เที่ยวหลวงพระบาง
ReadyPlanet.com


เที่ยวหลวงพระบาง
avatar
วันแรมทาง



การเดินทางจากกรุงเทพสู่หลวงพระบาง
21-28 มิถุนายน 2553

พวกเราออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง นั่งรถไฟ สายกรุงเทพ-หนองคาย มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟหนองคาย โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ เวียงจันทน์ วังเวียง และหลวงพระบาง

ครั้งนี้เราเดินทางกัน 11 คน มี ปลา นุ้ย ตาล ป้าดวง พี่ต่วน ลุงสุนทร ป้าจิ๋ม ลุงแม็ค ป้าเล็ก
พี่จุ่น และอาม่าปี๊ด

ติดตามเรื่องราวของพวกเราได้ที่นี่นะคะ



ผู้ตั้งกระทู้ วันแรมทาง กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-06-22 07:06:19 IP : 110.49.205.140



ความคิดเห็นที่ 91 (1388071)
avatar
คนแรมทาง
image

เดินกันมาจนได้เหนื่อย เราก็มาถึงที่นี่... ร้านกาแฟประชานิยมค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 21:09:03 IP : 125.24.24.232


ความคิดเห็นที่ 90 (1388070)
avatar
คนแรมทาง
image

หน้าสำนักงานสายการบินลาวค่ะ ไม่ได้บินกับเค้าเหรอ แต่คราวต่อไปก็ไม่แน่นะ...อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 21:03:29 IP : 125.24.24.232


ความคิดเห็นที่ 89 (1388068)
avatar
คนแรมทาง
image

ส่วนเมนูนี้ยอดฮิตมากๆ สำหรับหมู่คณะ ลูกตะขบค่ะ หวานเจี๊ยบได้ใจ อาม่าภูมิใจนำเสนอค่ะ แต่ตะขบบ้านเราไม่หวานเหมือนที่ลาวนะ ตลอดทางที่เดินไป มีลูกตะขบแดงๆ เตะตาและมือเอื้อมถึงเป็นไม่ได้ ชาวคณะจัดการเก็บเรียบค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 20:55:06 IP : 125.24.24.232


ความคิดเห็นที่ 88 (1388067)
avatar
คนแรมทาง
image

เติมพลังกันเสร็จพวกเราก็ออกเดินเที่ยวกันต่อ ชมวิถีชีวิตชาวลาวไปเรื่อยๆ

แล้วก็ชิมอาหารลาวไปด้วยในตัว

น้ำเต้าหู้ร้อนและเย็น ร้านนี้อร่อยดีค่ะ แบบเย็นใส่น้ำแข็งใส่เครื่อง แล้วคนให้เข้ากัน หวานเย็นชื่นใจ  

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 20:43:54 IP : 125.24.24.232


ความคิดเห็นที่ 87 (1388065)
avatar
คนแรมทาง
image

วันที่ 5 วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2553  :  หลวงพระบาง (Luang Prabang)

พวกเรานัดรวมพลกัน 7 โมงเช้า เดินออกไปหาอาหารเช้ากินกันแถวหน้าโรงแรม แล้วก็เจออาหารยอดฮิตสำหรับมื้อเช้าของชาวลาว คือ "เฝอ" ค่ะ แต่ร้านข้างๆ ที่พักซึ่งดูจะเป็นที่นิยมมาก ที่นั่งไม่ว่างเลย พวกเราก็เลยข้างถนนมาฝั่งตรงข้ามที่พัก ซึ่งเป็นร้านบ้านๆ ไม่มีชื่อร้าน มีโต๊ะตั้งอยู่ไม่กี่โต๊ะ แต่ที่นั่งว่างสำหรับพวกเราค่ะ กินกันร้านนี้แหละ

ที่นี่มี 2 เมนูค่ะ คือเฝอ กับข้าวเปียก ซึ่งต่างกันที่เส้น เฝอเป็นเส้นกลมๆ น้ำใส ส่วนข้าวเปียกเป็นเส้นแบน แต่ไม่ใหญ่เท่าเส้นใหญ่บ้านเรา และมีเครื่องปรุงบางอย่างใส่มาด้วย คล้ายๆ จะเป็นพวกเต้าเจี้ยวค่ะ ชิมทั้งสองอย่างแล้ว รสชาติโอเคนะคะ แต่โดยส่วนตัวชอบเฝอมากกว่า

ใครอยากลองแบบไหนก็เลือกสั่งกันตามสะดวกค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 20:34:26 IP : 125.24.24.232


ความคิดเห็นที่ 86 (1387977)
avatar
คนแรมทาง
image

พวกเราถึงหลวงพระบางตอนประมาณทุ่มกว่าๆ ต่อโทรศัพท์ให้พลขับเจรจาถามทางกับคนที่เรือนสันติสุข ที่พักของพวกเราในหลวงพระบาง รถมาส่งพวกเราถึงหน้าเรือนพัก ซึ่งดูต่างจากภาพที่วาดไว้พอสมควร เราคิดว่าจะเป็นบ้านๆ หลังไม่ใหญ่โต และไม่คิดว่าจะอยู่ติดถนนใหญ่เลย แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้เดินทางสะดวกเวลาออกไปเที่ยว เสียดายที่ลูกค้าเราติดภารกิจอยู่ต่างเมือง สรุปแล้วเลยไม่ได้เจอกัน (พระเทพรัตนฯ ท่านเสด็จเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่บ่อแก้ว ซึ่งแม่แก้วหนึ่งในลูกค้าเราบ้านอยู่บ่อแก้ว และดูท่าทางจะเป็นผู้อาวุโสซึ่งเป็นที่นับหน้าถือตาในพื้นที่พอสมควร เลยได้รับเกียรติให้ไปเฝ้ารับเสด็จด้วย ลูกสาวแม่แก้วที่เป็นเจ้าของเรือนสันติสุขก็เลยไปกับแม่ด้วยค่ะ)

ห้องพักที่เรือนสันติสุขพอใช้ได้ เสียแต่ว่าต้องขึ้นๆ ลงๆ บันได และมีพื้นต่างระดับเยอะไปหน่อย แม้แต่ในห้อง จึงไม่เหมาะสำหรับผู้สูงวัยค่ะ ส่วนเรื่องความสะอาดถือว่าผ่าน บริการก็สมราคา เราจ่ายราคาพิเศษคืนละ 400 บาท แต่ราคาปกติรู้สึกจะ 500-600 บาทนะ

จัดการเรื่องห้องพักกันจนลงตัว พวกเราก็ออกไปหาอาหารเย็นกินกันใกล้ๆ ที่พักนี่แหละ เดินถัดมาหน่อยเดียวเอง

เมนูที่มาถึงหลวงพระบางแล้วไม่ควรพลาด คือสลัดผักน้ำค่ะ (ดูรายการโทรทัศน์แล้วเค้าบอกว่าเด็ดๆๆ และไม่ได้มีตลอดทั้งปีนะ มีเป็นฤดูกาลค่ะ ซึ่งก็โชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูกาลที่มีผักน้ำอยู่พอดี)

ถ้าถามว่ารสชาติเป็นยังไง อร่อยสมคำล่ำลือมั้ย ตัวเองตัดสินไม่ได้น่ะ เพราะปกติเป็นประเภทลิ้นจรเข้ แถมไม่โปรดผักดิบสักเท่าไหร่ แต่จากการการันตีของหลายๆ คน บอกว่าอร่อยดี มีรสมันๆ และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ บรรยายไม่ถูกค่ะ ต้องหาโอกาสไปลองเองแล้วกันนะคะ

หลังอาหารมื้อนี้ พวกเราก็กลับเข้าที่พัก และแยกย้ายกันนอนหลับพักผ่อน เก็บแรงไว้เที่ยวหลวงพระบางกันในวันพรุ่งนี้ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะทุกคน

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 00:29:05 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 85 (1387976)
avatar
คนแรมทาง
image

ดีที่ช่วงบ่ายๆ ฝนตก ท้องฟ้ามีเมฆมาก ทำให้อากาศไม่ร้อนนัก ไม่งั้นคงแย่ เพราะรถไม่ได้เปิดแอร์ จริงๆ ช่วงแรกที่ออกจากวังเวียงมาก็เปิดนะ แต่พอถึงระยะที่ต้องขึ้นเขา พลขับก็ปิดแอร์ตลอด

ระหว่างทางก่อนถึงหลวงพระบางพอสมควร เราเจอรถ VIP บัสคันที่จะไปเมืองอะไรสักอย่างที่เลยหลวงพระบางไป ซึ่งเจ้าหน้าที่เรียกถามว่ามีที่ว่างสำหรับพวกเรามั้ยจอดเสียอยู่ ถือเป็นโชคดีที่พวกเราไม่ได้ขึ้นรถคันนั้นมา เพราะเย็นมากแล้ว รถจอดเสียอย่างนี้ เมื่อไหร่ถึงจะไปต่อได้ก็ไม่รู้

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 00:16:15 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 84 (1387974)
avatar
คนแรมทาง
image

มีของให้ช็อปปิ้งกันด้วย เป็นพวกผ้าพันคอ และกระเป๋าผ้า ป้าๆ เลือกกันได้หลายใบทีเดียว
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-27 00:04:52 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 83 (1387972)
avatar
คนแรมทาง
image

ออกจากภูเพียงฟ้ามากว่าชั่วโมง เราก็มาจอดแวะกันอีกทีที่ร้านอาหารวิวทะเลหมอก

ที่นี่วิวสวยใช้ได้เหมือนกันนะ ถึงจะน้อยกว่าภูเพียงฟ้าหน่อย

ห้องน้ำที่นี่ก็โอเค มุมนี้วิวที่เห็นจากหน้าห้องน้ำค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-26 23:53:32 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 82 (1387971)
avatar
คนแรมทาง
image

อิ่มกันและ ได้เวลาบอกลาภูเพียงฟ้ากันแล้วจ้ะ

ก่อนออกเดินทางก็เข้าห้องน้ำทำภารกิจส่วนตัวกันให้เรียบร้อยก่อน ที่นี่มีห้องน้ำหลายห้องนะ สะอาดด้วย แต่มีเด็กน้อยนั่งเก็บตังค์อยู่นะ

ส่วนรถคันนี้น่ะ เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน รู้สึกว่าจะเป็นของเจ้าของร้านนะ แต่พี่ปลาขอยืมมาประกอบฉากวางมาดเป็นเจ้าของรถหน่อยนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-26 23:37:25 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 81 (1387970)
avatar
คนแรมทาง
image

ได้เวลาเติมพลังกันแล้ว ที่นี่ทำอาหารค่อนข้างเร็วนะ รสชาติโดยรวมโอเค แต่บางอย่างติดเค็มไปหน่อยน่ะ

อาหารที่นี่จานใหญ่ใช้ได้เลยค่ะ จานนี้ผัดไทกุ้งค่ะ ทุกอย่างดูดี ติดที่เค็มนี่แหละ สรุปรวมแล้วมื้อนี้จ่ายไป 380,000 กีบ (ก็ประมาณ 1,520 บาทค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-26 23:27:38 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 80 (1387968)
avatar
คนแรมทาง
image

ในความโชคร้าย มักจะมีโชคดีตามมาเสมอ ข้อดีของการใช้รถตู้ ซึ่งเท่ากับเป็นรถที่พวกเราเหมาคัน จะจอดจะแวะที่ไหนก็บอกได้เลย เราก็เลยเลือกที่จะแวะกินอาหารกลางวันกันที่ร้านภูเพียงฟ้า ซึ่งเจ้าของรีสอร์ทถาวรสุขแนะนำว่าวิวสวยมาก และก็สวยจริงๆ ดังที่เค้าว่า ไม่ผิดหวังเลยที่แวะที่นี่

เลือกสั่งอาหารตามที่อยากจะชิมกันตามอัธยาศัย ระหว่างรออาหาร พวกเราก็เดินชมวิวและเก็บภาพบรรยากาศกัน

ร้านอาหารภูเพียงฟ้านี้ทำเลดีมาก ตั้งอยู่บนยอดภูสูง มองเห็นวิวโดยรอบได้อย่างสวยงาม อากาศเย็นๆ ลมพัดเอื่ยยๆ ได้ใจมากๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-26 23:14:02 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 79 (1387962)
avatar
คนแรมทาง
image

เราเช่าจักรยานชั่งโมงละ 20 บาท หรือ 5,000 กีบ พอปั่นครบชั่วโมงก็เหนื่อยพอดี เอารถไปคืน แล้วก็กลับเข้าบ้านพักกัน สายมาส่งข่าวว่ารถจะมารับเร็วหน่อย เพราะรถบัสที่จองไว้จะมาถึงเร็วกว่าเวลา ทุกคนไม่มีปัญหา เพราะไม่ได้ทำอะไรกันอยู่แล้ว แต่รอเวลาไปขึ้นรถเท่านั้น

ไปถึงท่ารถ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าสถานีขนส่งโดยสารภายในและต่างประเทศ ก็เห็นว่ามีรถบัสใหญ่จอดอยู่คันหนึ่ง แต่เอเย่นต์ที่มาส่งเราบอกว่าคันนี้ไม่ใช่ที่เราจองไว้ ต้องรออีกคันหนึ่งที่กำลังจะมา เค้าช่วยขนของลงจากรถ แล้วก็จากไป พวกเราก็นั่งๆ ยืนๆ เดินๆ รอรถกันไปตามยถากรรม

เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่มีวี่แววของรถบัส พอถามเจ้าหน้าที่ที่ท่ารถ เค้าก็โทรไปเช็คกับที่ไหนสักแห่ง แล้วก็ตอบเราว่ารถบัสอีกคันเสียอยู่ระหว่างทาง คงมาไม่ได้ ให้รอก่อนเดี๋ยวเค้าจะลองเช็ครถอีกสายหนึ่งให้ ซึ่งเป็นรถที่ผ่านหลวงพระบางไปอีกเมืองหนึ่ง พอรถคันนั้นผ่านมาก็ปรากฎว่าที่นั่งเกือบเต็มแล้ว

เราพยายามติดต่อกับเอเย่นต์ที่มาส่ง แต่ด้วยเหตุฝนตกหนักเมื่อคืนทำให้สัญญาณโทรศัพท์มือถือทั้งหมดเสียหาย ไม่สามารถติดต่อได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ว่าจะให้ทำยังไง เค้าก็แนะนำให้นั่งรถมินิบัส หรือรถตู้ (อีกแล้ว) เหตุผลเหมือนเดิม คือพวกเรามี 11 คน เต็มคันรถพอดี ออกได้เลย แต่ราคารถบัสที่เรายอมจ่ายแพงกว่ารถตู้ตั้ง 30,000 กีบเพราะหวังจะนั่งให้สบายล่ะ เค้าจะคืนแค่คนละ 10,000 เดียว เพราะเค้าบอกว่าที่ท่ารถได้แค่นั้น ส่วนต่างต้องไปทวงกับเอเย่นต์ ซึ่งค่ารถเข้าไปในเมืองก็ต้องจ่ายคนละ 10,000 กีบต่อเที่ยว ถึงจะส่งตัวแทนไปก็เถอะ ก็ต้องเสียเวลาอีก หลังจากเสียอารมณ์กับรถบัสลาวเป็นครั้งที่ 2 พวกเราก็ตัดสินใจไปรถตู้เพราะไม่ต้องการเสียเวลา ถ้ารู้ว่าต้องนั่งรถตู้อีกตามเคย ก็ออกเดินทางกันเสียแต่เช้าแล้ว จะให้รอทำไมตั้งครึ่งวันเนี่ย เสียเวลาเที่ยวหลวงพระบางอ่ะ และจนแล้วจนรอดคณะเราก็ไม่ได้ทดลองนั่งรถบัสลาว มันยากเย็นอะไรตรงไหนเนี่ย แค่อยากจะนั่งรถบัสน่ะ

คันนี้แหละ ราชรถที่จะพาพวกเราสู่หลวงพระบาง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-26 22:29:26 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 78 (1387958)
avatar
คนแรมทาง
image

ภารกิจเสร็จสิ้นก็ได้เวลาเที่ยวเล่นตามอัธยาศัย พี่ปลากับเจ้าตาลเค้าตั้งอกตั้งใจไปหาซื้อหมวกลาวใส่ขี่จักรยาน เพราะเห็นอาม่าปี๊ดซื้อมาเมื่อวาน แถมยังซื้อคนละร้านเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้เค้าด้วยนะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-26 22:05:20 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 77 (1387956)
avatar
คนแรมทาง
image

มาเข้างานต่อแล้วจ้า....หายไปกว่าอาทิตย์ ไม่รู้ว่ายังจะมีใครติดต่อชมอยู่หรือเปล่านะ แต่ยังไงก็ต้องมาต่อให้จบค่ะ เพราะยังมีจ่อรอคิวอยู่อีกหลายกระทู้เลย (มีใครรับจ้างลงกระทู้บ้างมั้ยเนี่ย...555)

ปิดฉากระทึกใจที่วังเวียงไปแล้ว มาเดินทางต่อสู่หลวงพระบางกันเลยดีกว่าค่ะ

วันที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2553  : วังเวียง (Vongvieng) - หลวงพระบาง (Luang Prabang)

เมื่อตอนเช้ามืดฝนตกหนัก และฟ้าแรงมาก จนถึงเช้าก็ยังตกพรำๆ อยู่ ระดับน้ำในแม่น้ำซองสูงขึ้นกว่าเมื่อวานอีก พยายามไปส่องดูสะพานที่เรือชนเมื่อวาน แต่มองไม่เห็น กระแสข่าวบอกว่ามันพังไปแล้ว เพราะเมื่อวานเค้าต้องเลื่อยเสาสะพานเพื่อเอาเรือออก แต่บางคนก็บอกว่าเวลาที่น้ำมากขึ้น สะพานนั้นก็จะพังอยู่แล้วเป็นปกติ เพราะเป็นสะพานชั่วคราว ไม่ได้แข็งแรงอะไรนัก ถึงจะไม่ได้เห็นกับตาว่าสะพานยังอยู่มั้ย พังหรือเปล่า หรือว่าแค่จมอยู่ใต้น้ำ แต่ถ้าดูจากกระแสน้ำที่ไหลแรงขนาดนี้ สะพานก็คงจะต้านไม่ไหวแน่ๆ 

พวกเราออกมากินอาหารเช้ากันตามระเบียบ และจะมีเวลาว่างไปจนถึงประมาณ 11 โมง เพราะรถจะออกเที่ยง เติมพลังเรียบร้อยก็เลยต่างคนต่างแยกย้ายไปทำกิจกรรมตามอัธยาศัย ใครจะพักผ่อนนอนเล่นรอเวลา หรือจะเดินเล่นในเมืองชมเมืองก็แล้วแต่ชอบ ส่วนพวกเราสามสาว เลือกจะออกไปเช่าจักรยานปั่นรอบๆ บริเวณนี้กัน แล้วก็ไปหาที่แลกเงินด้วย เพราะเงินกีบในมือเหลือน้อยแล้ว

เพราะฝนยังตกๆ หยุดๆ อยู่ ชุดปั่นจักรยานของพวกเราก็เลยหน้าตาเป็นอย่างนี้แหละ

ที่นี่คือธนาคารส่งเสริมกสิกรรมค่ะ น่าจะประมาณเดียวกับธนาคาร ธกส. บ้านเรา ขอบอกเลยว่าไม่ควรแลกเงินที่นี่ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนไม่ดีเหมือนธนาคารอื่นๆ แต่ด้วยความไม่แน่ใจว่าจะหาธนาคารอื่นเจอมั้ย ก็เลยแลกกันเหนียวไว้หน่อย พอปั่นจักรยานมาอีกสักพักก็เจออีกธนาคารหนึ่งที่เรทดีกว่า คิดแล้วเคืองตัวเองจริงๆ แต่คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ต่างกันไม่กี่บาทหรอกนะ ว่าแล้วก็แลกไว้อีกหน่อยนะ เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรอีกบ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-26 21:53:23 IP : 125.24.86.10


ความคิดเห็นที่ 76 (1386826)
avatar
คนแรมทาง

ขออภัยนะคะป้ามีนที่ทำให้ค้าง ช่วงนี้อยู่คนเดียวค่ะ เลยวุ่นวายมากเป็นพิเศษ เวลาแต่ละวันมันดูจะไม่ค่อยพอใช้ค่ะ กว่าจะว่างได้เริ่มลงกระทู้ก็ดึกแทบทุกที แต่คืนนี้ขอพลัดไปก่อนนะคะ สัญญาว่ามีต่อแน่นอนค่ะ....ยังไม่ถึงหลวงพระบางหัวใจของทริปนี้เลยอ่ะ แต่ขอหนูเตรียมความพร้อมทริปที่ป้ามีนจะเดินทางวันเสาร์นี้ให้เรียบร้อยก่อนนะจ๊ะ ทีมงานไม่ได้บินไปพร้อมกันอ่ะ เลยต้องจัดการทุกอย่างให้รอบครอบเป็นพิเศษค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-18 23:17:15 IP : 125.24.42.220


ความคิดเห็นที่ 75 (1386564)
avatar
ป้ามีน
"อ้าว...กำลังเพลิน จะมีต่ออีกไหมนี่ ค้างอีก เหมือนเดิม ง่า (ทำหั้ยยาก ละจากไป )
ผู้แสดงความคิดเห็น ป้ามีน (jasmineold-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-17 10:31:30 IP : 125.27.97.192


ความคิดเห็นที่ 74 (1386540)
avatar
คนแรมทาง
image

เข้าห้องพัก อาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อย พวกเราก็ออกไปหาอาหารเย็นเติมพลังกัน เลือกกันอยู่หลายร้าน สุดท้ายมื้อนี้ก็จบลงที่ร้านอาหารเวียงจำปาค่ะ ใครอยากกินอะไรก็เลือกสั่งกันเอาตามอัธยาศัยค่ะ อาหารส่วนใหญ่รสชาดโอเค แต่มาตกม้าตายตอนจบกับข้าวเหนียวมะม่วงอ่ะ คือหน้าตาไม่ใช่เลย มันเหมือนข้าวเหนียวเปียกใส่มะม่วงมากกว่า (ประมาณเดียวกับข้าวเหนียวเปียกลำใยน่ะ) ก็เป็นประสบการณ์ใหม่อีกอย่างที่ต้องจำไว้เลยว่า...ข้าวเหนียวมะม่วงของลาว ไม่เหมือนของไทย แต่ใช้ชื่อเรียกพ้องเสียงกันค่ะ (ซึ่งก็ไม่ได้มีแต่ข้าวเหนียวมะม่วงหรอกนะที่พ้องเสียงแต่ออกมาหน้าตาไม่เหมือนน่ะ)

หลังมื้ออาหารแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนพี่ปลา นุ้ย และเจ้าตาลมีภารกิจต้องไปหาที่จองตั๋วรถจากวังเวียงไปหลวงพระบางในวันพรุ่งนี้ค่ะ สรุปว่าเราเลือกรถ SUPER VIP บัส เพื่อให้มั่นใจว่ารถน่าจะดีและนั่งสบาย เนื่องจากต้องใช้เวลาอยู่บนรถหลายชั่วโมง ราคาตั๋วคนละ 120,000 กีบ เช็คที่ว่างเรียบร้อย จ่ายเงินจองตั๋วกันเลย พรุ่งนี้รถออกเที่ยง แต่รถจะมารับพวกเราพร้อมสัมภาระที่โรงแรมตอน 11 โมง เอาล่ะ...ภารกิจเสร็จสิ้น กลับเข้าบ้านนอนได้ หมดแรงและเมื่อยมากแล้ว นอนหลับพักผ่อนกันเสียทีพวกเรา ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะทุกคน

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-17 01:27:38 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 73 (1386539)
avatar
คนแรมทาง
image

รอดชีวิตจากน้ำซองมาได้ เจ้าตาลยังสบายดีค่ะ แต่เสียรองเท้าแตะไปหนึ่งคู่ที่ติดอยู่กับเรือ เลยต้องไปซื้อรองเท้าแตะใหม่คู่ละ 10,000 (กีบ) มาใส่แทน ใจจริงคุณน้องเสียดายรองเท้ามาก แต่พี่ๆ ก็ไม่มีใครกล้าไปถามหารองเท้าให้หรอกนะ ทำเรือลำละ 3 - 4 หมื่นเค้าหักไปตั้งลำ ขืนทวงรองเท้าเค้าจะได้ทวงค่าเสียหายเรื่องเรือเอาดิ

ปล.1 โรงแรมน้ำซองที่เป็นฉากหลังอยู่นี้ เป็นโรงแรมที่อยู่ริมแม่น้ำซองที่แพงที่สุดเท่าที่พี่ปลากับเจ้าตาลเค้าเช็คมา ไม่ได้พัก ขอถ่ายรูปหน่อยก็ยังดีนะ

ปล.2 เสื้อที่ใส่ล่องแก่งกันวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อที่ซื้อจากเวียงจันทน์กันเมื่อวานค่ะ ไม่ค่อยเห่อกันเลยพวกเรา

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-17 01:14:13 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 72 (1386538)
avatar
คนแรมทาง
image

ความจริงแล้วพอผ่านสะพานไปอีกนิดเดียวเราก็จะถึงที่พักของเราแล้ว เพราะถาวรสุขรีสอร์ทเป็นจุดสิ้นสุดการล่องเรือพอดี เราจอดเรือรอดูสถานการณ์อยู่นาน กว่าจะรู้ว่าหลังคาเขียวๆ แดงๆ ที่เห็นนั้นคือที่พักเรา สุดท้ายไกด์ก็แบ่งกำลังมาพาคณะกลับขึ้นฝั่ง ก่อนจะแยกย้ายกัน เราสอบถามเรื่องเรือว่าจะต้องยังไงต่อ ต้องเสียค่าอะไรมั้ย เค้าบอกว่าไม่ต้อง เพราะมันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด

แต่พวกเราสันนิษฐานกันว่า เค้าคงไม่เคยเจอกรณีนี้มาก่อนเลย จึงยังไม่มีมาตรการรับมือ แต่สำหรับพายที่ตั้งราคาค่าเสียหายไว้ 2,000 บาท น่าจะเป็นกรณีที่พบบ่อย ใครไปล่องเรือที่วังเวียงต่อจากนี้ไป ลองสังเกตุดูนะคะ ว่าเค้าตั้งราคาค่าปรับในกรณีที่เรือเสียหายหรือยัง ถ้ามีก็รู้ไว้เลยค่ะ ว่าต้นสายปลายเหตุมันเกิดขึ้นเพราะคณะเรานี่แหละ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-17 01:03:29 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 71 (1386536)
avatar
คนแรมทาง
image

แล้วเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของวันก็มาเกิดที่สะพานแห่งนี้ ด้วยระดับน้ำที่ค่อนข้างสูง ทำให้ช่องว่างระหว่างระดับน้ำกับสะพานที่กว้างพอจะให้เรือลอดผ่านได้ มีแค่ช่วงกลางๆ สะพานเท่านั้น เพราะฉะนั้นเรือทุกลำที่พายกระจัดกระจายกันอยู่ จะต้องปีบให้เหลือเพียง 1 - 2 เลนคือช่วงตรงกลาง

จริงๆ ก็ดูไม่น่าจะยากอะไร เพราะมีระยะให้เตรียมตัวพอสมควร แต่สำหรับคนที่มีประสบการณ์เรือชนสะพานมาแล้วในวันนี้ มันดูจะเป็นเรือใหญ่ทีเดียว ทั้งลำเรือที่เป็นสาวจีน และเรือเจ้าตาล ทั้งสองลำพอเห็นสะพานแล้วเกิดอาการลังเลอย่างเห็นได้ชัด ไกด์เองก็ตะโกนบอกทุกลำให้อยู่ตรงกลางไว้ แต่สุดท้ายเรือเจ้าตาลก็ชนสะพานจนได้

ด้วยความที่เรือนุ้ยกับพี่ปลา พายไล่หลังเรือเจ้าตาลมาติดๆ ภาพที่เห็นก็คือพอทั้งคู่บังคับเรือให้เข้ามาอยู่เลนกลางไม่ได้ ข้างเรือเริ่มปะทะกับเสาสะพาน เจ้าตาลก็จับพายประจำกายแล้วสละเรือหย่อนตัวลงน้ำ แล้วก็มาคว้าเรือนุ้ยกับพี่ปลาในทันที พอส่งพายขึ้นเรือเสร็จ พี่ปลาก็ช่วยดึงเจ้าตาลขึ้นเรือตามมาอย่างปลอดภัย ทั้งพายทั้งคน (ที่ต้องห่วงพายมากเป็นพิเศษ เพราะก่อนลงเรือไกด์อธิบายทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และบอกว่าหากใครทำพายหายไป จะต้องเสียค่าพาย 2,000 บาท)

ส่วนคุณฝรั่งคู่ของเจ้าตาลก็เกาะสะพานไม่ยอมปล่อยอีกเช่นเคย แต่ที่ไม่เหมือนเคยก็คือการชนสะพานคราวนี้ทำให้เรือคายัคนั้นพับเข้าหากันเหมือนหักกลางลำ เพราะเรือตะแคงชนกับเสาสะพาน และขวางกระแสน้ำซึ่งไหลเชี่ยว แรงของน้ำที่ปะทะกับเรือทำให้เรือหักกลางติดอยู่กับเสาสะพาน

ไกด์จากเรือทุกลำพาเรือเข้าฝั่งแล้ววิ่งตรงไปที่จุดเกิดเหตุเพื่อช่วยกันเอาฝรั่งขึ้นจากน้ำ และกู้เรือ จะมีก็แต่เรือป้าดวงกับป้าเล็ก ที่ไกด์ไม่ได้พาเข้าฝั่ง แต่ดันไปจอดอยู่ตีนสะพาน แล้วป้าดวงก็เกาะสะพานไว้ไม่ให้เรือลอย พร้อมกับความเข้าใจผิดที่คิดว่าเจ้าตาลยังติดอยู่กับเรือ สอบถามจากไกด์ว่าช่วยได้มั้ย ไกด์ก็ทำหน้าเสียบอกว่าไม่ได้ จมอยู่ใต้น้ำ (ซึ่งไกด์หมายถึงเรือ) ทั้งสองป้าก็ยิ่งคิดไปกันใหญ่ นั่งร้องไห้กันอยู่ในเรือเป็นนานสองนาน จนชาวบ้านสงสารไปเรียกให้ไกด์มาเอาเรือเข้าฝั่ง ป้าถึงได้รู้จากคนอื่นๆ ว่าเจ้าตาลอยู่กับพวกนุ้ยแล้ว ปลอดภัยดี แต่จอดเรืออยู่ไกลออกไป พอเห็นท่าว่าจะนาน พวกนุ้ยถึงได้ชวนกันเดินไปตรงตีนสะพาน เลยได้รู้ข่าวว่าทั้งสองป้าเสียน้ำตาให้เจ้าตาลไปเสียแล้ว

 

 

ที่นี่แหละจุดเกิดเหตุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-17 00:43:42 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 70 (1386535)
avatar
คนแรมทาง
image

ทีแรกก็แปลกใจว่าทำไมพวกฝรั่งที่มาล่องเรือพร้อมกับพวกเราไม่มีใครเล่นกิจกรรมอะไรเลย ที่แท้เค้ามาเล่นแล้วตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้เค้าก็เลยได้แต่นั่งดูกัน พอเราสนุกสนานกันจนหนำใจ ก็ได้เวลาไปต่อกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-17 00:02:42 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 69 (1386534)
avatar
คนแรมทาง
image

ฝนตกๆ หยุดๆ หนักบ้าง(หนักขนาดที่ว่าเม็ดฝนตกลงมาโดนตัวแล้วเจ็บอ่ะ) เบาบ้างมาตลอดทาง น้ำในแม่น้ำซองก็ไหลแรงบ้าง ไหลเอื่อยๆ บ้าง แล้วไกด์ก็พามาแวะที่บาร์น้ำ เป็นบริเวณคุ้งน้ำ ที่มีร้านรวงตั้งอยู่ 2 ฝั่งแม่น้ำซอง แต่ละร้านเปิดเพลงเสียงดังสนั่นลั่นคุ้ง ได้ยินเสียงเพลงดังลอยมาตั้งแต่ยังไม่เห็นบาร์น้ำเลย

ที่นี่แหละ แหล่งรวมใจของฝรั่งทั้งหลายที่มาเที่ยวอยู่ในวังเวียง เพราะนอกจากอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายแล้ว ยังมีกิจกรรมผาดโผนให้เล่นอีกด้วย แล้วหน่วยกล้าตายของเราจะพลาดได้ไง

กติกาก่อนจะมีสิทธิ์เล่นคือต้องไปซื้อเครื่องดื่มอะไรก็ได้ที่ร้านป้าเจ้าของสถานที่ แล้วป้าจะเอายาทาเล็บทาที่นิ้วก้อยให้ เป็นสัญลักษณ์ว่าซื้อน้ำแล้ว เล่นได้ จะเล่นทั้งวัน เล่นกี่รอบก็ได้ แต่ป้าจะเปลี่ยนสียาทาเล็บทุกวัน แล้วแต่อารมณ์ว่าวันนี้อยากทาสีไหน จ๊าบจริงๆ เลยป้า

 

เมื่อปฎิบัติตามกติกาเรียบร้อย ก็ได้น้ำมาคนละขวด พร้อมลุย งานนี้มีคุณลุงสุนทรนำทัพเช่นเดิม โดยมีลูกทัพเป็นพี่ต่วน เจ้าตาล และพี่ปลา (งานนี้ขอเล่นกะเค้าหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ทั้งที่กลัวความสูงนะ แต่สู้ค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-16 23:40:35 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 68 (1386532)
avatar
คนแรมทาง
image

จากถ้ำช้างเดินออกมาถึงแม่น้ำซอง เตรียมตัวล่องเรือกันต่อ เห็นเมฆแล้วท่าทางจะไม่รอดแน่ๆ เจอฝนชัวร์

แต่ยังไงพวกเราก็ไม่หวั่นค่ะ ก็เตรียมใจมาเปียกอยู่แล้วนิ

เข้าประจำที่แล้วก็ไปลุยต่อกันเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-16 23:15:38 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 67 (1386529)
avatar
คนแรมทาง
image

อิ่มอร่อยกันเป็นที่เรียบร้อย ไกด์ก็พาคณะเดินลัดทุ่งกลับเข้าหมู่บ้าน และพาแวะเที่ยวชมถ้ำช้างก่อนไปล่องเรือต่อกันค่ะ

หินที่มีรูปลักษณะคล้ายช้าง ที่เห็นอยู่มุมบนขวามือของภาพนี่แหละ ที่มาของชื่อถ้ำช้าง แต่ก็เหมือนจริงๆ นะ

แต่เดิมถ้ำแห่งนี้คือวัดของชุมชนค่ะ แต่พอมีการสร้างวัดขึ้นแล้ว ถ้ำช้างแห่งนี้เลยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไป

ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปและรอยพระพุทธบาทจำลองให้ได้สักการะบูชากันค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-16 23:00:28 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 66 (1386528)
avatar
คนแรมทาง
image

มาฉายหนังสั้นต่อแล้วจ้ะ ขอบคุณนะคะป้ามีนที่มาช่วยเรียกลูกค้าให้ แต่สงสัยจะไม่ทันแล้วค่ะ คงมีกันแค่ 6 คนนี้แหละ ป้ามีนกับอาม่าคุยกันสนิทสนมยังกับรู้จักกันมาเสียนานเชียว ดีจัง ได้เพื่อนใหม่ตั้งแต่ยังไม่ได้เที่ยวเลย ทริปนี้ต้องสนุกแน่ๆ ค่ะ

เอาล่ะ...มาเที่ยวลาวต่อกันเลยดีกว่า หลังจากสมาชิกออกมาจากถ้ำน้ำ ก็ได้เวลาเติมพลังด้วยอาหารกลางวันกัน มีข้าวผัด ขนมปังฝรั่งเศส บาร์บีคิวไก่คนละ 2 ไม้ และกล้วยค่ะ ขอบอกว่าอร่อยใช้ได้เลยแหละ กินกันเกลี้ยงเกือบทุกอย่าง จะเหลือบ้างก็คือขนมปังเพราะมันชิ้นใหญ่เอาการ แค่กินข้าวหมดกล่องก็จะแย่แล้ว แต่ก็ต้องพยายามกินไว้เยอะๆ เพราะต้องออกไปล่องเรืออีกหลายชั่วโมง

จริงๆ นั่งรอกันอยู่พักใหญ่กว่าจะได้กิน เพราะทีมงานเค้าช่วยกันปิ้งบาร์บีคิวให้พวกเราอยู่นานค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแรมทาง (supansa_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-16 22:34:45 IP : 113.53.26.214


ความคิดเห็นที่ 65 (1386376)
avatar
อาม่าปี๊ด
                 ป้ามินคะ...อาม่าไปใต้มา....เพิ่งกลับมาถึงตอนตี 4 กว่าๆวันนี้เอง   ยังไม่ได้นอนเลย......ว่าจะหอบสะตอมาฝากก็กลัวว่า ป้ามินจะเอาไปอินเดียด้วย    เลยไม่กล้าหอบมา...กลัวทางรัฐบาลอินเดียกักตัวไว้    เพราะคิดว่าเป็นคนของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย  พกอาวุธชีวภาพเป็นฝักเขียวๆ...(..ที่มีกลิ่นรุนแรง.....ตั้งแต่เริ่มบริโภค.....จนถึงขั้นตอนย่อยสลาย.......กลิ่นจะรุนแรงมาก.......เป็นอันตรายต่อเยื่อบุจมูกอย่างรุนแรง...อาจทำให้เซลประสาทในโพรงจมูกตายได้...)...เข้ามาในประเทศ.....เดี๋ยวจะอดเที่ยวกัน....5555

           ทริปอินเดียคราวนี้เกือบไม่ไปแล้ว....ด้วยเหตุผลหลายอย่าง   แต่ทนลูกอ้อนของป้ามินไม่ได้........ก็ดูซิ...เรายังไม่เคยเห็นหน้ากันเลย   ป้ามินก็ไว้วางใจชวนเที่ยว...บอกจะช่วยดูแลให้ในระหว่างเที่ยว....อาม่าก็ขยับไป...ไม่ไป....อยู่หลายรอบ    จนสาวนุ้ย+สาวปลาเวียนหัว........ผลสุดท้ายก็....ไปก็ไป........เสื้อกันฝนไม่ลืมแน่นอน.....เด๋วจะแบกเอาไปให้.....แล้วเจอกันค่ะ.........

ผู้แสดงความคิดเห็น อาม่าปี๊ด (peed94-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-15 14:23:22 IP : 210.86.208.70


ความคิดเห็นที่ 64 (1386372)
avatar
อาม่าปี๊ด

               เผลอแป๊บเดียว     หนูนุ้ยเข้ามาคุยต่อ......ดีจัง....เหมือนได้ไปอีกรอบ.....บรรยากาศสนุกสนานยังกรุ่นๆอยู่เลย.....

แม้จะไม่ได้ร่วมกิจกรรมล่องแก่ง      แต่ก็เช่าจักรยานตลอนๆเที่ยวคนเดียว....ก็สนุกไปอีกแบบ   แม้ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ...ตกๆหยุดๆ...

............ได้เห็นการดำเนินชีวิตของคนลาวที่นั่น    และทิวทัศน์ของวังเวียง.......แค่นี้ก็...o.k ....แล้วค่ะ...

             ต้องย้ำกันอีกครั้งว่า....แม้จะเป็นทริปแรกกับวันแรมทาง   แต่ก็อบอุ่นอับการดูแลเอาใจใส่ของสาวนุ้ย  สาวปลา   สาวตาล...(สาวตาลนี่ดูแลคนแก่อย่างอาม่าดีมากเลย   ตอนยกของบอกว่า..ไม่..ไม่..ไม่ค้อง...แต่สาวตาลก็แย่งกระเป๋าไปถือให้ตลอด...(สงสัยอาม่าบอกว่า....ไม่..ไม่..ไม่ค้อง...แต่แอบพยักหน้า   คุณนายตาลเห็น   เลยเข้ามาช่วย....5555)....และมีเพื่อนร่วมทริปที่น่ารักทุกคน.....ประทับใจมากค่ะ......

             

ผู้แสดงความคิดเห็น อาม่าปี๊ด (peed94-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-08-15 13:50:28 IP : 210.86.208.70


ความคิดเห็นที่ 63 (1386270)
avatar
ป้ามีน

อาม่าปิ้ด ไปใต้ รีบกลับมาเร็วฯนะ คิดถึง วันที่ 21 สิงหาคม เจอกัน ไม่ต้องเอาสตอ มาฝากนะคะ

แค่ไม่ลืมเสื้อกันฝน 2 ตัว สีฟ้า-ชมพู กะขอบคุณหลาย ดุแลตัวเองด้วย เป็นห่วง ป้ามีน รออยู่ ฮา,

ผู้แสดงความคิดเห็น ป้ามีน (jasmineold-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-14 11:10:01 IP : 180.180.91.141


ความคิดเห็นที่ 62 (1386269)
avatar
ป้ามีน

ทริป ที่ป้ามีน+อาม่าปิ้ด กำลังจะออกเดินทาง เร็วฯ นี้ 21 สิงหาคม - 6 กันยายน ยังว่างอยู่นะจ้า ไคร

สนใจ ไปเที่ยวด้วยกัน กับคนแก่ อารมฌ์ขัน ละใจดี รีบฯ จอง ไปเที่ยวด้วยกัน นะจ๊ะ น้องนุ้ย เปิดไฟเขียว

รออยู่จ้ะ รีบฯ หน่อย เวลาจำกัด อยากมีเพื่อนร่วมทริป อีกชัก 2-3 คนจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น ป้ามีน (jasmineold-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-14 10:58:26 IP : 180.180.91.141





Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด