พระอาจารย์นำกล่าวคำถวายเรียบร้อย แล้วทุกคนก็ร่วมกันห่มผ้าถวายเป็นพุทธบูชา

พระอาจารย์นำพวกเราเข้าสู่วิหารปรินิพพาน เพื่อกราบสักการะพระพุทธรูปปางอนุฏฐิตสีหไสยาสน์ คือปางเสด็จบรรทมครั้งสุดท้ายที่อยู่ภายใน

ป้านุชรับน้องเรียบร้อยเชียว :) มีคนติดตามชมหลายคน ต้องรีบมาต่อซะแล้ว

หลังจากเดินทางมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง พวกเราก็มาถึงที่หมาย เมืองกุสินารา แล้วพวกเราก็เข้าไปที่สาลวโนทยาน สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 "ปรินิพพานสถาน" สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

คุณนิดหน่อยคะ..

ถ้าอยากจะแจมขอตัวหนังสือโตกว่านี้นะคะ..กรุ๊ปนี้มีแต่ส.ว.ค่ะ..

ขอร่วมติดตามการเดินทางด้วยคน เดินทางคณะเล็กๆ ดูอบอุ่นดีนะคะ รออ่านอยู่ค่ะ

อ่านมาเรื่อยๆ ก็สนุกปนขำๆดีนะ..นี่ถ้าไม่ได้นุ้ยช่วยบรรยายคงคืนพระอาจารย์ไปหมด..แย่..เลอะเลือนจริงๆ..คงใกล้ๆอัลไซเมอร์..เล่าต่ออีกนะใครๆในทีมที่เที่ยวก็เล่าได้นิ..อยากอ่านต่อ....วันนี้อยู่เวร..ภาวนาคนไข้อย่ายุ่งนะ..คนอยากสบายน่ะนิสัยไม่ค่อยจะดีเท่าใดนัก..พรุ่งนี้เสาร์-อาทิตย์จะได้พักเสียที...ขอตัวไปบิ้ลด์อารมณ์ตรวจเวรต่อก่อนนะจ๊ะ..

ส่วนครอบครัวพี่กุ้ง เสร็จพิธีแล้วค่ะ

ป้าใหญ่ กับป้าเล็ก กำลังถวายทองค่ะ อธิษฐานขอพรอะไรเอ่ย?

ณ ป่ามหาวัน เมืองไวสาลีนี้ มีเสาหินพระเจ้าอโศกที่ยังสมบูรณ์ที่สุดตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ มีหัวสิงห์ประดิษฐานอยู่ด้านบน หันหน้าไปทางทิศเหนือ ประหนึ่งว่าทอดอาลัยตามพระพุทธองค์ครั้งเสด็จผ่านเมืองนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเสด็จไปปรินพพานที่เมืองกุสินารา 

ออกจากปาวาลเจดีย์ พวกเราก็ไปต่อกันที่กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน อารามที่ชาวเมืองไวสาลีสร้างถวาย และที่ป่ามหาวันนี้เป็นที่ซึ่งพระพุทธองค์ประทานการบวชให้แก่นางปชาบดีโคตมี ภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา

กราบสักการะสถานที่ และทำปทักษิณ 3 รอบเป็นพุทธบูชา

พอเสร็จพิธี พวกเราก็กราบนมัสการลาพระอาจารย์ที่วัดไทยไวสาลีเพื่อไปกราบนมัสการพุทธสถานในนครไวสาลีก่อนจะออกเดินทางสู่กุสินารากันต่อ

เริ่มกันที่สารีริกธาตุพระสถูปเจดีย์ หรือปาวาลเจดีย์ สถานที่ซึ่งเคยบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

แล้วก็ร่วมกันถวาย

กล่าวคำถวายโดยพร้อมเพรียงกัน

หนูตาลรักลำเอียงนี่หว่า..คิดถึงแต่ทุกคนยกเว้นพี่ปลา
แวะมากินข้าวที่คอนโด อย่าลืมเอาอาหารมาให้ครบล่ะ อิอิ
มาเร็วๆนะ..พี่ๆคิดถึง