|
สังเวชนียสถาน 29 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551 | |
วันแรมทาง |
ทริปเดินทาง 29 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551 รายชื่อผู่ร่วมทาง
ทีมงาน - 1. ปลา (ทีมงานวันแรมทาง) 2. พระยุทธนา (พระวิทยากร-นำคณะจากพุทธคยาถึงกุสินารา) 3. พระมหาณรงค์ (พระวิทยากร-นำคณะที่กุสินารา) 4. พระมหาอุเทน (พระวิทยากร-นำคณะจากกุสินาราถึงพุทธคยา) 5. ดลับบู (ผู้ช่วยชาวอินเดีย) 6. สุเรซ (คนขับรถ) 7. อดุล (เด็กรถ)
คณะผู้แสวงบุญ - 1. พี่สุนทร 2. พี่จิ๋ม 3. พี่โอม 4. พี่ต๊อด
หมายเหตุ- ทริปนี้เป็นอีกทริปเล็กๆของเราค่ะ คนน้อยแต่ก็เต็มไปด้วยศรัทธา เราเดินทางกันถึง 10 วัน 9 คืน ได้ไปยังสังเวชนียสถานที่ต่างๆมากมาย อิ่มบุญกลับบ้านกันเลยค่ะ .. |
ผู้ตั้งกระทู้ วันแรมทาง :: วันที่ลงประกาศ 2008-02-08 11:11:30 IP : 58.9.27.41 |
ความคิดเห็นที่ 50 (1007819) | |
คนรอนแรม | ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน สาลวโนทยาน |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:35:21 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 49 (1007817) | |
คนรอนแรม | พี่ต๊อด.. ปิดทองที่พระพุทธบาท และอธิษฐานจิตขอพร |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:33:45 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 48 (1007809) | |
คนรอนแรม | ผ้าผืนนี้ พี่จิ๋มและพี่สุนทร นำมาถวาย ทุกคนขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:31:50 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 47 (1007802) | |
คนรอนแรม | เราร่วมกันทำพิธีถวายผ้าห่มพระพุทธปรินิพพาน (ใครสนใจถวายผ้าห่มพระที่นี่ ให้เตรียมผ้าขนาดกว้าง |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:23:55 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 46 (1007798) | |
คนรอนแรม | เรากราบนมัสการมหาปรินิพพานสถูป และ เข้าไปสักการะพระพุทธรูปปางอนุฏฐิตสีหไสยาสน์ คือ ปางเสด็จบรรทมครั้งสุดท้ายภายในวิหารปรินิพพาน พระอาจารย์นำพาพวกเราสวดมนต์บูชาองค์พระพุทธปรินิพพาน ระลึกถึงคุณของพระพุทธองค์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:21:21 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 45 (1007791) | |
คนรอนแรม | ที่กุสินาราอากาศหนาวมาก พวกเราตื่นมาทำวัตรเช้า ตอน 6 โมงเช้า อุณหภูมิราวๆ 4 องศา หนาวววววววว.. หลังทำวัตร พอทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว เราออกเดินทางไปสักการะปรินิพพานสถาน อันเป็นสังเวชนียสถาน สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน ที่มีต้นสาละปลูกไว้เป็นอนุสรณ์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:17:55 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 44 (1007789) | |
คนรอนแรม | จากไวสาลี เรานั่งรถมุ่งสู่เมืองกุสินารา เส้นทางเริ่มไกลขึ้น ใช้เวลาอยู่บนรถนานขึ้นกว่าที่เคยนั่งมาในการเดินทางวันแรกๆ ออกจากไวสาลีประมาณ 10 โมงเช้า แวะทานข้าวกลางวันระหว่างทาง เราเดินทางถึงกุสินารา ราวๆ บ่ายสี่โมงกว่าๆ ร่วมๆ 6-7 ชั่วโมงเลยทีเดียว เข้าสู่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ที่พักคืนนี้ของพวกเรา วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อน้อมเป็นพุทธบูชาและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวาระครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี และ เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อวัดให้ หลังจากกินอาหารเย็นที่หอฉันท์วัดไทยกุสินาราฯ เราร่วมกันทำวัตรเย็น แล้วแยกกันไปพักผ่อนในคืนที่หนาวเหน็บ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-15 22:16:42 IP : 58.9.37.2 |
ความคิดเห็นที่ 43 (1003807) | |
คนรอนแรม | การบวชเป็นภิกษุณี ณ ป่ามหาวันนี้ พระพุทธองค์ประทานการบวชให้นางปชาบดีโคตมี พร้อมทั้งเหล่าศากิยานี อีก ๕๐๐ ซึ่งเดินทางจากกรุงกบิลพัสดุ์ ได้รับการบวชเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนา อันเป็นการเปิดโอกาสให้สตรีได้บวชเรียนในพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก บัญญัติเข้าพรรษา สมัยนั้น เหล่าภิกษุพากันจาริกไปทุกฤดูกาล เหยียบย่ำข้าวกล้าในนา เบียดเบียนสัตว์เล็กมากมายให้ลำบาก ชาวบ้านต่างพากันตำหนิว่า แม้แต่นกก็ยังรู้จักทำรังในช่วงฤดูฝน เหตุใดสาวกของพระสมณโคดมจึงไม่พำนักอยู่กับที่ เที่ยวเดินเหยียบย่ำพืชพันธุ์ให้เสียหายเช่นนี้ พระพุทธองค์ทรงทราบ จึงทรงบัญญัติกาลเข้าพรรษาไว้ ๒ ระยะดังนี้ ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึงวันเพ็ญเดือน ๑๑ เรียกว่า ปุริมิกา พรรษาต้น ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๙ ถึงวันเพ็ญเดือน๑๒ เรียกว่า ปัจฉิมิกา พรรษาหลัง |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-14 10:46:41 IP : 58.9.30.210 |
ความคิดเห็นที่ 42 (1003805) | |
คนรอนแรม | กลับมาเล่าเรื่องการเดินทางต่อดีก่า จากสารีริกธาตุพระสถูปเจดีย์ เราไปที่ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน แห่งนี้ยังคงมีเสาพระเจ้าอโศกทีสมบูรณ์ตั้งอยู่ ในครั้งพุทธกาล ครั้นเมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงวิธีให้โรคร้ายระงับได้แล้ว ชาวเมืองเวสาลีประสงค์สร้างอารามถวาย พระพุทธองค์ก็โปรดให้สร้างพระอารามนอกเมืองเวสาลีในป่ามหาวัน ทางเหนือของอาณาจักรวัชชี อารามที่ชาวลิจฉวีสร้างถวายพระพุทธองค์ในป่ามหาวัน เรียกว่ากูฏาคาร มีภิกษุเข้าอยู่จำพรรษาในอารามนี้เป็นประจำ สำหรับพระพุทธองค์นั้นประทับอยู่ในพรรษาที่ 5 และทรงแวะคราวเมื่อเสด็จไปกุสินารา พระพุทธองค์เสด็จกรุงเวสาลีรวมหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะเสด็จประทับที่กูฏาคารศาลา ในป่ามหาวัน ใกล้กรุงเวสาลี ได้ตรัสแสดงธรรมตอบปัญหาแก่ชาวเวสาลี ที่มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ในโอกาสและวาระต่างกัน ที่ป่ามหาวันนี้ เช่น สีหเสนาบดี เจ้าลิจฉวี เจ้าสุนักขัตตะ เป็นต้น |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-14 10:44:41 IP : 58.9.30.210 |
ความคิดเห็นที่ 41 (1003735) | |
คนรอนแรม | ขอบคุณพี่ปุ้มด้วยค่ะ แหม คนนี้แฟนพันธ์แท้ วันแรมทาง นะเนี่ย ขอบคุณที่คอยติดตามนะคะ JJJ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-14 10:10:47 IP : 58.9.30.210 |
ความคิดเห็นที่ 40 (1003726) | |
คนรอนแรม | ขอบคุณท่านพราหมณ์ เอ้ย! ขอบคุณพี่โอมค่ะ.. แหมชมซะเขินเลย อิอิ อายจัง JJJ ขออนุโมทนาบุญทุกท่านเช่นกันค่ะ เวลาที่พาคณะที่มีจิตศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา อย่างมีความรู้จริง และตั้งใจจริงๆไปนั้น คนพาไปก็อิ่มใจและมีความสุขค่ะ จากประสบการณ์การเดินทางเราจะพบว่า คนที่ศรัทธาจริงๆ เมื่อสะสมบุญบารมีมากพอจนได้เดินทางในจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้วนั้น ปัญหาและอุปสรรคใดๆก็มักจะไม่เกิดขึ้น ทุกอย่างก็จะดูราบรื่นและง่ายดายไปหมด คณะของพวกพี่ๆคณะนี้ก็เช่นกันค่ะ พี่สุนทร พี่จิ๋ม พี่โอม และพี่ต๊อด เดินทางแสวงบุญกันได้อย่างราบรื่น ได้ความรู้ ได้กำลังใจ และได้บุญกลับมาเต็มอิ่ม ขออนุโทนาบุญอีกครั้งค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-14 10:07:37 IP : 58.9.30.210 |
ความคิดเห็นที่ 39 (998040) | |
คุณโอม | ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของน้องปลาและน้องนุ้ย ขอประกาศให้ชาวพุทธบริษัท4ทราบว่า วันแรมทางจัดทัวร์สังเวชนียสถานด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆโดยไม่เห็นแก่ผลกำไรและไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเป็นผู้ที่มีน้ำใจและจริงใจต่อลูกทัวร์ทุกคนโดยเฉพาะปลาเป็นคนดีมากเอาใจและเทคแคร์ลูกทัวร์ทุกคนไม่ว่าจะอะไรได้ทั้งนั้นขอให้บอก ขอบอกว่าประทับใจจริงๆและประทับใจมากที่สุดในชีวิตของการเดินทางในทริบนี้ อยากชักชวนพี่น้องทุกคนไปสร้างบารมีกันครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คุณโอม วันที่ตอบ 2008-02-11 22:48:17 IP : 202.5.87.151 |
ความคิดเห็นที่ 38 (998022) | |
คุณโอม | กราบคารวะชาวพุทธบริษัท4ทั้งหลาย หากท่านมีจิตศรัทธามีความปรารถนาที่จะไปกราบสังเวชนียสถานจารึกตามรอยบาทพระศาสดาเอกของโลก ขอท่านอย่าได้ลังเลใจอีกเลยรีบตัดสินใจไปเสียเถิดแล้วสิ่งที่ท่านจะได้รับทั้งความเต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธา ปสาทะ ความปีติอิ่มใจ อิ่มบุญ ได้กระทำอามิสบูชา และปฎิบัติบูชา เสมือนว่าได้นั่งอยู่ต่อหน้าพระพักต์แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง |
ผู้แสดงความคิดเห็น คุณโอม วันที่ตอบ 2008-02-11 22:33:48 IP : 202.5.87.151 |
ความคิดเห็นที่ 37 (997932) | |
พี่ปุ้ม | สวย และได้ความรู้ อีกเช่นเคยค่ะ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น พี่ปุ้ม วันที่ตอบ 2008-02-11 20:53:18 IP : 124.121.84.251 |
ความคิดเห็นที่ 36 (997790) | |
คนรอนแรม | เริ่มวันใหม่ในนครไวสาลีนี้ เราตื่นกันแต่เช้า ทานอาหารเช้าที่วัดแล้วลาพระอาจารย์ เพื่อออกเดินทางต่อไปยังกุสินารา ก่อนออกจากเมืองไวสาลี เราแวะเที่ยวชมเมืองไวสาลีกันก่อน นครไวสาลี คือเมืองหลวงของอาณาจักรวัชชีหนึ่งใน 16 แคว้น ของชมพูทวีป เรียกกันหลายชื่อว่า ไวสาลี ไพสาลี หรือ เวสาลี ก็ได้ ในสมัยพุทธกาลเคยเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่ง ที่แรกของวันนี้ที่เราแวะไปคือ สารีริกธาตุพระสถูปเจดีย์ สถูปโบราณขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตรมีสังกะสีมุงเป็นทรงกลมเหมือนกับศาลาแปดเหลี่ยม ล้อมรอบฐานเจดีย์โบราณซึ่งได้รับการขุดค้นจากฝ่ายโบราณคดีของรัฐบาลกลางไปแล้วและนักโบราณคดียืนยันเป็นหนึ่งเดียวว่านี้คือสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้ขอแบ่งจากกุสินารา และจากสถูปอีก 7 แห่งแล้วอัญเชิญมาบรรจุไว้ในสมัยเดียวกันกับเมืองราชคฤห์ของพระเจ้าอชาตศัตรูคณะราชาลิจฉวี ราชามัลละ ราชาโกลิยะแห่งรามคาม พราหมณ์แห่งเวฏฐทีปกนคร ราชาโมลีนครราชาศากยะแห่งกบิลพัสดุ์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 19:23:36 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 35 (997773) | |
คนรอนแรม | เดินทางถึงวัดไทยไวสาลี เก็บของเข้าพักที่วัด เราร่วมกันทำบุญ ถวายปัจจัยและยารักษาโรคให้กับพระอาจารย์ฉลอง (ที่วัดไทยไวสาลีนี้พระอาจารย์ฉลองซึ่งเป็นประธานสงฆ์ได้เปิดสถานพยาบาลให้การรักษาชาวอินเดียผู้ยากไร้ที่ป่วยด้วยแต่ละวันจะมีคนไข้เยอะมากๆ) ยาที่พี่จั่นกับเพื่อนๆฝากมา ก็ถวายให้แล้วนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ที่นี่มีเณรน้อยชาวอินเดียอยู่ 10 รูป ที่ทางวัดไทยไวสาลีส่งเสียให้เล่าเรียนหนังสือ เณรน้อยสวดมนต์เสียงไพเราะจับใจจริงๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 19:11:13 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 34 (997156) | |
คนรอนแรม | สารีบุตรสถูป เป็นสถูปที่สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระสารีบุตร อัครสาวกบริเวณที่ประชุมเพลิง สร้างสมัยแรกโดยโยมมารดาท่านสารีบุตร คือนางสารีพราหมณีต่อมาพระเจ้าอโศกได้สร้างเสริมจากที่เดิมและกลายเป็นสถานที่สักการะของมหาชนตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยนาลันทา |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:48:35 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 33 (997155) | |
คนรอนแรม | จากหลวงพ่อดำ ก็ได้เวลาเข้าสู่บริเวณที่เคยเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:47:22 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 32 (997152) | |
คนรอนแรม | ที่จริงแล้ว พวกเขาทำท่านใหม่ ตกแต่งท่านใหม่เกือบทั้งองค์ค่ะ ไม่ใช่เฉพาะส่วนหน้าเท่านั้น ที่มือท่านก็ด้วย (ขออนุญาตใช้ภาษาชาวบ้านๆหน่อยนะคะ) รูปซ้ายคือองค์เดิมก่อนที่จะบูรณะ .. รูปทางขวาคือปัจจุบันค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:45:56 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 31 (997150) | |
คนรอนแรม | ที่วิหารหลวงพ่อดำแห่งนี้ วันนี้เราพบกับความประหลาดใจ หลวงพ่อดำ..เปลี่ยนไป.. ท่านเปลี่ยนไปค่ะ เปลี่ยนไปเช่นใด ดูกันเอาเองค่ะ รูปด้านบนคือ หลวงพ่อที่เราคุ้นเคยมาแต่เก่าก่อน รูปด้านล่าง คือ ปัจจุบัน พวกชาวอินเดีย เขาบูรณะท่านใหม่..เขาทำศัลยกรรมให้ท่านค่ะ ดูงดงามขึ้นยิ่งนัก ...
แต่สำหรับคนที่เคยแวะเวียนมากราบสักการะท่านบ่อยๆ มันก็อดไม่ได้ ที่จะรู้สึกแปลกๆ กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็ท่านดูเปลี่ยนไปจริงๆนี่นา.. |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:44:54 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 30 (997149) | |
คนรอนแรม | วันนี้ตื่นขึ้นมา พอทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็ลาพระสงฆ์ทั้งหลายที่วัดไทยสิริราชคฤห์ มุ่งหน้าสู่ นาลันทา
เรามาถึงนาลันทาเร็วไปหน่อย โบราณสถานบริเวณที่เคยเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ยังไม่เปิดให้เข้า เราก็เลยเปลี่ยนแผนไปกราบสักการะหลวงพ่อดำกันก่อน หลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อายุนับปีแห่งเมืองนาลันทา เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่สร้างจากหินดำทางการไม่สามารถย้ายเพื่อนำมาเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ได้เนื่องด้วยองค์ท่านใหญ่มากและทุกครั้งที่มีความพยายามโยกย้ายท่านออกไปก็จะเกิดเหตุอาเพศเป็นประจำปัจจุบันประดิษฐานอยู่ด้านนอกกำแพงมหาวิทยาลัยนาลันทาต้องเดินอ้อมไปทางด้านหลังประมาณ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:43:20 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 29 (997113) | |
คนรอนแรม | เหนือบ่อน้ำร้อนตะโปทารามจะมองเห็น ถ้ำปิปผลิวันคูหา ที่พระมหากัสปะเถระเคยพำนักอยู่ ท่านเป็นพระสาวกที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายด้วยคุณแห่งการถือธุดงค์ 13 ข้อ ตลอดชีวิต จากถ้ำปิปผลิวัน เราเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักที่วัดไทยสิริราชคฤห์ หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว เราร่วมกันทำบุญที่วัด แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน คืนนี้อากาศหนาวมากเลยทีเดียว พวกพี่ๆขอผ้าห่มเพิ่มจากทางวัดกันคนละหลายๆผืน ปีนี้อากาศแปรปวนมาก เดือนนี้ไม่ควรจะหนาวมากขนาดนี้ ทั้งๆที่ความหนาวเย็นควรจะเริ่มลดน้อยลงแล้ว แต่อยู่ๆก็กลับหนาวมากขึ้นมาอีก หลังจากได้ผ้าห่มกันเพียงพอ เราแยกย้ายกันไปนอนหลับพักผ่อน สะสมพลังงานไว้แสวงบุญกันต่อพรุ่งนี้ค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:21:50 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 28 (997097) | |
คนรอนแรม | จากนั้น เราเดินทางไปที่ ตะโปทาราม สถานที่อันเป็นต้นบัญญัติสิกขาบทให้พระภิกษุสรงน้ำได้ 15 วัน ต่อครั้ง ปัจจุบันเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่บำเพ็ญบุญของชาวฮินดูอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อสิริมงคล ข้างบนจะมีช่องอาบน้ำตามฐานะแห่งวรรณะของตนในแต่ละวันจะมีชาวฮินดูมาอาบน้ำเป็นจำนวนมากเพราะเชื่อกันว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้ วันนี้เรามีเวลา จึงเดินเข้าไปดูด้านในแล้วเดินเลยขึ้นไปถึงด้านบน สามารถมองดู ตะโปทาราม ได้จากมุมสูง |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:10:30 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 27 (997086) | |
คนรอนแรม | จากนั้นเราแวะไปเที่ยวที่ถ้ำซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่เก็บสมบัติของพระเจ้าพิมพิสาร ถ้ำนี้มีการขุดและเจาะสำรวจทางโบราณดี แต่ก็ล่ำลือกันว่ายังไม่เคยมีใครสามารถขุดค้นพบสมบัติ และเชื่อว่ายังมีสมบัติซ่อนอยู่ข้างในจนถึงทุกวันนี้ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 10:05:17 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 26 (997075) | |
คนรอนแรม | จากนั้นไปต่อกันที่ บริเวณที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร กำเนิดตำนานปิตุฆาตที่พระเจ้าอชาตศัตรูผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสารหลงเชื่อบาปมิตรคือพระเทวทัต ได้จับพระราชบิดามากักบริเวณไว้จนสิ้นพระชนม์ปัจจุบันเหลือแต่ซากฐานกำแพงหินหนาประมาณ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 09:54:03 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 25 (997071) | |
คนรอนแรม | จากวัดเวฬุวันวิหาร เราเดินทางไปเก็บตกสถานที่ต่างๆภายในเมืองราชคฤห์
เริ่มกันที่ วัดชีวกัมพวัน เป็นสถานที่ที่หมอชีวกโกมารภัจจ์นายแพทย์ประจำราชสำนัก ผู้จบการศึกษาจากเมืองตักศิลามีศรัทธาถวายป่ามะม่วงให้เป็นพระอารามหลวง หรือที่เรียกว่าชีวการามเป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกในพระพุทธศาสนาด้วยเป็นที่ซึ่งหมอชีวกได้เคยถวายการรักษาพระพุทธองค์เมื่อครั้งที่ถูกสะเก็ดหินที่พระเทวทัตลอบปลงพระชนม์ ปัจจุบันอยู่ ณบริเวณก่อนจะถึงทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 09:52:29 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 24 (997068) | |
คนรอนแรม | พระพุทธองค์ทรงประทับจำพรรษา ณ ที่วัดเวฬุวันวิหาร แห่งนี้รวมแล้ว 6 พรรษา เป็นที่ทรงตั้งอัครสาวกคือพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร และเป็นสถานที่ที่พระอรหันต์1,250 รูป มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายในวันจาตุรงคสันนิบาตมาฆบูชาและพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่ภิกษุเหล่านั้น |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 09:47:27 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 23 (997064) | |
คนรอนแรม | จากเขาคิชฌกูฏ เราเดินทางเข้าสู่ที่พักที่วัดไทยสิริราชคฤห์ หลังจากทานอาหารกลางวันกันแล้ว ในช่วงบ่ายเราไปกันที่ วัดเวฬุวันวิหาร เป็นวัดที่พระเจาพิมพิสารได้ทรงถวายสวนเวฬุวันให้เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในพระพุทธศาสนา |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 09:45:21 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 22 (997060) | |
คนรอนแรม | ผู้มาถึงสถานที่แห่งนี้เหมือนว่าได้มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าถึงที่ประทับดวงจิตมีแต่ความปีติเบิกบานอย่างน่าอัศจรรย์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 09:39:20 IP : 58.9.30.76 |
ความคิดเห็นที่ 21 (997051) | |
คนรอนแรม | มูลคันธกุฎีแห่งเขาคิชฌกูฏนี้บริเวณที่ประทับของเดิมเป็นกุฎีแคบๆ เหมาะที่จะนั่งมากกว่านอน วัดดูด้วยศอกได้กว้าง 3 ศอกกับ 1 คืบ ยาว 4 ศอก เท่านั้น เป็นที่ซึ่งชาวพุทธถือว่าเป็นที่สำคัญพากันมากราบไหว้บูชาเพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์ที่เคยเสด็จมาประทับ ณ ยอดเขาแห่งนี้อยู่เสมอ และได้ตรัสแสดงธรรมหลายพระสูตร เช่น มาฆสูตร ธัมมิกสูตร มหาสาโรปมสูตรอาฏานาฏิยสูตร และอปริหานิยธัมมสูตร เป็นต้น |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม วันที่ตอบ 2008-02-11 09:34:38 IP : 58.9.30.76 |
Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด |