สังเวชนียสถาน 29 มกราคม - 7 กุ...
ReadyPlanet.com


สังเวชนียสถาน 29 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551
avatar
วันแรมทาง


 

ทริปเดินทาง 29 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551  รายชื่อผู่ร่วมทาง

 

ทีมงาน -

    1.   ปลา (ทีมงานวันแรมทาง)

    2.   พระยุทธนา (พระวิทยากร-นำคณะจากพุทธคยาถึงกุสินารา)

    3.   พระมหาณรงค์ (พระวิทยากร-นำคณะที่กุสินารา)

    4.   พระมหาอุเทน (พระวิทยากร-นำคณะจากกุสินาราถึงพุทธคยา)

    5.   ดลับบู (ผู้ช่วยชาวอินเดีย)

    6.   สุเรซ (คนขับรถ)  

    7.   อดุล (เด็กรถ)

 

คณะผู้แสวงบุญ -

    1.   พี่สุนทร 

    2.   พี่จิ๋ม

    3.   พี่โอม

    4.   พี่ต๊อด  

 

หมายเหตุ- ทริปนี้เป็นอีกทริปเล็กๆของเราค่ะ คนน้อยแต่ก็เต็มไปด้วยศรัทธา เราเดินทางกันถึง 10 วัน 9 คืน ได้ไปยังสังเวชนียสถานที่ต่างๆมากมาย อิ่มบุญกลับบ้านกันเลยค่ะ ..



ผู้ตั้งกระทู้ วันแรมทาง กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2008-02-08 11:11:30 IP : 58.9.27.41



ความคิดเห็นที่ 80 (1283720)
avatar
คนรอนแรม

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาติดตามชมเรื่องราวการเดินทางของพวกเรา เดี๋ยวจะเอารูปมาลงเพิ่มนะคะ เรื่องราวการเดินทางทริปนี้ยังไม่จบค่ะ กรุณาติดตามต่อไปนะคะ

ไม่ว่าจะไปแสวงบุญกับพวกเรา หรือกับใคร ก็ขอให้ตัดสินใจไปเถอะค่ะ แล้วชีวิตจะเปลี่ยนไปในทันที คำว่า "ดวงตาเห็นธรรม" อาจจะดูไม่ไกลตัว อย่าที่เราเคยคิดก็ได้

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้านะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม (pla1706-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-20 10:59:43 IP : 58.9.27.61


ความคิดเห็นที่ 79 (1283456)
avatar
ยามบ่าย

เพียงแค่ได้อ่านและชมรูป

ยังรู้สึกอิ่มบุญไปด้วยเลยครับ

กำลังตัดสินใจจะมาแสวงบุญกับคณะ"วันแรมทาง"หรืออาจมาเองก็ได้

ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีที่มาบอกกันนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยามบ่าย (cmdma2000-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2008-06-19 13:57:58 IP : 118.172.99.60


ความคิดเห็นที่ 78 (1279047)
avatar
คนรอนแรม
image

อีกสักรูปนะ ที่บริเวณขอบสระโบกขรณี( The Sacred Pond ) ซึ่งเป็นที่สรงสนานของพระนางสิริมหามายาเทวีก่อนจะให้ประสูติกาลพระกุมารและหลังการประสูติ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:56:24 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 77 (1279044)
avatar
คนรอนแรม
image

ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก ภายนอก มหามายาเทวีวิหาร (TheMahamayaDeviTemple) ซึ่งภายในมีศิลาสลักภาพพุทธประวัติปางประสูติเป็นรูปพุทธมารดาอยู่ในพระอิริยาบถยืนพระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งไม้สาละมีรูปเจ้าชายสิทธัตถะออกมาทางปัสสะขวาของพระพุทธมารดา

ที่นี่เราพบกับชาวสิงคโปร์ สองคน พูดไทยได้นิดหน่อย
พวกเขาขี่รถมอเตอร์ไซด์วิบากคันเบ่อเริ่ม มาเที่ยวอินเดีย-เนปาล สุดยอดจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:49:38 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 76 (1279043)
avatar
คนรอนแรม
image

วันรุ่งขึ้น เราตื่นกันแต่เช้า ร่วมกันทำวัตรเช้าตามปกติ
แล้วก็กินอาหารเช้า จากนั้นก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ ลุมพินี

วันนี้ท่านอาจารย์ พระธรรมวิทยากร ของเรา “พระมหาอุเทน” ยังไม่ค่อยหายป่วย แต่ก็พร้อมทำหน้าที่ธรรมะบรรยายแล้ว หน้าที่ต้องมาก่อน สุดยอดอดทนจริงเลย พระอาจารย์ของเรา

พวกเราเดินทางไปถึงลุมพินี ก็เข้าไปกราบสักการะบริเวณที่ สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าซึ่งเชื่อกันว่าบริเวณที่ประสูติของสิทธัตถราชกุมารคือจุดที่เสาศิลาของพระเจ้าอโศกมหาราชตั้งอยู่ยังมีข้อความภาษาพราหมีจารึกไว้อย่างสมบูรณ์เขียนว่าเป็นสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอาจารย์นำสวดมนต์ ปทักษิน บูชาสถานที่ประสูติและคำอธิษฐานจิตให้ชีวิตประสบแต่ความดีงามเสมือนการได้เกิดใหม่ในแดนประสูติแห่งนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:48:19 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 75 (1279026)
avatar
คนรอนแรม
image

ในตอนเย็น พวกเราร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่า ถวายวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ภายในพระอุโบสถ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:36:27 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 74 (1279023)
avatar
คนรอนแรม
image

ในหนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชรัตนรังษี
กล่าวถึง โทณพราหมณ์เจดีย์  ไว้ว่า

 

            โทณพราหมณ์ปรากฏในพระพุทธประวัติ หลังเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วว่า มีบทบาทที่ช่วยระงับศึกจากเมืองต่าง ๆ ที่หมายจะช่วงชิงพระบรมสารีริกธาตุของพระบรมศาสดา หลังจากที่กษัตริย์มัลละไม่ยินยอมแบ่งให้แต่โดยดี โทณพราหมณ์จึงแสดงบทบาทให้โดดเด่น ระงับความขัดแย้ง แก้ปัญหาด้วยปัญญาที่ชาญฉลาด พราหมณ์นี้ถือกำเนิดในเมืองกุสินารา เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามรถ ฉลาดปราดเปรื่อง เฉียบแหลม เป็นอาจารย์สอนกุลบุตรทั้งหลาย กล่าวกันว่าทั้งชมพูทวีป ใครที่ไม่เคยเป็นศิษย์ของโทณพราหมณ์ไม่มีเลย

            เมื่อคราวที่ทำการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระที่มกุฏพันธนเจดีย์ ด้านทิศตะวันออกของเมืองกุสินารา เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว บรรดาพระราชา มหากษัตริย์ และเจ้าผู้ครองเมืองต่าง ๆ ปรารถนาที่จะได้ส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุมาไว้ในเมืองของตนเพื่อสักการะบูชา ได้ส่งราชทูตมายังกุสินาราเพื่อเจรจาความประสงค์กับกษัตริย์มัลละ ฝ่ายกษัตริย์มัลละคิดว่า พระบรมศาสดาเสด็จมาปรินิพพานที่แว่นแคว้นของตน เพราะทรงปรารถนาจะให้พระบรมสารีริกธาตุแก่พวกตน คิดจะเก็บไว้สักการะบูชาเฉพาะนครของตน ไม่ประสงค์จะแบ่งให้ใคร เมื่อราชทูตจากเมืองต่าง ๆ เข้าพบ จึงปฏิเสธไม่ยอมแบ่งให้ และเชื่อว่าถ้าเกิดการต่อสู้พวกตนก็มีชัย

            ด้วยอำนาจบุญญาธิการของพระบรมสารีริกธาตุ แคว้นต่าง ๆ ที่ส่งราชทูตมา ๗ เมืองด้วยกัน  กองทัพมาเผชิญหน้ากับเมืองกุสินารา เมืองต่าง ๆ มาล้วนเป็นเมืองใหญ่ มีอำนาจทางทหารเหนือกว่ากุสินารา มากมาย ด้วยศักดิ์ศรีทางกองทัพที่เหนือกว่า จะกดดันมัลลกษัตริย์ให้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๗ ส่วนแบ่ง พระบรมสารีริกธาตุ ถูกแบ่งไปยังพระนครต่าง ๆ ดังนี้

๑.      พระเจ้าอชาตศัตรู ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองราชคฤห์

๒.      พวกกษัตริย์ลิจฉวี ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองเวศาลี

๓.      พวกกษัตริย์ศากยวงศ์ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองกบิลพัสดุ์

๔.      พวกกษัตริย์ศากยะอัลลกัปปะ(พูลิ) ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองอัลลกัปปะ

๕.      พวกกษัตริย์โกลิยะ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองรามคาม

๖.      พวกพราหมณ์เวฏฐทีปกะ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองเวฏฐทีปะ

๗.      พวกกษัตริย์มัลละ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองกุสินารา

๘.      พวกกษัตริย์มัลละ ได้กระทำสถูปไว้ที่เมืองปาวา

๙.      พระตุมพเจดีย์ อยู่ที่เมืองกุสินารา โดยที่พราหมณ์ขอทะนานที่ตวงพระบรมสารีริกธาตุกับทูตเหล่านั้น เพื่อนำไปสร้างสถูป และ          ฉลองยังเมืองของตนเช่นกัน

๑๐.    พระอังคารเจดีย์ อยู่ที่เมืองโมรินคร เพราะมาทีหลังได้แต่เถ้าถ่าน กษัตริย์โมริยะ เมืองปิปผลิวัน ส่งทูตมาขอส่วนแบ่งทีหลัง จึงได้แต่พระอังคาร ได้สร้างพระสถูปบรรจุพระอังคาร และฉลองในเมืองปิปผลิวัน
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:34:38 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 73 (1279021)
avatar
คนรอนแรม
image

จากนั้น พวกเราเดินทางกลับมาที่บริเวณวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
พวกเราเดินลัดเลาะไปตามแนวกำแพงวัด ที่บริเวณด้านหลังวัด มีต้นโพธิ์ใหญ่ ที่เชื่อกันว่าเป็นบริเวณ โทณพราหมณ์เจดีย์  อันเป็นบริเวณที่ท่าน โทณพราหมณ์ ได้ทำการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ให้แก่บรรดาเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ

 

ในหนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชรัตนรังษี
กล่าวถึง โทณพราหมณ์วาที  ไว้ว่า

 

              ครั้งนั้น บรรดาผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วที่กรุงกุสินารา จึงส่งทูตไปเจรจาขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ จากเหล่าเจ้ามัลละเมืองกุสินารา เพื่อนำไปสักการะบูชายังแว่นแคว้นของตน แต่กลับถูกเจ้ามัลละกุสินาราปฏิเสธ

                เจ้าเหล่านั้นและพราหมณ์ รวม ๙ นคร ต่างพากันมายื่นคำขาดว่าจะให้พระบรมธาตุหรือจักรบ แล้วตั้งกองทัพล้อมเมืองกุสินาราไว้

                เหล่าเจ้ามัลละแห่งกุสินารา ตรัสว่า ธรรมดาว่าพระรัตนะที่เสมอด้วยพระพุทธรัตนะ ไม่มีในโลก พร้อมทั้งเทวโลก ก็รัตนะเกิดขึ้นในเขตคามของพวกเรา เราจักไม่ยอมให้ส่วนแบ่งแห่งพระบรมสารีริกธาตุนั้นแก่ผู้ใด

                โทณพราหมณ์ได้สดับเรื่องวิวาทของกษัตริย์เหล่านั้น แล้วดำริว่า พวกเจ้าเหล่านี้ก่อวิวาทกันในสถานที่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพาน เป็นการไม่สมควร จำเราจักระงับการวิวาทนั้นเสีย

โทณพราหมณ์จึงขึ้นไปยืนอยู่บนที่สูง กล่าวความว่า
             
“ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย ขอพวกท่านจงฟังคำของข้าพเจ้า พระบรมศาสดาของเราทั้งหลายตรัสสรรเสริญขันติ การที่พวกท่านจะประหัตประหารกันด้วยเหตุแห่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งอันควรแก่การสักการะอย่างสูงสุดเช่นนี้ ไม่ดีเลย พวกท่านทั้งหมดจงเกื้อกูลซึ่งกันและกันเถิด”

              คำกล่าวครั้งแรกของโทณพราหมณ์ ไม่มีผู้ใดสนใจ เพราะต่างก็กำลังถกเถียงกันว่าจะทำประการใด อาศัยที่โทณพราหมณ์เป็นอาจารย์ของเหล่ากษัตริย์ และพราหมณ์ในภาคพื้นชมพูทวีป ไม่มีผู้ใดจะไม่รู้จัก จึงประกาศด้วยเสียงอันดังมากขึ้นอีกว่า พวกท่านจำเสียงอาจารย์ของท่านได้หรือไม่ หากจำได้ ขอให้ทุกท่านจงพากันเงียบเสียง แล้วฟังวาจาที่ข้าพเจ้าจักกล่าวให้จงดี

              เหล่ากษัตริย์ทั้งปวงครั้นได้ยินเสียง จำได้ว่าเป็นเสียงของโทณพราหมณ์ ผู้เป็นอาจารย์ของพวกตน ต่างพากันเงียบเสียงทันที

              โทณพราหมณ์กล่าวซ้ำคำเตือนเป็นครั้งที่สอง แล้วประกาศว่า ขอเราทั้งหลายทั้งปวง จงยินยอมพร้อมใจยินดีแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกเป็น ๘ ส่วน แล้วนำส่วนของตนกลับไปบรรจุไว้ในสถูปยังแว่นแคว้นของท่านเถิด เพื่อที่พระบรมสารีริกธาตุจักได้กระจายไปในทิศทั้งหลาย เหล่าชนผู้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้ายังมีอยู่มาก

              ราชทูตเหล่านั้นกล่าวว่า “ช้าก่อนแต่พราหมณ์ พวกเราทั้งหลายยินยอมตามคำแนะนำของท่าน ถ้าเช่นนั้นขอท่านนั่นแหละจงแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ออกเป็น ๘ ส่วนเท่า ๆ กัน ให้เรียบร้อยเถิด”

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:32:27 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 72 (1279005)
avatar
คนรอนแรม
image

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ครั้งหนึ่งในชีวิต ริมสายน้ำ กกุธานที

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:15:57 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 71 (1279001)
avatar
คนรอนแรม
image

จากนั้น พวกเราเดินทางตามรอยพุทธประวัติ ต่อไปที่ แม่น้ำกกุธานที

ในหนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชรัตนรังษี กล่าวไว้ว่า


           พระพุทธเจ้าเสด็จจากเมืองปาวาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ขณะที่เสด็จดำเนิน ทรงกระหายน้ำ จึงเสด็จแวะลงพัก ณ โคนต้นไม้ที่ริมทางนั้น ตรัสสั่งให้พระอานนท์ปูผ้าสังฆาฎิซ้อนกันเป็น ๔ ชั้น ประทับบนอาสนะที่พระอานนท์ปูลาดถวายไว้ รับสั่งให้พระอานนท์ไปตักน้ำจากลำคลองเล็กที่อยู่ในบริเวณนั้นมา เพราะทรงกระหายใคร่จะดื่มน้ำ พระอานนท์ไม่ไปตักน้ำตามพุทธบัญชา เพราะเห็นว่าเกวียน ๕๐๐ เล่มเพิ่งข้ามแม่น้ำนั้นไปไม่นาน ทำให้น้ำขุ่น กราบทูลแนะนำให้เสด็จต่อไปยังแม่น้ำใหญ่ชื่อ
“กกุธานที” (หรือกกุฏฐา) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นั้น พระพุทธเจ้าตรัสยืนยันถึง ๓ ครั้ง ให้พระอานนท์ไปตักน้ำมา

            พระอานนทเถระ เมื่อพระพุทธองค์ทรงยืนยันให้ไปตักน้ำถึง ๓ ครั้ง จึงถือบาตรไปยังแม่น้ำน้อย เพื่อนำน้ำไปถวายตามพุทธประสงค์ แต่เมื่อพระอานนท์เดินเข้าไปใกล้น้ำในแม่น้ำที่ขุ่นมัวเพราะถูกล้อเกวียนย่ำไป กลับใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว มีกระแสไหลไปตามปกติ เหมือนกับว่าไม่มีล้อเกวียนย่ำผ่านไป     พระอานนท์เอาบาตรตักน้ำแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลถึงเหตุอัศจรรย์ว่า

           “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ เรื่องที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ได้เป็นแล้วในตอนนี้ แม่น้ำนั้นถูกล้อเกวียนบดย่ำแล้ว มีน้ำน้อยขุ่นมัวไหลไปอยู่ เมื่อข้าพระองค์เข้าไปใกล้ กลับใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว ไหลไปแล้ว เพราะความที่พระตถาคตเป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงเสวยน้ำเถิด ขอพระสุคตจงเสวยน้ำเถิด”

             ตำนานบอกว่า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงสรงสนานในแม่น้ำกกุฏฐานี้แล้ว บริเวณริมฝั่งแม่น้ำและปลาทุกตัวในแม่น้ำได้กลายสภาพเป็นทองคำ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:14:34 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 70 (1278999)
avatar
คนรอนแรม

อาหารมื้อสุดท้าย

                พระพุทธองค์เสด็จรอนแรมไปสู่หมู่บ้านภัณฑุคาม ตรัสเทศนาสั่งสอนบุคคลในหมู่บ้านนั้นแล้วเสด็จออกไปสู่หมู่บ้านหัตถีคาม อัมพคาม และซัมพูคาม ตามลำดับถึงเมืองโภคนคร ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่บุคคลทั้งหลายอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงเสด็จไปเมืองปาวา ประทับอยู่ที่สวนมะม่วงของนายจุนทกัมมารบุตร ตระกูลวิศวกรรมนายช่างทอง ณ เมืองปาวานั้นเอง พระพุทธองค์ทรงเสวยอาหารมื้อสุดท้ายที่นายจุนทะจัดถวาย เสวยแล้วเกิดอาพาธกล้า ถึงกลับทรงอาเจียนเป็นโลหิต ถึงกระนั้นทรงมีพระวิริยะอันกล้าเดินทาง รอนแรมไปถึงเมืองกุสินาราตามพุทธประสงค์

                มนุษย์ในโลกนี้ใฝ่ฝันแต่จะได้มาซึ่งความสุข เมื่อมีความสุขก็ลืมทุกสิ่งทุกอย่างตั้งหน้าเสวยสุขนั้น โดยความละโมบ ในไม่ช้าสุขก็สิ้นไปตามสภาวะของมัน ไม่มีอะไรยั่งยืนยิ่งกว่าแสวงหาความสุขจากความสงบ

                ในวันนั้นเอง หลังจากที่เสวยสุกรมัททวะของนายจุนทะแล้ว พระพุทธเจ้าทรงประชวรด้วยโรคชื่อ “ปักขันทิกาพาธ”มีอาการลงพระโลหิต ทรงได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า แต่ยังทรงมีสติสัมปชัญญะ     มั่นคง ไม่ทุรนทุราย ทรงอดกลั้นทุกขเวทนานั้น ด้วยพลังขันติธรรม คือ อธิวาสนขันติ

                พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกพระอานนท์มา แล้วเสด็จออกจากเมืองปาวาไปยังเมืองกุสินารา การประชวรลงพระโลหิตของพระพุทธเจ้านี้ พระสังคีติกาจารย์ผู้ร่วมกันทำสังคายนาได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า

                พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงปรีชา เสวยภัตตาหารของนายจุนทะผู้เป็นบุตรของนายช่างทองแล้ว ทรงประชวรอย่างหนัก ใกล้จะนิพพาน เมื่อพระบรมศาสดาเสวยสุกรมัททวะแล้ว การประชวรบางอย่างได้บังเกิดขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้าลงพระบังคนได้ตรัสว่า “เราจะไปยังเมืองกุสินารา”


            ภายหลัง พระพุทธเจ้าตรัสให้พระอานนท์นำความไปบอกแก่นายจุนทะ โดยทำให้เขามั่นใจว่าการที่เขาถวายสุกรมัททวะแด่พระตถาคตเป็นอาหารมื้อสุดท้าย หลังจากที่ทรงเสวยแล้วทรงประชวรนี้ ไม่มีข้อที่น่าตำหนิ แต่กลับมีอานิสงส์มาก

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:12:13 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 69 (1278998)
avatar
คนรอนแรม
image

ที่แรก เราไปกันที่ สถูปบ้านนายจุนทะ
นั่งรถไปจากวัดไทยกุสินาราฯ ประมาณ 20 นาที

เรื่องราวของ "สถูปบ้านนายจุนทะ"
ในหนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชรัตนรังษี กล่าวไว้ว่า


            บริเวณสถูปโบราณ อันเป็นที่หมายว่าที่แห่งนี้คือบ้านของนายจุนทกัมมารบุตร ช่างทองชาวเมือง   ปาวา ที่ถวายภัตตาหารมื้อสุดท้าย ชื่อ สุกรมัททวะ ต่อบรมศาสดาเป็นเหตุให้การประชวนทรุดหนัก และเสด็จไปยังเมืองกุสินารา เพื่อปรินิพพานตามพุทธประสงค์

            ปัจจุบันตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปาวานาคาร์ ห่างจากเมืองกุสินาราประมาณ ๑๙ กม.มีสถูปโบราณเหลือเป็นเนินสูงประมาณ ๕๐ ฟุต ตามหลักฐานการขุดค้นได้พระพุทธรูปที่บรรจุในสถูปนี้ ๓ -๔ องค์ เป็นที่น่าเสียดายว่า มุสลิมนำศพไปฝังไว้ที่เชิงฐานด้านทิศตะวันออก จึงทำใจให้เข้าถึงประวัติศาสตร์อำนาจและกาลเวลา

            ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อพระภาคเจ้าประทับอยู่ในโภคนครพอสมควรแก่เวลาแล้ว ตรัสรียกพระอานนท์ และเสด็จพระดำเนินไปยังเมืองปาวาพร้อมกับพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เมื่อไปถึงเมืองปาวาแล้ว ประทับอยู่ ณ อัมพวัน (สวนม่วง) ของนายจุนทะ เป็นบุตรของนายช่างทอง ความจริงเมืองปาวานั้นเป็นศูนย์กลางของพวกที่นับถือศาสนาของศาสดามหาวีระหรือนิครนถนาฏบุตร และท่านมหาวีระก็นิพพานที่เมือง ปาวานี้

            นายจุนทะได้ทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จถึงเมืองปาวา กำลังประทับอยู่ ณ อัมพวัน จึงเดินทางไปเข้าเฝ้า กราบทูลนิมนต์พระพุทธองค์พร้อมกับพระภิกษุสงฆ์ให้เสด็จไปฉันภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น นายจุนทะจัดเตรียมของเคี้ยวของฉันอันประณีต และสุกรมัททวะมาถวายเฉพาะพระองค์ให้ถวายอาหารอื่นแก่พระภิกษุสงฆ์ เมื่อฉันแล้ว ตรัสสั่งให้นำสุกรมัททวะที่เหลือไปฝังเสีย

            “ดูก่อนจุนทะ ท่านจงฝังสุกรมัททวะที่เหลือเสียในหลุม เรายังไม่เห็นใครเลยในมนุษย์โลก เทวโลก มารโลก พรหมโลก ที่บริโภคสุกรมัททวะนั้นแล้ว จักพึงให้ย่อยไปด้วยดี นอกจากตถาคต”

            นายจุนทะทำตามพุทธบูชา เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ทำให้นายจุนทะเกิดความเข้าใจในข้ออรรถข้อธรรม มีความรื่นเริงเบิกบานในธรรมะที่ได้สดับนั้น ต่อจากนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จลุกจากอาสนะเสด็จกลับที่ประทับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 12:09:44 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 68 (1278960)
avatar
คนรอนแรม
วันนี้ระหว่างที่เราพักผ่อนและปฏิบัติธรรมกันตามสมควรอยู่ที่วัดไทยกุสินาราฯ พอจะมีเวลาว่างอยู่บ้างก็พาพี่ๆทุกคนไถลออกนอกโปรแกรม ไปเที่ยวศึกษาพุทธสถานที่สำคัญในบริเวณกุสินารานคร โดยมีท่านอาจารย์ "พระมหาณรงค์" พระเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ของวัดไทยกุสินาราฯ เป็นผู้นำพาและบรรยายให้พวกเราเห็นภาพและเข้าใจสถานที่ต่างๆ

จริงๆแล้ว วันนั้นเราไม่มีพระวิทยากรประจำคณะ เนื่องจากพระอาจารย์ยุทธนาท่านกลับไปแล้ว "พระมหาอุเทน" พระวิทยากรองค์ใหม่ของคณะเรา ท่านบังเอิญป่วยเป็นไข้ขึ้นมากระทันหัน

เราก็เลยนิมนต์ พระอาจารย์ณรงค์ให้ออกมาจากถ้ำ (ห้องทำงานของท่าน) ให้ท่านพาเราไปเที่ยวทัศนศึกษากันในครั้งนี้ นับเป็นบุญวาสนาของพวกเราชาวคณะจริงๆ ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะ ขอบคุณพระอาจารย์ณรงค์ ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 11:24:22 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 67 (1278957)
avatar
คนรอนแรม

จากนั้นเราก็กราบลา พระอาจารย์ยุทธนา พระวิทยากรท่านแรกของเราที่นี่ พระอาจารย์ยุทธนา ติดศาสนกิจสำคัญต้องส่งคณะของเราที่นี่ ไม่สามารถเดินทางไปต่อกับพวกเราได้ ต้องขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างมากมายเลยนะคะ ให้ความรู้พวกเราอย่างเต็มที่เลย.. ขอบคุณค่ะ

(ไม่มีรูปตอนกราบลาท่าน ฮือๆๆ พลาดๆ ปลาลืมยกกล้องขึ้นมาถ่ายซะอย่างนั้น กว่าจะรู้ตัว อ้าว.. อาจารย์ขึ้นรถไปแล้ว)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 11:21:42 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 66 (1278942)
avatar
คนรอนแรม
image

พี่ๆทุกคน พี่สุนทร พี่จิ๋ม พี่โอม พี่ต๊อด
ร่วมกันถวายภัตตาหาร ให้พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ที่วัด

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 11:07:09 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 65 (1278939)
avatar
คนรอนแรม
image

ว่าแต่ว่า ถึงไหนแล้วล่ะ
อ้อ.. ถึงวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
คณะเรามีโอกาสได้ร่วมถวายภัตตาหารเพลกันด้วย อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มท้อง กันเลยในวันนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 11:05:33 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 64 (1278934)
avatar
คนรอนแรม

กลับมาแล้วค่ะ กลับมาลงรูปต่อนะ หลังจากที่ห่างหายไปนานมาก นานจนลืมไปเลย .. ขอโทษทุกท่านที่ติดตามรอนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 11:03:03 IP : 58.9.32.77


ความคิดเห็นที่ 63 (1164340)
avatar
ป.ปลา - คนรอนแรม

พอดีต้องเดินทางไปเนปาล 10 วัน ค่ะ
ช่วงวันที่ 2-12 พฤษภาคม นี้
รูปที่เหลือ กลับมาแล้วจะรีบลงให้ดูต่อนะคะ
แหะๆ ขออภัยอย่างแรง ที่ลงรูปให้ดูกันช้ามากๆ
ยกโทษให้ปลาน้อยด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ป.ปลา - คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-02 02:29:02 IP : 58.9.25.153


ความคิดเห็นที่ 62 (1143960)
avatar
ป.ปลา - คนรอนแรม

อุ๊ย..ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ..
มัวแต่เดินทาง ลืมเลย..
หลงคิดว่าลงเสร็จไปนานแล้ว ขอบคุณนะคะที่เตือน
เดี่ยวเอารูปทริปล่าสุดลงก่อน แล้วจะรีบกลับมาเล่าทริปนี้ต่อค่ะ
อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ อดใจรอไม่นานค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ป.ปลา - คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-04-23 11:48:04 IP : 58.9.34.58


ความคิดเห็นที่ 61 (1143361)
avatar
แล้วเจอกัน

เพราะเหตุอะไรคับถึงไม่มีภาพและคําบรรยายต่อ
รออญ่นานแล้วอะคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น แล้วเจอกัน วันที่ตอบ 2008-04-22 21:10:12 IP : 125.24.221.176


ความคิดเห็นที่ 60 (1032377)
avatar
คนรอนแรม

แหม..พี่หมอกว้างล่ะก็.. มันเป็นของแท้ไงคะ (กลัวจำไม่ได้อ่ะ เลยต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว) ของแท้มันต้องเอียงๆกันหน่อยดิ

ว่าแต่ว่า.. มันเอียงกันทั้งคู่ ทั้งปลาและนุ้ยเลยนะเนี่ย อิอิ

เรื่องทีมงาน.. นั่นดิ มันเยอะจัง มาไงกันหว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-25 00:16:37 IP : 58.9.31.117


ความคิดเห็นที่ 59 (1031790)
avatar
พี่ทั้งสอง

      ขอขอบคุณในกุศลจิตของคุณปลาและคุณนุ้ยที่ร่วมกันจัดบุญจาริกทัวร์ในครั้งนี้โดยไม่เห็นแก่ผลกำไร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบคุณคุณปลาที่ต้องเหน็ดเหนื่อยในการดูแลทุกคนในคณะเดินทางให้ได้รับความสะดวกสบายทุกอย่าง  ตั้งแต่วันเริ่มเดินทางไปจนถึงวันเดินทางกลับ  ขอบอกว่าประทับใจมากๆค่ะ

         การเดินทางไปในครั้งนี้ได้รับแต่ความปีติอิ่มเอมใจ  กลับมาแล้วก็ยังคงรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาและความเบิกบาน

         ขอขอบคุณคุณโอม  คุณต๊อด ผู้ร่วมเดินทาง  และขออนุโมทนาบุญกับวันแรมทางที่จัดกิจกรรมบุญอย่างนี้ด้วยใจจริงๆ  ขอกุศลนี้จงเป็นปัจจัยส่งให้คณะบุคคลวันแรมทางประสบแต่สิ่งที่ปรารถนาตลอดไป  สาธุ..สาธุ..สาธุ..อนุโมทามิ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พี่ทั้งสอง วันที่ตอบ 2008-02-24 18:59:00 IP : 125.24.155.143


ความคิดเห็นที่ 58 (1028215)
avatar
หมอกว้าง
ถ่ายเอียงเหมือนเดิม ว่าแต่ทริปนี้ทีมงานมากกว่าผู้เดินทางอีก
ผู้แสดงความคิดเห็น หมอกว้าง วันที่ตอบ 2008-02-23 10:11:48 IP : 118.173.145.55


ความคิดเห็นที่ 57 (1007865)
avatar
คนรอนแรม
image

วันนี้หลวงพ่ออยู่วัดเพราะไม่ค่อยสบาย พระอาจารย์และหลวงพี่ที่วัดเลยขอไม่ให้ท่านออกไปทำงานศาสนกิจที่ไหน

ท่านคุยไปก็ไอไป ค๊อกแค๊กๆๆ ตลอดเวลา .. อากาศก็หนาวมาก พูดอีกก็ไออีก..

เป็นพระอยู่อินเดีย นี่ต้องอดทนจริงๆเลย เฮ้อ.. สงสารหลวงพ่อจัง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-15 22:53:42 IP : 58.9.37.2


ความคิดเห็นที่ 56 (1007858)
avatar
คนรอนแรม
image

จากที่ มกุฏพันธนเจดีย์ เรากลับเข้าสู่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

 

ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จแทนพระองค์ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระมหาเจดีย์“พระมหาธาตุเฉลิมราชศรัทธา” ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในวัดไทยกุสินาราฯ

 

วันนี้โชคดี พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เจ้าคุณพระราชรัตนรังษี (หลวงพ่อเจ้าคุณวีรยุทธ) ท่านอยู่ที่วัด

พวกเราเลยโชคดี ได้ฟังเทศน์ฟังธรรมจากท่านเยอะเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-15 22:49:00 IP : 58.9.37.2


ความคิดเห็นที่ 55 (1007849)
avatar
คนรอนแรม
image

ทุกคนร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ที่ มกุฏพันธนเจดีย์

 

( ว้า มาหลายวันแล้ว เป็นแต่ตากล้อง ถ่ายรูปให้พวกพี่ๆเค้านี่แหละ ไม่มีรูปตัวเองเลย ฮือๆๆ L )

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-15 22:45:41 IP : 58.9.37.2


ความคิดเห็นที่ 54 (1007836)
avatar
คนรอนแรม
image

ปทักษิณ 3 รอบ พร้อมสวดมนต์บท อิติปิโส น้อมถวายเป็นพุทธบูชาพระพุทธองค์

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-15 22:42:15 IP : 58.9.37.2


ความคิดเห็นที่ 53 (1007833)
avatar
คนรอนแรม
image

ร่วมกันสวดมนต์บูชา สถานที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-15 22:39:49 IP : 58.9.37.2


ความคิดเห็นที่ 52 (1007830)
avatar
คนรอนแรม
image

จากนั้นไปสักการะ มกุฏพันธนเจดีย์ (MakutabandanaStupa)

สถูปที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระหลังวันปรินิพพาน 7 วัน

ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-15 22:37:49 IP : 58.9.37.2


ความคิดเห็นที่ 51 (1007826)
avatar
คนรอนแรม
image

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน สาลวโนทยาน (อีกรูป)
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรอนแรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-02-15 22:36:39 IP : 58.9.37.2





Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด