ระหว่างที่เดินทางกลับวัดจีนนี่แหละ ที่พวกเราได้รับข่าวร้าย จนทำให้ปั่นป่วนไปตามๆ กัน

คือผู้ช่วยของเราโทรไป confirm ตั๋วขากลับให้ (ซึ่งจริงๆ แล้วตั๋ว Indian ไม่จำเป็นต้อง re-confirm แต่ผู้ช่วยเราคงจะไปได้ยินใครพูดมา เลยขอตั๋วไปจัดการโทรสอบถาม ต้องขอบใจมูลาลีจริงๆ) เค้ามาบอกพี่ปลาว่าดูเหมือนจะมีปัญหานะ เที่ยวบินขากลับยังไม่ confirm เราเลยโทรกลับมาถามออฟฟิตของ Indian airline ที่เมืองไทย และได้รับข่าวร้ายว่าเที่ยวบินที่เราจะเดินทางกลับจากคยาสู่กรุงเทพในวันที่ 8 ต.ค.ยกเลิก และให้ลูกค้าไปบินกลับในวันที่ 9 โดยสายการบินไทย และให้โรงแรมพักฟรี 1 คืนระหว่างที่ต้องรอขึ้นเครื่องอีกวัน แต่เรื่องที่พักไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคณะเรา เพราะเราพักที่วัด จะขอพักที่วัดจีนอีกคืน หรือจะไปพักที่วัดไทยพุทธคยาสองคืนเพื่อรอขึ้นเครื่องก็ได้ แต่ปัญหาสำคัญคือทางเจ้าหน้าที่เค้าลืมแจ้งเราก่อนมา และคณะก็เพิ่งได้รู้พร้อมๆ กันวันนี้ ทำให้หลายคนมีปัญหาทั้งเรื่องลางาน และเรื่องการเดินทางกลับต่างจังหวัดต่อ เพราะจองตั๋วภายในไว้แล้ว หากเรารู้ก่อนเดินทาง อย่างน้อยก็ยังหาทางหนีทีไล่ หรือแจ้งให้ทุกคนรู้ตัวล่วงหน้าได้ แต่มารู้เอาตอนนี้ จะยังไงดีล่ะพี่น้อง :(

และสุดท้ายคนเสียเงินให้กับสินค้าที่นี่ก็คือป้าเล็ก ได้กระเป๋ากลับบ้านไปหนึ่งใบค่ะ ส่วนคนอื่นๆ ไม่ได้อะไรกัน ออกจากที่นี่แล้ว พวกเราก็กราบลาพระอาจารย์จริงๆ เสียที แยกกันแล้วพวกเราก็ไปดูของที่ร้านเปมูกัน แต่ไม่ค่อยได้อะไร ของไม่โดนใจ เรากับพี่ปลาไปจัดการค่าใช้จ่ายของทริปนี้ให้ราชูเรียบร้อยก็พาคณะกลับไปที่วัดจีนกัน

เสร็จพิธีทางธรรมแล้ว ช่วงนี้เป็นเวลาพักผ่อนหย่อยใจ เราจะไปช็อปปิ้งกัน ที่แรกนี้คือ Cottage Industries Exposition ซึ่งเดิมที่นี่เคยเป็นที่ประทับเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จพาราณสี

ภูมิใจได้เลยค่ะว่าเราก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน อย่างนี้ต้องหมู่ :)

ไม่ใช่ทุกคณะที่จะได้เข้ามาที่นี่นะ

จากนั้นก็ทำพิธีกราบลาพระอาจารย์กิตติศักดิ์ เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงเข้าพรรษา ท่านจะต้องกลับให้ถึงวัดไทยเชตวันที่จำพรรษาอยู่ภายในคืนนี้ จึงจำเป็นต้องแยกกับคณะที่พาราณสีวันนี้เลย เดิมพวกเราตั้งใจว่าจะเหมารถให้ไปส่งท่านถึงเชตวัน แต่พอดีว่ามีพระอาจารย์จากวัดไทยเชตวันเหมารถมาพาราณสี ซึ่งจะถึงบ่ายนี้ เลยให้รถนั้นรับพระอาจารย์กิตติศักดิ์กลับไปด้วยเลย (ปกติค่าเหมารถเค้าคิดราคาไป-กลับอยู่แล้วน่ะ)

มากราบสักการะยสเจตียสถาน สถานที่แห่งความไม่ขัดข้อม ไม่วุ่นวาย ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงอิทธาภินิหารโปรดพระยสกุลบุตร สวดมนต์เสร็จก็ถวายทองกัน

แล้วก็ไปเดินชมบริเวณรอบๆ อิสิปตนมฤคทายวันกัน

สวดมนต์บูชาสถานที่ และพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตรกันแล้ว ก็เจริญสมาธิกันต่อ

พวกเรากราบสักการะและสวดมนต์ในร่มเงาของธัมเมกขสถูป

ช่วงนี้เริ่มเงียบเหงานะจ๊ะ สงสัยขี้เกียจเข้ามาติดตามชมแล้ว แต่ไม่ว่ากันค่ะ เข้าใจๆ ต่างคนต่างมีหน้าที่ นุ้ยก็มีหน้าที่ลงกระทู้นี้ต่อให้จบ (แต่ก็ยังไม่จบเสียทีนะ) ใกล้เป็นจริงแล้วค่ะ เผื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาต่อเลยแล้วกัน

หลังจากทานข้าวเช้าที่วัดจีนกันเรียบร้อย พวกเราก็ออกไปที่สังเวชนียสถานแห่งสุดท้ายของการเดินทางครั้งนี้ อิสิปตนมฤคทายวัน สถานที่แสดงปฐมเทศนา

ประกาศ....

ตาลจะบอกว่าถ้าใครจะให้หนูไปส่งข้าวนะ

บอกเลยว่าค่าตัวแพงมากกกกกกกกกกกกกก

สู้ราคาไหวเปล่า........พี่ปลา พี่กุ้ง

หึหึ

ป้านิด....ถ้าพันธมิตรยืดเยื้อไปอีกปีหรือว่าสองปี

ตาลคงไม่มีโอกาสไปบ้านป้านิดแน่ๆ

คิดถึงป้านิดนะคะ

คนแรกของวันนี้.....ชนะเลิศ

ว่าแต่หายไปไหนกันหมดดดด ทำไมวันนี้ถึงยังไม่มีใครเลยเนี่ย

ป้าๆ ที่เชียงราย ถ้าตาลไปเที่ยวตอนนี้ตาลจะชวนใครไปดีอ่ะคะ ป้านิดเค้าก็ไม่ว่าง พี่กุ้งก็เรียน พี่บ๊อบกะพี่เอกอยู่ไหนไม่รู้ เอางี้ตาลหาคนไปเปนเพื่อนให้ได้ก่อน แล้วไปเลยเนี่ย มหาวิทยาลัยเปิดวันที่ 3 และค่ะ

คนนี้ คนนี้ มาคันแรก กับคุณแม่ ดีที่จำทะเบียนสวยๆได้ เลยให้เขาจอดรอคนมาหลัง

ลืมถามตอนพระอาจารย์จับใส่รถว่า ให้รถพาไปไหนอะ จริงๆเขาชี้ไปข้างหน้าอีกนะ เหมือนจะพาไปเที่ยวต่อ โชคดีที่เขาจอดให้ตอนที่สะกิดๆหลังเขาน่ะ ไม่งั้นคงต้องให้ไกด์นั่งรถไปตามอีกไกล .. *_*..