จับกลุ่มแบ่งห้องนอนกันเรียบร้อย ให้ทุกคนได้พักผ่อนและชมวัดกันตามอัธยาศัย ประมาณเที่ยงก็ได้เวลาทานอาหารกลางวันกัน แล้วก็นัดหมายเวลาว่าบ่ายโมงตรง เราจะพาทุกท่านสู่สังเวชนียสถานแห่งการตรัสรู้ "มหาเจดีย์พุทธคยา"

แล้วภาพหมู่รูปแรกของคณะก็ได้บันทึก ณ ที่นี่ (กล้องนุ้ยเริ่มทำงานแล้วค่ะ)

แล้วพวกเราก็มาถึงที่พักพิงในคืนแรก ณ แดนพุทธภูมิ วัดไทยพุทธคยาค่ะ วัดไทยแห่งแรกที่สร้างขึ้นในต่างแดน ปีนี้มีอายุครบ 50 ปีแล้วนะคะ พระอุโบสถของวัดไทยพุทธคยา สวยงามมาก สร้างขึ้นแบบเดียวกับพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ

ภาพนี้ฝีมือพี่เอกค่ะ (ไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าทำไมนุ้ยเอารูปของหลายๆ คนมาลง ไม่เห็นมีรูปที่นุ้ยถ่ายเองเสียที ช่วงแรกๆ ของทริป นุ้ยกับพี่ปลาจะยุ่งๆ เรื่องดูแลความเรียบร้อยหลายๆ อย่าง กล้องก็เลยยังนอนอยู่ในกระเป๋า ยังไม่ได้ออกมาทำงานน่ะ)

ออกจากสนามบินมาได้โดยเรียบร้อย พวกเราก็พบพระอาจารย์กิตติศักดิ์ พระธรรมวิทยากรของคณะเรารออยู่แล้ว พร้อมกับผู้ช่วยชาวอินเดีย (escort) ประจำคณะชื่อนาย Murari และนี่คือยานพาหนะประจำทริปของพวกเรา รถบัส 35 ที่นั่ง (แต่พวกเรามากัน 16 คน รวมพระอาจารย์กิตติศักดิ์อีก 1 ก็รวมเป็น 17 มากันแบบ VIP สุดๆ นั่งคนละ 2 เบาะไปเลยค่ะ

รูปนี้จากกล้องน้องตาลจ้ะ

แต่มาถึงสนามบินแล้วก็ยังต้องผ่านอีกหลายด่านนะ อันดับแรกคือแบบฟอร์มที่ต้องกรอกเพื่อผ่านเข้าประเทศอินเดีย พี่เพ็ญช่วยกรอกมาให้ทุกคนแล้วเรียบร้อย แค่เซ็นชื่อเท่านั้น แต่ปัญหาคือแบบฟอร์มที่กรอกมาเป็นฟอร์มเก่า เค้ามีฟอร์มใหม่ออกมาแล้ว แต่บนเครื่องบินก็ยังแจกฟอร์มเดิมอยู่นะ เราเลยคิดว่าน่าจะใช้ได้ เพราะบนเครื่องก็แจกแบบเก่าน่ะ แต่เอาเข้าจริง เจ้าหน้าที่ไม่ยอม เลยต้องกรอกใหม่กันทั้งคณะ นอกจากคณะวันแรมทางของเราแล้ว วันนี้มีคณะใหญ่ประมาณ 60 คนอีกคณะหนึ่งเดินทางมาพร้อมเรา เป็นคณะอาจารย์จากสาธิตเกษตร

ระหว่างรอเวลาผ่านขั้นตอนการตรวจเอกสาร หลายท่านก็เก็บภาพบรรยากาศภายในสนามบินซะหน่อย (ภาพนี้กล้องป้านีนะ ถ้าจำไม่ผิด แบบว่าคัดรูปจากหลายๆ กล้องค่ะ มึนๆ เล็กน้อย)

ไปดูรูปกัน

http://onthebeach-thebeach.hi5.com

ตรงอัลบั้มรูปภาพ ไปแสวงบุญที่อินเดียมา

สมาชิกทริปนี้คึกคักกันดีจริงๆ เลยค่ะ กลับมาก็สนทนาประสาคนคุ้นเคยกันเป็นการใหญ่ มีฝากข่าว ฝากของถึงกันเสียด้วย รู้สึกดีจัง ที่ทุกคนได้มาพบ มาเจอและรู้จักกันในทริปนี้ บุญนำพาจริงๆ ค่ะ

กลับมาก็หลายวันแล้ว มัวยุ่งๆ เคลียร์งานอันท่วมหัว และจัดการเรื่องรูปส่งให้ทุกคน ตอนนี้ก็พอจะมีเวลามาเอารูปลงกระทู้แล้วค่ะ หลายคนคงรออยู่อย่างใจจดใจจ่อ มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

ทริปนี้เราออกเดินทางกันวันที่ 1 ตุลาคม 2551พอดี เรานัดคณะลูกทัวร์ทุกคนตี 5 ตรงที่สุวรรณภูมิ ลูกทัวร์ทั้งคณะมาพร้อมกันตามเวลา แต่หัวหน้าคณะทั้งพี่ปลาและนุ้ยยังไม่ถึง (หลายคนคงคิดในใจระหว่างรอเจอหน้าพี่ปลากับนุ้ย ว่าจะโดนทัวร์เบี้ยวหรือป่าว) แบบว่าเค้าปิดถนนทำทางน่ะ เลยเกิดอาการหลงทางนิดหน่อย เลยผิดเวลาไปตั้งครึ่งชั่วโมง ต้องขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งนะคะ

หลังจากเดินตามหาลูกทัวร์ทุกท่าน จนมารวมตัวกับครบแล้ว ติดป้ายชื่อให้กระเป๋าทุกใบเรียบร้อย เราก็ Check in และโหลดสัมภาระกัน กระเป๋าเสื้อผ้าของแต่ละคนใบไม่ใหญ่นัก แต่ของที่เยอะคือเสบียงที่เราเตรียมเผื่อไปสำหรับทั้งคณะ และยาที่หลายๆ คนมีจิตศรัทธา ส่งมาร่วมทำบุญถวายที่วัดไทยไวสาลี จำนวน 4 ลัง

ผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกจากเมืองเรียงร้อย เดินดูของกันพอสมควร หลังจากนั้นพวกเราก็ไปนั่งรอเวลาเครื่องออกกัน เราเดินทางโดยสายการบิน Indian Airline เที่ยวบินที่ IC730 ตามเวลาเครื่องจะออก 07.20 น. แต่ก็ Delay เล็กน้อยตามระเบียบแขก 

พวกเรากินอาหารเช้ากันบนเครื่องบิน เป็นเมนูผัดไทยกุ้ง รสชาติโอเคค่ะ เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

9 โมงนิดๆ ตามเวลอินเดีย (เวลาในประเทศอินเดีย ช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 1.30 ชั่วโมงพอดี) พวกเราก็มาถึงสนามบินเมืองคยา และนี่ก็คือหน้าตาเจ้านกเหล็กที่พาพวกเราเหิรฟ้ามาถึงอินเดียโดยสวัสดิภาพ

ภาพนี้จากกล้องป้านีค่ะ (หรือกล้องป้าเล็กหว่า) แต่ก่อนนี้ที่สนามบินคยาเค้าห้ามถ่ายรูปนะคะ แต่คราวนี้ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลย สงสัยห้ามไม่ไหวแล้ว ก็เลยไม่ห้ามเสียเลย

คิดถึงพวกป้าๆ จัง

ไปเที่ยวบ้านป้านิตย์ดีกว่า ติดทะเลรึป่าวป้านิตย์

อ่อ...หนังสือตาลยังไม่ได้ส่งไปให้นะคะป้าๆ รอกันไปก่อนนนน

วิ่งมาทู้นี้บ้าง..อนูโมทนา สาธุ กับคุณเอกกัน

ป้านิตจ๋า คุณตาคุณยายไปวันชุมนุมมอญมาเมื่อวานนะคะ ที่วัดชนะสงคราม สองท่านนี่แน่มาก เดินทางกันเป็นว่าเล่น ฟื้นกันเร็วชะมัด..

คุยกันเรื่องส่ง DVD นึกได้ว่ายังไม่ได้ส่งหนังสือคืนพี่ณี ณ.เชียงราย เลย  ใครได้ข่าวกรุ๊ปนี้บ้าง มาแชร์ด้วยนะคะ

รอคนว่างๆมาโพสรูปเพิ่ม จามีไม๊น๊า..

ป้านิตเจ้า

อย่าพูดดังไป dvd ฟรีจ้ะ นุชก็ ก๊อปปี้ มาจากไอ้นิ่ม

ดูให้เข็ดไปเลยนะจ๊ะ

บ็อบ สบายดีไหม ขึ้นมาจากทะเลแล้วหรือยัง อย่าลงไปเล่นกับปะการัง จนลืมขึ้นฝั่งนะ ยังไม่ได้ไปชุมนุมเลยป้าไปเมื่อไหร่แล้วจะบอกนะ บ็อบคิดถึงนะ ป้านิต

คิดถึงทุกๆคนครับ    เป็นทริปที่ดีมากๆครับ แต่ละคนทรหด กันมาก

พี่ปลากับน้องนุ้ยก็ดีมากๆ แก่ไขปัญหาได้เก่งมาก ทำให้ผมได้กลับมาทำงานทัน

ทุกๆคนน่ารักมาก รู้สึกดีที่ได้ รู้จักทุกคน

ป้านิตถ้าจะมาชุมนุมแล้วไม่มีใครไปด้วย โทรหาผมนะ จะไปเป็นเพื่อน ^_^ น้องตาลด้วยก็ได้นะ

เอาไว้จะไปทริปอื่นกับวันแรมทางอีกนะครับ

เพิ่งมีโอกาสเข้ามาอ่านก็ขำดีน้องบ๊อบถามก่อนไปว่าสำหรับคนไม่ช้อปปิ้งเอาเงินไปเท่าไรแต่พอไปจริงๆคนที่บูชาพระมากที่สุดกลับเป็นน้องบ๊อบ

คนใกล้กันอย่างเจ้านิ่มก็เพิ่งรู้ว่ามันตลกดี อ่านไปก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง

และคนที่จะต้องไปอีกแน่ๆต้องเป็นพี่นิตแน่ๆขนาดนิมิตเห็นพระพุทธองค์ตั้งหลายปาง

น้องหนูตาลจ๋า กล้วยหอมธรรมศาสตร์ทำไมแพงจัง ที่เชียงใหม่หวีละ 20 บาทเองจ้า

p นี่คือใครกันนนนน

เมนูเด็ดของตาล กล้วยหอม

ที่ม.ธ.ขายลูกละ 10 บาท แพงงงงงงมากกกกก

คิดถึงทุกๆๆๆๆคน

ขอบคุณนะคะ

คนโพสง่วง..คนอ่านหายง่วงเลยแหละอดไม่ได้ขอมาแจมด้วย..อิอิ พี่นิ่มลืมเมนูเด็ดอีกอย่างนะคะ แกงขี้เหล็กปลาย่าง อร่อยมากๆแบบหาทานที่ไหนไม่ได้แล้ว อาหารอร่อยทุกมื้อจริงๆแต่กลับมาไหงน้ำหนักลด สงสัยได้บริหารร่างกายระหว่างเดินทาง อิ่มบุญแล้วยังสุขภาพดีแบบนี้ ต้องมีทริปต่อไปนะคะ แต่ไม่แข่งกะป้านิตแกหรอก ต้นปีปลายปีแบบนั้น ไม่สามารถ..

พาคนอื่นๆดูรูปพร้อมเปิดการบรรยายรอบละ 2 ชั่วโมง ถ้าได้แผ่นจากน้องปลา น้องนุ้ย คนบรรยายคงต้องเพิ่มเวลาต่อรอบ เรื่องเล่าเยอะจริงๆค่ะ

สวัสดียามดึกกับทุก ๆ คน ที่เกี่ยวดองกับทริป 1-8 ตค51 ที่ผ่านมา( ทริปนี้อยู่ในช่วงเขาตีกันที่เมืองไทย แม่นบ่!)            

 ความรู้สึกของทริปนี้บอกได้คำเดียว.. อ้อ..ไม่ใช่ หลายๆคำ ว่า..สนุกแบบหนังแอคชั่นมันส์มาก..                        

1. คนในทริปก็วัยมันส์..มันส์ มีหลายวัยให้เราได้พิจารณาธรรม...คุณปู่(สนิท)คงจะแอบคิดในใจว่าสูเจ้าไม่แก่มั่งให้มันรู้ไป..แต่คุณปู่เป็นตัวอย่างแก่พวกเราในเรื่องของสุขภาพและความศรัทธาได้ดีมาก....

2. การเดินทางของเราก็โค-ตะ-ระ มันส์..สนุกมากแค่เส้นทางแต่ละช่วงก็ช่วยเขย่าอวัยวะภายในของแต่ละคนให้เป็นหนึ่งเดียว..แล้วก็ยังมีการระบายของเสียออกจากร่างกายด้วยวิถีธรรมชาติอีก..ชอบมากมันธรรมชาติจริงๆ ทำให้เรารู้ได้เลยว่านี่เราต่างจากชาวอินเดียตรงไหน เราทุกคนต่างก็ธาตุ4มารวมกันให้เป็นกาย แล้วจิตมันก็มาอาศัยอยู่แค่นั้นเอง..ทำตัวต่างเป็นคนละชั้นได้ไง..อีกหน่อยก็จากคนที่รักกันไปเหมือนกัน ไม่จากเป็น ก็จากตาย..แม่นก่เจ้า?..เอ..งั้นเราก็ไม่ต่างจากวัวของเขาน่ะสิก็กายกับจิตเหมือนกัน..จากและตายเหมือนกัน..แม่นบ่.. 

3. พระอาจารย์ที่พาเราพเนจรก็ทำใจให้พวกเราได้มันส์กันถ้วนทั่ว..พระอาจารย์ก็ทำใจ๊..ทำใจ..กับพวกเรา..บอก-สอน-เล่า-บรรยาย-อะไร..อะไร..ก็ไม่ค่อยจะจำ..กุ้มใจ..ไม่มีล-ลิง จริงๆ กับคนทริปนี้..คงเข็ดไปอีกนาน..ไม่เป็นไรคงไม่ได้เจอกันอีกนานๆ อยู่แล้ว ยกเว้นคนบางคนเช่น ป้านิต พระอาจารย์อาจเจออีกซักรอบ - 2รอบละมั้ง...

4. มันส์ต่อไปก็..คนขับรถของเราสุดยอด(ใบอ่อน)จริงๆ ..ขับรถพาเราบุกป่าฝ่าฝูงชน ฝูงคน ฝูงรถ  ฝูงวัว...ได้อย่างไม่มีกระทบกระทั่งใครให้ได้รับความบาดหมาง บาดเจ็บทั้งทางกายและทางใจ ยังยิ้มให้กันอยู่ทั้งฝูงคน และฝูงวัว..โอ้พระเจ้าจอร์จ..นายยอดมาก..และที่ลืมไม่ได้ก็คือเอสคอร์ทของเรา..หล่ออะไรจะปานนั้น..ดูแลพวกเราทั้งหมดโดยผ่านทางน้องนุ้ย น้องปลา..ไงไงก็น่ารักเป็นคู่สร้างคู่สมกับคนขับ เข้ากันได้อย่างดีแหละ..

มันส์ที่ 5. ก็คือกับข้าวของเราแต่ละมื้อ ที่ทางวัดต่างๆ ทำให้เราทานทั้งอร่อยดุเด็ดเผ็ดมันส์ กินกันจนลืมบ้านลืมช่องว่าตัวเองเป็นคนประเทศอะไร..(เว่อร์รึเปล่าเนี่ย)..กินกันยังกะกินที่บ้านตัวเอง..ขอบคุณทุกๆ วัดค่ะ และขอบคุณทัวร์นี้ที่ไม่พาเราไปนอนโรงแรม..ไม่งั้นคงคิคถึงไข่เจียว  แกงส้ม  แกงเขียวหวาน  ผัดมะเขือ ยำไข่ดาว น้ำพริก ข้าวต้ม กล้วยหอม แอปเปิล กาแฟ..ไมโล..ฯลฯ        

มันส์ที่ 6. คือคำอวยพรสุดมันส์จากพระอาจารย์พระราชรัตนรังษี..ที่บอกเราที่วัดไทยกุสินาราว่า...อยากได้บุญต้องทำบุญ..คนไม่ทำบุญก็รอรับแต่ส่วนบุญ ..แล้วก็..ขอให้รวยเจ็ดชั่วโคตร  ...จากนั้นก็ที่พุทธวิหารสาลวโนทยาน960ที่บอกอะไรเยอะแยะเช่น รีบพนมมือเองก่อนที่จะมีคนมามัดมือตราสังข์เรา รีบเข้าวัดก่อนที่จะเดินเข้าไปไม่ไหว..รีบอะไรอีกหนอก่อนที่ลูกหลานจะมาเคาะข้างโลง ..จำไม่ได้แล้ว..จำได้อีกตอนจบที่ว่า..จงรวยซะให้เข็ด! ...ลอตเตอรี่เราก็ไม่ซื้อนะเนี่ย..จะรวยยังไงน้อ ..

*****และแล้วเราก็ต้องจากกัน..จากกันจริงๆ ดังที่บอกไม่จากเป็นก็จากตาย มรณานุสติ เตือนตัวเองไว้ทุกวันเราจะได้ไม่ประมาทเมื่อไม่ประมาทเราก็จะได้เร่งทำความดีกันไงล่ะ ..ขอให้พวกเรามี..ทาน  ศีล  ภาวนา..เข้าไว้อย่าหนักไปทางใดทางหนึ่งจนลืมอีกทางมันจะเอียงกะเท่เร่ชีวิตจะไม่สง่างาม..เฮ้อ..นมัสการ..นมัสเต..สาธุ..มีอะไรอีกเยอะที่อยากเขียน แต่ง่วงแล้วจ๊ะ..ราตรีสวัสดิ์..หลับไม่ต้องฝันเลยจะดีมากจ๊ะ...

เจ้าตาล..

มีอีกทู้อยู่ห้องสนทนานะ ว่างๆอะช่วยกันไปลงรูป คิดถึงๆ

ว่าง

จาก ตาล 555+

ถึงคณะสหธรรมิกทุกท่าน

ดีใจจังที่เริ่มมีการติดต่อถึงกันในหมู่ผู้ร่วมแสวงบุญหลังจากกลับมาแล้ว เริ่มส่งเมลล์ทักทายถึงกัน เลยขออนุญาตคัดลอกมาฝากข่าวถึงกันในกระทู้นี้ด้วยค่ะ

ญาติธรรมทุกๆคนค่ะ
 
พี่นิตยา พี่นุช พี่นิ่ม พี่สุวรรณ น้องบ็อบ น้องตาล (ใครมีเมล์คุณเอก ฝากFWต่อให้ด้วยนะ)
คุณพ่อคุณแม่ ฝากมาขอบคุณกัลยาณมิตร ที่ร่วมคณะเดินทางวันที่ 1-8 ตค.ที่ผ่านมานะคะ
ครอบครัวเรามีความสุขและประทับใจกับทริปนี้มาก กุ้งเองก็ขอขอบคุณทุกคนที่ดูแลท่านทั้งสามเป็นอย่างดี
ยินดียิ่งที่ได้ร่วมคณะกับทุกๆคน มีโอกาสคงได้ร่วมบุญกันอีก..จะไปที่ไหนแจ้งมาด้วยนะคะ
 
ขอขอบคุณลูกปลา และนุ้ย ที่ช่วยดูแลคณะเราตลอดการเดินทางในต่างแดน
พีกุ้งฝากกราบขอบพระคุณพระอาจารย์วิทยากรคณะเราด้วยนะคะ
 
อภิญญา จันทร์นวล(กุ้ง)

กลับถึงเมืองไทยกันโดยสวัสดิภาพแล้วนะคะ แต่งานท่วมหัวเลย ยังไม่มีเวลาเลือกรูปมาฝาก ขอเคลียร์งานก่อนนะคะ แล้วจะรีบจัดให้ค่ะ :)

ได้เลยจ้ะ ผัดผักเป็นอาหารหลักของทุกวัดอยู่แล้วค่ะ แค่บอกว่าขอเป็นแบบเจ ไม่น่ามีปัญหา นุ้ยก็เตรียมอาหารเจไปเผื่อหลายอย่างนะ ไม่ต้องห่วงค่ะ จะดูแลอย่างดีไม่มีอดจ้ะ

โดยรวมแล้ว เราจะไหว้พระสวดมนต์กันทั้งหมด 15 จุดหลักๆ ค่ะ ถ้าจะปิดทองที่ละแผ่นก็เตรียมไปซัก 15 แผ่น ถ้าจะปิดที่ละ 2 แผ่น ก็เอาไปซัก 30 ก็ได้ค่ะ

เมื่อวานนุ้ยไปซื้อเสบียงมาแล้วนะคะ มีทั้งเจ และไม่เจ เผื่อไปเพียบเหมือนเดิม แต่ก็ยังมีที่ว่างสำหรับขนมจากป้านิตย์นะจ๊ะ แล้วเจอกันอาทิตย์หน้าจ้ะ

แจ้งข่าวการเตรียมตัวเดินทางค่ะ

เรื่องสภาพอากาศ ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงหน่อยแล้วค่ะ คิดว่าช่วงที่เราไป อากาศน่าจะสบายๆ เตรียมเสื้อผ้าเหมือนอยู่เมืองไทยได้ค่ะ แต่ติดแจ็คเก็ตไปด้วยซักตัวนะคะ เผื่อหนาวตอนนั่งอยู่ในรถแอร์ทั้งวัน

รองเท้า เนื่องจากต้องถอดรองเท้าบ่อยๆ แทบทุกสถานที่ที่ไป และต้องเดินบ้างพอสมควร อย่างตอนขึ้นเขาคิชฌกูฎ ควรเตรียมรองเท้าที่ใส่สบาย ถอดง่าย ใส่คล่อง เพื่อความสะดวกค่ะ

โปรแกรมการเดินทางของทริปนี้ ทางทีมงานเตรียม print ไว้ให้แล้วคนละชุด พร้อมกับหนังสือสวดมนต์ที่จะใช้เหมือนกันทั้งคณะคนละ 1 เล่มค่ะ เวลาพระวิทยากรบอกให้เปิดบทไหน หน้าไหน จะได้เข้าใจตรงกัน

ทีมงานจะจัดเตรียมเสื่อปูนั่ง และธูปเทียนไว้ให้นะคะ แต่แผ่นทองคำเปลว ถ้าต้องการปิดทองขอให้เตรียมมาเองค่ะ

สภาพเส้นทางช่วงนี้ค่อนข้างแย่นะคะ เพราะเพิ่งผ่านหน้าฝนมา ถนนอาจจะเป็นหลุมเป็นบ่อพอสมควร อาจต้องใช้เวลาอยู่ในรถนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ เตรียมตัวเตรียมใจกันหน่อยนะคะ

สำหรับคนที่กลัวว่าจะเตรียม  memory card ของกล้องถ่ายรูปไปไม่พอถ่าย ทางทีมงานมี External Hard disk ขนาด 120 GB ที่มากพอจะให้ทุกคนฝากรูปได้นะคะ แล้วกลับมาถึงเมืองไทย เราจะ copy ลงแผ่น DVD หรือ VCD (แล้วแต่ความมากน้อยของข้อมูล) ส่งให้ทุกคนค่ะ

ตอนนี้เอกสารทุกอย่างครบแล้วนะคะ ทั้งตั๋วเครื่องบิน วีซ่าอินเดีย-เนปาล และประกันการเดินทาง ทุกท่านเตรียมพร้อมแพ็คกระเป๋าได้เลยนะคะ แล้วเจอกันที่สนามบินค่ะ :)

ถ้าพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย สำหรับเส้นทางนี้แทบจะไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้วนะคะ โดยส่วนใหญ่เงินที่แลกไปจะเตรียมไปทำบุญมากกว่า มีของให้ซื้อบ้าง แต่ก็ไม่มาก ราคาไม่สูง ถ้าคิดว่าไม่ช็อปปิ้ง ก็แทบจะไม่ต้องใช้เงิน ขั้นต่ำที่โดยปกติจะแลกเผื่อไปคือประมาณ 5,000 บาท (หรือจะแลก 5,000 อินเดียรูปี ก็จะประมาณ 4,000 บาท) ถ้าแลกเงินรูปีไปแล้วเหลือ จะแลกคืนกับทางเราก็ได้ค่ะ เพราะต้องเก็บไว้ใช้ในทริปต่อๆ ไปอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวเสียส่วนต่างตอนแลกคืน เราคิดอัตราเดียวกับตอนแลกมาค่ะ

สำหรับคณะที่จะเดินทาง วันที่ 1-8 ตุลาคมนี้ นุ้ยจะไปแลกเงินวันพฤหัสที่ 25 นี้นะคะ ใครที่จะฝากแลก แจ้งมาได้เลยค่ะ จะได้รวบรวมไปทีเดียว จะรอถึงพรุ่งนี้นะคะ

ต้องแลก รูปี ไป ประมาณเท่าไรละครับ  ไม่รู้ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับเมืองไทยหรือเปล่าครับ

โดยประมาณสำหรับคนที่ไม่ค่อย shopping นะครับ