|
23 - 27 กุมภาพันธ์ 2555 เที่ยวเมืองศิลปิน ดนตรี กวี และศิลปะ (กัลกัตตา - ศานตินิเกตัน) | |
ตาล | 23 - 27 กุมภาพันธ์ 2555 กัลกัตตา - ศานตินิเกตัน เที่ยวเมืองศิลปิน ดนตรี กวี และศิลปะ
ก่อนจะเรียนจบจากวิศวะภารตี เมือง ศานตินิเกตัน ลูกค้าเจ้าเก่าพี่สาวคนสวยเคยเกริ่นไว้ว่า... พาไปเที่ยวมหาวิทยาลัยที่เรียนบ้างสิ ทริปนี้จึงเกิดขึ้นมา เรียนจบไปแล้วพักใหญ่กว่าเวลาจะเอื้ออำนวย เดินทางครั้งนี้เลยไม่ใช่แค่พาลูกค้าไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยและเมืองที่คุ้นเคย แต่ยังหมายถึงการเอาตัวเองกลับไปยังบ้านที่อยู่มานานกว่า 2 ปี แบกเป้ใส่รองเท้าแล้วมาย้อนดูความหลังสวยๆ ของเส้นทางนี้กัน |
ผู้ตั้งกระทู้ ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-09 14:33:25 IP : 27.130.20.195 |
ความคิดเห็นที่ 48 (1507366) | |
ตาล | แอบดูกันว่าสาวๆ แก๊งนี้กินเครื่องดื่มอะไรตั้งแต่หัววัน....... :-) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:20:26 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 47 (1507365) | |
ตาล | อาหารขึ้นชื่อที่ว่า สั่งกันคนละจาน และมันมาจานใหญ่มาก อิ่มไปถึงวันรุ่งขึ้น |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:19:25 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 46 (1507364) | |
ตาล | ถึงสักทีค่าร้านทีเด็ด ร้านนี้จำได้ว่าสมัยเรียนถ้ามากัลกัตตาเมื่อไรก็ไปเจอกันได้ที่ร้านนี้ มีจานโปรดเป็น Sizler เสต็กจานร้อน ที่ร้อนมากจริงๆ ร้อนแล้วยังรบกวนชาวบ้านด้วย เวลาที่อาหารกำลังมา เราจะรู้ได้ก่อนที่จะเห็นพนักงานเสิร์ฟเสียอีก เสียงซ่าส์............ ของเนื้อที่อยู่ในจานร้อน กับควันที่ยกมาทั้งขโมง สร้างความตื่นตาตื่นใจดีไม่น้อย ที่รองจานของคนที่สั่งจานนี้ถึงกับต้องเขียนคำเตือนไว้เลยทีเดียวว่าระวัง.... มันร้อนมากกกกกกก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:15:50 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 45 (1507362) | |
ตาล | หรือร้านนี้ ก็ยังไม่ใช่.... |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:12:19 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 44 (1507361) | |
ตาล | พุ่งเข้าร้านอาหารปรื้ด สั่งก่อนได้ก่อน.... ไม่ใช่ร้านนี้ ผิดร้าน !!!!!! |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:11:23 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 43 (1507360) | |
ตาล | ลืมโชว์รูปรถม้าน่ารักที่หน้า Victoria Memorial ค่ะ สนามที่เห็นนั้นนอกจากจะเป็นสนามม้าแล้ว ยังเป็นสนามคริกเก็ต กีฬาสุดฮิตของคนอินเดียอีกต่างหาก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:10:25 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 42 (1507358) | |
ตาล | ขึ้นรถมุ่งหน้าไปร้านอาหาร บอกคนขับเหยียบสุดเท้า พวกเราหิวมากกกกกกกกกกกกก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:08:33 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 41 (1507357) | |
ตาล | ถ่ายรูปกันด้านนอก แล้วเดินวนดูข้างในกันสักพัก มื้อกลางวันนี้ มีร้านในดวงใจยกให้เบอร์หนึ่ง จากนั้นมุ่งหน้าไปร้านโปรดของตาลอีกร้านกัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:07:39 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 40 (1507356) | |
ตาล | ถ่ายรูปกันด้านนอก แล้วเดินวนดูข้างในกันสักพัก มื้อกลางวันนี้ มีร้านในดวงใจยกให้เบอร์หนึ่ง จากนั้นมุ่งหน้าไปร้านโปรดของตาลอีกร้านกัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:07:01 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 39 (1507355) | |
ตาล | อนุสรณ์สถาปัตยกรรมวิคตอเรียหินอ่อนแห่งนี้ มีประติมากรรมแบบตะวันตก ที่งดงาม ตั้งแต่เชิงบันได จนถึงยอดโดม แบบอิตาลี พร้อมกับ สิ่งละอัน พันละน้อย ที่เกี่ยวกับ อนุสรณ์พระนาง ตลอดไปจนถึง ภาพเขียน อันสวยสด งดงาม ให้ตื่นตาตื่นใจ อีกมากมาย |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:04:23 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 38 (1507353) | |
ตาล | อาคารหินอ่อน สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1921 โดยท่านเซ่อร์ โทมัส บรู๊ค (Sir Tomas Brooks) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 19:01:23 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 37 (1507351) | |
ตาล | ตึกเมื่อตะกี้ไม่ใช่นะคะ อันนั้นแค่ทางผ่านเฉยๆ Victoria Memorial Hall สร้างขึ้นเพื่อเป็นระลึก ให้กับควีนวิคตอเรีย สมเด็จพระราชอนีนาถแห่งสหราชอาณาจักรและจักรพรรดินีแห่งอินเดีย ตั้งอยู่ในกัลกัตตา ประเทศอินเดีย - เมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตกและเมืองหลวงเก่าของบริติชอินเดีย ภายใต้การกำกับดูแกระทรวงวัฒนธรรมอินเดีย
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:56:23 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 36 (1507350) | |
ตาล | ต่อจากแม่ชีเทเรซ่าเราขึ้นแท็กซี่ไปต่อกันที่ Victoria Memorial อนุสรณ์สถาน พระราชินีนาถวิคตอเรีย Victoria Memorial เวลาเข้าชม 10.00เหมือนเดิม มีสวนสาธารณะด้านนอก เปิดให้เข้าชมแต่เช้า อนุสาวรีย์สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย (Queen Victoria) ราชินีผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงโด่งดังในยุคอาณานิคม |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:55:12 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 35 (1507348) | |
ตาล | ในปี 1957 เริ่มจัดหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ไปรักษาชาวไร่ชาวนา และพบว่า ชาวอินเดียป่วยเป็นโรคเรื้อนกันมาก จึงเริ่มหาทางแก้ไข และได้รับบริจาคที่ดินจากรัฐบาลเบงกอลตะวันตก เพื่อก่อตั้งสถานที่รักษาพยาบาลโรคเรื้อน แต่ก็มีงบประมาณไม่เพียงพอ จึงนำรถที่พระสันตะปาปาได้เคยให้ไว้ ออกมาประมูลโดยการ ออกสลากจับรางวัล จนได้จำนวนเงินมา เพื่อดำเนินและสนับสนุนโครงการ และหมู่บ้านสันติสุข ก็เกิดขึ้นในปี 1968 ในปี 1979 แม่ชีเทเรซ่าได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แม่ชีเทเรซายังมีผลงานการช่วยเหลือคนยากไร้อีกมากมาย และยังก่อตั้งโครงการทั้งในประเทศอินเดียเอง และต่างประเทศ จวบจน วันที่ 5 กันยายน 1997 แม่ชีเทเรซ่าก็จากไปอย่างสงบ ด้วยสิริอายุรวม 87 ปี กับอีก 10 วัน และรับบาลอินเดียได้จัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้รับเช่นนี้ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:39:52 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 34 (1507347) | |
ตาล | ในปี 1946 ขณะที่นั่งรถไฟอยู่ ได้เกิดนิมิตจากพระเจ้า เธอจึงขออนุญาตไปทางพระสันตะปาปา เพื่อขอเข้าไปทำการเพื่อช่วยเหลือคนยากไร้ในสลัม และเข้าไปเริ่มเรียนด้านการพยาบาลที่รัฐพิหาร พร้อมก่อตั้งโรงเรียนกลางแจ้งในสลัม ในเวลานั้นเองเริ่มมีผู้คนเข้าขอร่วมเป็นหมู่คณะและร่วมงานครั้งนี้ โดยมีแม่ชีคนแรกที่ร่วมคณะโดยการขอบวช คือ สวาชินี ดาส ในปี 1950 ได้ก่อตั้ง คณะมิชชันนารีแห่งความรักของพระเจ้า (Missionaries of Charity) โดยแม่ชีเทเรซาได้เป็นหัวหน้าองค์กร และก่อตั้ง บ้านของผู้รอความตาย (Home for the Dying) ในกัลกัตตา (Calcutta) หรือโกลกาตา (Kolkata) ชื่อในปัจจุบัน เมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก โดยขอยืมพื้นที่จากวัดฮินดู และประสบปัญหาการต่อต้านจากชาวฮินดูมากมาย แต่ก็ฝ่าฟันมาได้ โดยความช่วยเหลือจากตำรวจอินเดีย ในปี 1955 มีผู้ใจบุญบริจาคบ้านเพื่อการกุศล แม่ชีเทเรซ่าจึงเปิดเป็นบ้าน รับเลี้ยงเด็กกำพร้า ตั้งชื่อว่า บ้านเด็กใจบุญ (Childrens Home of the Immaculate Heart) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:38:55 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 33 (1507344) | |
ตาล | เมื่ออายุ 18 ปี สาวน้อยแอกเนซก็ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสำนักแมชี Loreto Abbey ใน Rathfarnham ประเทศ Ireland เพื่อเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ในการเผยแพร่ และสื่อสารกับชาวอินเดีย โดยไม่รู้ตัวเลยว่า เธอจะไม่ได้เห็นหน้าครอบครัวของเธออีกต่อไป ในปี 1929 มิชชันแนรี่ แอกเนซ ได้เดินทางเข้าสู่อินเดียเพื่อสานปณิธานที่หวังไว้ และเริ่มเรียนภาษาเบงกาลี เพื่อใช้ในการสื่อสาร รวมถึงสอนในโรงเรียน แถบดาจีลิ่ง โรงเรียนที่อยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย และเข้าสาบานตนเป็นแม่ชี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี 1931 และได้ชื่อว่าแม่ชีเทเรซา ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:34:36 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 32 (1507343) | |
ตาล | แม่ชีเทเรซ่า สตรีเชื้อสายบอสเนีย มีชื่อเดิมว่า Agnes Gonxha Bojaxhiu ถือกำเนิดและมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ 26 สิงหาคม 1910 5 กันยายน 1997 และมีชื่อเรียกที่ครอบครัวมักเรียกขานสั้นๆ อยู่เสมอว่า Agnes ซึ่งภายหลังแม่ชีเทเรซ่า กล่าวว่าเธอถือกำเนิดในวันที่ 27 เพราะเป็นวันที่ได้รับการ แปบติซส์ ด้วยความที่เป็นเด็กที่มีความเมตตา จึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยได้รับแรงบัลดาลใจจาก การที่เด็กน้อย แอกเนซ ได้รับรู้เรื่องราวของการใช้ชีวิตของ มิชชันแนรี่ ในเบงกอล ที่ปรากฏในหนังสืออัตชีวประวัติ ของ Joan Graff Clucas และตั้งปณิธานว่าจะขอเข้าบวชเมื่ออายุ 12 ปี โดยความไม่เห็นด้วยของครอบครัวในเริ่มแรก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:33:30 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 31 (1507342) | |
ตาล | สำหรับความสำคัญของแม่ชีเทเรซ่านั้น เนื่องจากประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมอยู่มาก อัตราส่วนคนรวยกับคนจนนั้นมีมากมาย และมีมากชนิดที่เรียกว่า มิอาจะเปรียบเปรยกับอะไรที่สามารถจะจิตนาการออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ ชีวิตของคนอินเดียส่วนใหญ่ปัจจุบัน ต้องถือว่าคนจนเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับสิทธิในสังคมเท่าที่ควร และรวมไปถึงสิทธิของสตรีอีกด้วย
ปกติแล้วคนต่างชาติโดยเฉพาะสตรีในประเทศอินเดีย จะไม่ค่อยได้รับการยอมรับทางสังคมสักเท่าไหร่ แต่มีสตรีผู้หนึ่งที่เข้ามาและกอบกู้ช่วยเหลือชาวอินเดียจำนวนมากให้พ้นทุกข์ จนได้รับการยอมรับและยกย่องให้เป็นพลเมืองของประเทศกันเลยทีเดียว บุคคลผู้นั้นก็คือ แม่ชีเทเรซ่า (Mother Teresa) นั่นเอง |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:31:42 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 30 (1507340) | |
ตาล | ประมาณ 3 หลังถัดจากบ้านนั้นเป็นบ้านแม่ชีเทเรซ่าของจริง แต่เนื่องจากสูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้ว ทุกคนเลยให้เดินเข้าไปถามคนเดียวก่อน เดินออกมาบอกทุกคนว่าใช่... ใครๆ ถึงได้กล้าเดินตามเข้าไป อันที่จริง เคยมาที่นี่แล้วสองสามครั้ง นั่งรถมาส่งเพื่อนที่เป็นอาสาสมัครช่วยดูแลคนป่วยที่นี่ สงสัยเพราะตาลเป็นคนไม่ดี ไม่ยอมมาเป็นอาสาสมัครบ้าง เลยต้องประสบชะตากรรมเยี่ยงนี้สินะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:26:54 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 29 (1507338) | |
ตาล | ยามที่พาทุกคนเดินมาจนถึงถนนเส้นบ้านแม่ชีแล้ว ตาลก็นำทุกคนเดินเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่ง หน้าบ้านตกแต่งด้วยรูปปั้นแม่ชี ด้านในเป็นโบสถ์สวยงาม บรรยายสรรพคุณและประวัติแม่ชีเทเรซ่าจนหมดไส้ แม่ชีท่านหนึ่งเดินออกมาถามเราว่าจะไปไหนกัน เราตอบพร้อมเพรียงมาบ้านแม่ชีเทเรซ่า แม่ชีท่านนั้นตอบเราว่า.... บล๊อคถัดไป วงแตกทันควัน..................................... สถานการณ์เงียบงันมาก ทุกคนให้อภัย แต่จะจำเอาไว้ตลอดกาล พลาดที่สุดคือการมากับพี่เปิ้ล หัวข้อนี้จึงถูกยกขึ้นมาสนทนาเสมอๆ ตราบชีวิตจะหาไม่ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:24:12 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 28 (1507337) | |
ตาล | บ้านแม่ชีนี้มีเรื่องเล่า ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าเช้านี้ แต่เป็นเรื่องที่เล่าได้ทุกเช้าตลอดทริปและแม้จะจบทริปไปแล้วก็ตาม....... |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:20:13 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 27 (1507335) | |
ตาล | จากทางลัดนั้น เราผ่านคู่พ่อลูกหนวด... สังเกตเคราลูกดีๆ ชุกชุมมาก จนอยากให้โล่ห์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:17:12 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 26 (1507334) | |
ตาล | พาทุกคนเดินกันไปเรื่อยๆ จาก Sudder Street ไปบ้านแม่ชีเทเรซ่าไม่ไกล ถ่ายรูปไปชมเมืองไป กัลกัตตายามเช้าก็สดชื่นดี ทางไป Mother Teresa House จาก Sudder Street มีสองทาง ทางลัดก็เดินออกทางท้ายซอยของถนนแล้วก็ลัดเลาะตรงไปเรื่อยๆ จนสุดถนนใหญ่แล้วเลี้ยวขวา หรืออาจจะเดินไปทาง Park Street ทางนี้จะออ้อมกว่าแต่มีป้ายบอกตลอดทาง |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:14:44 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 25 (1507332) | |
ตาล | วันที่สอง กัลกัตตา อาหารเช้าในเช้าวันนี้อร่อย ทั้งอาหารและผู้คนบนโต๊ะอาหาร วันนี้เราจะไปบ้านแม่ชีเทเรซ่า, Victoria Memorial, หอดูดาว, วัดเจ้าแม่กาลี ฯลฯ ขึ้นอยู่กับเวลาและอารมณ์ของทุกคน |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:10:16 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 24 (1507330) | |
ตาล | เก็บภาพยามค่ำก่อนนอนอีกครั้ง ก่อนแยกย้ายห้องใครห้องมัน พรุ่งนี้เช้าเรานัดกันที่ห้องอาหารโรงแรม... โปรแกรมพรุ่งนี้หนาแน่น ต้องเตรียมตัวนอนเยอะๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:03:52 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 23 (1507329) | |
ตาล | แวะร้านนั้น ออกร้านนี้ เราพาทุกคนถ่ายรูปช้อปปิ้ง จนเดินวนกลับมาเข้า Sudder Street จากทางปลายทางอีกครั้ง คืนนี้ทุกคนพักผ่อนกันสบายในห้องพักสวยๆ ถนนด้านนอกคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ที่แห่แหนกันมาช้อปปิ้งยัง New market แค่ถนนถัดไปจากที่พัก แต่ภายในโรงแรมเงียบสงบเหลือเชื่อ คืนนี้ปล่อยเวลาสบายๆ ให้แต่ละคนเต็มที่ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 18:00:56 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 22 (1507326) | |
ตาล | แม้ว่าในภาษาเบงกาลีซึ่งเป็นภาษาของท้องถิ่นจะเรียกชื่อเมืองนี้ว่า "โกลกาตา" มาตลอด แต่ชื่อภาษาอังกฤษของเมืองก็เพิ่งถูกเปลี่ยนจาก "กัลกัตตา" เป็น "โกลกาตา" ตามการออกเสียงในภาษาดังกล่าวเมื่อปี พ.ศ. 2544 นี้เอง บางคนมองว่านี่เป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวเพื่อลบล้างสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดจากการปกครองของอังกฤษ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 17:53:33 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 21 (1507325) | |
ตาล | เป็นไปได้ว่าชื่อโกลกาตาและ "กัลกัตตา" นั้นอาจจะมาจาก กาลิกาตา ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านสามแห่ง (กาลิกาตา สุตนุติ และโคพินทปุระ) ในพื้นที่แถบนี้ก่อนการเข้ามาของอังกฤษ ซึ่งสันนิษฐานว่า "กาลิกาตา" นั้นเป็นรูปในภาษาอังกฤษของคำว่า กาลีเกษตร ("ดินแดนของพระแม่กาลี") หรือมาจากคำในภาษาเบงกาลีว่า กิกิลา ("ที่ราบ") หรืออาจมีต้นกำเนิดจากคำพื้นเมืองที่ใช้เรียกชื่อคลองธรรมชาติสายหนึ่ง คือ คาล ตามด้วย กัตตา |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 17:52:25 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 20 (1507323) | |
ตาล | โกลกาตาเคยเป็นเมืองหลวงของอินเดียในสมัยการปกครองของอังกฤษ จึงทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการศึกษาสมัยใหม่ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง (จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2454 ได้มีการย้ายเมืองหลวงไปนิวเดลี) อย่างไรก็ตาม โกลกาตาประสบกับภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจเป็นเวลานานติดต่อกันหลายปีหลังจากอินเดียได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2490 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา การฟื้นฟูและการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ได้นำไปสู่ความเจริญเติบโตของเมืองอย่างเต็มที่ แต่ก็เช่นเดียวกับเมืองใหญ่แห่งอื่น ๆ ในอินเดีย โกลกาตาต้องเผชิญกับปัญหาเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน ปัญหามลภาวะ ปัญหาการจราจรติดขัด เป็นต้น นอกจากนี้ โกลกาตายังมีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์การปฏิวัติ ตั้งแต่การเรียกร้องเอกราชของอินเดีย ไปจนถึงขบวนการฝ่ายซ้ายและสหภาพการค้าต่าง ๆ อีกด้วย |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 17:50:37 IP : 171.7.198.11 |
ความคิดเห็นที่ 19 (1507319) | |
ตาล | โกลกาตา (Kolkata) หรือชื่อเดิม กัลกัตตา (Calcutta) เป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก (West Bengal) ของ ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำฮูคลี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมืองนี้มีจำนวนประชากร 4,580,544 คน (พ.ศ. 2544) ซึ่งหากนับรวมในเขตเมืองรอบนอกด้วยก็จะมีจำนวนมากกว่า 14 ล้านคน ทำให้เมืองนี้เป็นกลุ่มเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ เดิมเป็นเมืองท่าสถานีการค้าเล็กๆ บนชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย และอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำฮูกลีซึ่งเป็นแม่น้ำสายเดียวกันกับแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ของอินเดีย ปี 1690 จ็อบ ชาร์น็อก หัวหน้าโกดังสินค้าของบริษัทอิสต์อินเดียของอังกฤษในฮูกลีได้เลือกเอา หมู่บ้านกาลีกัต เป็นที่สร้างโกดังสินค้าแห่งใหม่ของบริษัท และนี่คือต้นกำเนิดของเมืองกัลกัตตา มีท่าอากาศยานนานาชาติเมืองโกลกาตามีชื่อเรียกว่า Netaji Subhash Chandra Bose International Airport เมืองโกลกาตามีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดทางทิศตะวันออกของรัฐชื่อว่า Haldia โกลกาตาเคยเป็นเมืองหลวงของอินเดียในสมัยการปกครองของอังกฤษ จึงทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการศึกษาสมัยใหม่ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2454 ได้มีการย้ายเมืองหลวงไปนิวเดลี ข้อควรระวัง ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองโกลกาตาควรระมัดระวังเรื่องฝุ่นละอองและมลพิษรวมถึงควรระมัดระวังเรื่องอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อาทิ มาลาเรีย อหิวาตกโรค วัณโรค โรคทางเดินอาหาร ไวรัสตับอักเสบ และไข้เลือดออก เป็นต้น เลี้ยวเข้าซอยมาไม่เท่าไร แวะเข้าร้านหนังสือก่อน ร้านนี้มีดีกว่า Oxford ที่ถัดไปอีกประมาณ 300 เมตร ตรงที่ Lonely Planet ลดราคา 30 % ตลอดทั้งปี ตาลกับพี่เล็กคนละ 1 เล่ม |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (warm_mail27-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-07-09 17:44:23 IP : 171.7.198.11 |
Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด |