้วมันคือสีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่บนยอดเขาค่ะ ถ่ายรูปมาก็ไม่สวยเหมือนที่ตาเรามองเห็นเองค่ะ

ต้องบอกลาซาจูแคมป์กันแล้วจ้ะ ปีหน้าฟ้าใหม่อาจจะได้เจอกันอีกนะ

ไหนๆ เค้าก็ไม่คิดตังค์ค่าน้ำชาและซุป พวกเราก็เลยขอถ่ายรูปกับเค้าซะหน่อย ไว้เป็นที่ระลึก เผื่อมาคราวหน้าจะจำกันได้ รู้สึกว่าคุณผู้ชายคนที่ใส่หมวกจะเป็นเจ้าของนะ หรือคุณคนซ้ายสุดจะเป็นหุ้นส่วนก็ไม่รู้เหมือนกัน นอกนั้นพวกเราทั้งหมด

รถเหลือคันเล็กนิดเดียวเอง เมื่อเทียบกับความใหญ่โตของขุนเขาที่นี่

ช่วงนี้เป็นปลายฤดูกาลท่องเที่ยวในเส้นทางนี้แล้ว ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว แคมป์ส่วนใหญ่ปิดไปแล้ว Adventure Camp แห่งนี้ก็กำลังจะปิดเช่นกัน แต่เค้าก็ยังต้อนรับพวกเราด้วยดี มีชาร้อน และซุปให้พวกเรากินด้วย ที่สำคัญคือเค้าไม่คิดเงินพวกเรา เพราะเค้าบอกว่ากำลังจะปิดแล้ว ไม่รู้ว่าริกซิน (แซม) คุยอะไรกับเค้า หรือไปบอกเค้าว่าพวกเรามาสำรวจเพื่อเตรียมขายทัวร์ปีหน้าก็ไม่รู้นะ

นั่งชมวิวข้างทางกันไปตามระเบียบค่ะ บริเวณก้อนหินที่เห็นในภาพนี้เดิมเคยเป็นหมู่บ้านค่ะ แต่ถูกหินถล่มลงมาทับราบเป็นหน้ากลอง คนในหมู่บ้านก็ถูกฝังอยู่ใต้กองหินนี้แหละ ผ่านที่นี่ทีไรรู้สึกสลดใจทุกที

วันที่ 5 วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2552 / จิสป้า (Jispa) - ซาจู (Sachu) - ทะเลสาปโชการ์ (Tsokar) - ทะเลสาปโชโมริริ (Tsomoriri)

เมื่อคืนมาถึงก็หมดแรงแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายรูปห้องนอน เช้ามาอาบน้ำแต่งตัวเก็บของเรียบร้อยเลยต้องจัดฉากให้เหมือนห้องก่อนใช้งานเสียหน่อย

เช้านี้เติมพลังกันแล้วเราจะออกเดินทางสู่ทะเลสาปโชการ์กัน ระหว่างทางก็จะผ่านซาจู (Sachu) ซึ่งเป็นครึ่งทางระหว่างมะนาลีไปเลห์ค่ะ

ก่อนไปขออีกซักรูปนะ

นั่งรถต่อไปอีกหลายชั่วโมง พวกเราก็ไปถึงจิสป้า (Jispa) เราเข้าพักที่โรงแรม Ibex Hotel ซึ่งดูแล้วเหมือนจะเป็นโรงแรมเดียวที่มีอยู่ในละแวกนี้เลย ตั้งอยู่ริมถนนเส้นหลัก ทำให้โรงแรมนี้ราคาสูงพอสมควร ห้องละประมาณ 1,500 รูปีต่อคืนค่ะ (เมื่อวานอยู่มะนาลีจ่ายคืนละ 500 เอง) แต่ก็ต้องยอมจ่ายเค้าแหละ

พอเก็บของเข้าห้องกันเรียบร้อยก็ลงมากินข้าวมื้อค่ำกัน แล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนเอาแรง พรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวทะเลสาป Tsokar กันแล้ว

ไม่ต้องแปลกใจนะว่าไอ้เก้าอี้สีแดงตัวนี้มาจากไหน คือมันมีร้านขายของเล็กๆ หลายร้านลงมาตั้งดักนักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณลานหิมะนี้ด้วยค่ะ พวกเราก็เลยสั่งมาม่าแขกร้อนๆ มากินแก้หนาวกันหน่อย แล้วก็เอาเก้าอี้เค้ามานั่งถ่ายรูปนี่แหละ

จริงๆ แล้วนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควรนะคะ แต่พวกเราพยายามเลือกมุมที่ไม่ค่อยมีคน มีแขกมาตามตื้อให้เล่นสกีอยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นพวกเราไม่เล่นแน่นอนเค้าก็จากไปด้วยดีค่ะ

ปล. ถุงมือพี่น้อยสีได้ใจมากๆ ขอบอก

หลังจากปล่อยพี่ปลากับเจ้าตาลถ่ายด้วยกันไปแล้ว พี่น้อยก็ขอหมู่ด้วยคนค่ะ