แต่เราก็สามารถเก็บภาพนี้มาได้ โดยไม่มีใครผิดสังเกตุนะ (ความสามารถเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบนะคะ :)

นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ตัวเองได้เดินมาถึงท่าเผาศพมณิกรรณิการ์แห่งนี้ ถ้าจะถ่ายรูปต้องถ่ายจากตรงนี้เท่านั้น ถ้าเข้าไปใกล้กว่านี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายแล้ว ถ้าใครแอบถ่ายแล้วเจ้าหน้าที่เผาศพเห็นเข้า เขาจะโวยวาย บ้างก็จะยึดกล้อง บ้างก็จะไถ่เงิน แต่เจ้าหน้าที่บางคนก็บอกเลยว่าถ้าจะถ่ายรูปต้องจ่ายเท่าไหร่

สาธุ สาธุ สาธุ

ออกมาที่แม่น้ำคงคากันตั้งแต่เช้ามืด แต่ครั้งนี้ไม่ได้ล่องเรือในคงคานะ เพราะพวกคนพายเรือเค้าหยุดงานประท้วงรัฐบาลที่จะเข้ามาจัดระเบียบน่ะ พวกเราเลยเดินเลาะริมฝั่งคงคาแทน แล้วพระอาจารย์ก็นำทำพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้ถูกนำมาลอยลงในแม่น้ำคงคา

คนที่ร้านนี้เค้าก็แสนดีนะ เตรียมยกโต๊ะยกเก้าอี้มาให้พวกเราเป็นการใหญ่ โดยไม่เสียค่าขอใช้สถานที่นะ เสียแต่ค่าชาร้อนที่เราสั่งมาจิบกันหลังอาหาร

กลางวันนี้พวกเราห่อข้าวมากินระหว่างทาง ได้ทำเลของร้านอาหารริมทางแห่งหนึ่งดูใช้ได้ มีทุ่งให้เดินเข้าไปปลดทุกข์กันตามสะดวกด้วย พวกเราก็เลยแวะกินข้าวกันที่นี่

แวะซื้อผลไม้ที่ตลาดข้างทางกัน ฤดูนี้มีผลไม้น่ากินหลายอย่างเลย พ่อค้าแถวนี้ยังใช้เครื่องชั่งแบบโบราณกันอยู่

บรรยากาศยามเช้าที่ด่านโสเนาลี (Sonauli) พวกเรากลับเข้ามาอินเดียอีกครั้ง หลังจากไปนอนเนปาลมา 1 คืน

คุณจูนขอเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ก่อนกราบลาวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาลหลังจากเติมพลังด้วยอาหารเช้าเรียบร้อย

เย้! ยินดีด้วยค่ะ พี่นัน....

ลงได้ซะที....แล้วพวกเราก็ได้ดูรูปงามๆ ที่อุตส่าห์เซ็ตกันในช่วงเช้า...โดยมีพระอาจารย์เป็นแบบกับพี่เปิ้ล...อิอิ

อืม...แต่เสียดาย...ดวงอาทิตย์เล็กไปหน่อยนะ...ฮ่าฮ่าฮ่า

ปล. ชอบสุดก็ภาพเรือในแม่น้ำคงคาค่ะ ดูแล้วสงบดี

แล้วก็บันทึกภาพหมู่กัน

จากนั้นก็เวียนเทียนค่ะ

แล้วก็เจริญสมาธิภาวนากันต่อ

ถึงแล้ว สังเวชนียสถาน แห่งที่ 3 “ชาตสถาน” สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่าบริเวณที่ประสูติของสิทธัตถราชกุมาร คือจุดที่เสาศิลาของพระเจ้าอโศกมหาราชตั้งอยู่นี้ สวดมนต์บูชาสถานที่ประสูติโดยพร้อมเพรียงกัน

ถึงพุทธวิหาร สาลวโนทยาน 960 อาหารกลางวันของพวกเราพร้อมอยู่แล้ว โดยฝีมือแม่ชีศรีอรุณ (อร่อยมากๆ ) อิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ทำบุญร่วมกัน ถวายค่าอาหารและร่วมสร้างห้องน้ำ ที่พักริมทาง และศาลาอเนกประสงค์สำหรับผู้แสวงบุญด้วย

โรงพยาบาลจักรยานข้างทาง

ระหว่างทางก่อนจะเข้าแดนไปเนปาล พลขับและผู้ช่วยของเราขอแวะทานอาหารก่อน เพราะเลยจากนี้ไปแล้วจะหากินลำบาก คุณยายปริญญ์ในฐานะที่เคยมาสัมผัสอินเดียหลายครั้งแล้ว เลยชวนลูกหลานชาวคณะลองชิมอาหารแขกกัน งานนี้หลายคนเลยได้ลองจกโรตีแทนข้าวเหนียว

ก่อนลาเมืองกุสินาราฯ พระอาจารย์อุเทนพาพวกเราไปทำบุญสร้างโรงพยาบาลร่วมกันในโครงการล้านเม็ดทรายถวายเป็นพระราชกุศล

นอกจากจะได้ฟังธรรมยามเช้าแล้ว หลวงพ่อเจ้าคุณยังแจกพระให้พวกเราด้วย ไม่ใช่ทุกคณะนะที่จะได้รับพระจากมือหลวงพ่อเอง เพราะท่านงานยุ่งมากๆ ไม่ค่อยได้อยู่วัดน่ะ

ก่อนกราบมนัสการลาหลวงพ่อเจ้าคุณพระราชรัตนรังษี หลายคนก็ได้เช่าพระนอนบนกองเงินกองทองกลับมาบูชากันด้วย

บรรยากาศพระมหาเจดีย์ พระมหาธาตุเฉลิมราชศรัทธา ณ วัดไทยกุสินาราฯ ในยามเช้า

คณะคุณยายปริญญ์ มาแบบหญิงล้วนค่ะ

สวดมนต์ทำวัตรเช้าในพระอุโบสถวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์กันเรียบร้อย เลยขอเก็บภาพหมู่ไว้เป็นที่ระลึกกัน

สวดมนต์บูชามหาปรินิพพานสถูปกันแล้ว ก็เตรียมตัวเวียนเทียนรอบสถูปกันต่อ คุณยายปริญญ์ทำเทียนหอมเตรียมมาถวายด้วย

หมู่ค่ะ ภาพนี้น่าจะครบทุกคนแล้วนะ (ยกเว้นนุ้ยเองที่เป็นคนถ่าย)

กราบงามๆ แทบบาทพระศาสดากันให้ครบทุกคน แล้วก็มาถ่ายรูปร่วมกันค่ะ