โรงแรม Dwarika"s แห่งนี้ เป็นโรงแรม 5 ดาวที่คนใหญ่คนโตมาพักกันค่ะ และใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องธาราหิมาลัย ในฉากพระราชวังด้วย ส่วนฉากเมืองถ่ายที่บักตะปูร์ค่ะ

มาพาเที่ยวต่อแล้วค่ะ หลังจากจัดการอาหารญี่ปุ่นเรียบร้อย พวกเราก็ออกไปเก็บภาพบรรยากาศงามๆ ของโรงแรมแห่งนี้กัน

พักกินอาหารญี่ปุ่นกันไปก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยมาพาเที่ยวต่อจ้ะ ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะทุกคน

กินก่อน เดี๋ยวค่อยชมบรรยากาศต่อ

จัดไปคนละชุดค่ะ อร่อยใช้ได้ บรรยากาศก็โอเคด้วย ผ่านๆๆๆๆ  

กลับเข้ามาถึงในเมืองก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี มื้อนี้เราจะไปกินอาหารญี่ปุ่นที่โรงแรมหรู 5 ดาว Dwarika"s

ถึงไม่ได้พักแค่ได้ไปกินข้าว เก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ในโรงแรม ก็คุ้มแล้วจ้ะ

ต้องบอกลาบักตะปูร์กันแล้ว คุณไกด์ไปยืนท้าวเอวรออยู่หน้าประตูแล้วจ้ะ

ที่นี่เนปาล...

สมาชิกที่มาถึงก่อนมานั่งรอกันอยู่ตรงนี้ แล้วจำนวนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆๆ จนครบองค์ (เกินด้วย มีพี่อ้อนกับพี่หนึ่งด้วย แต่ขาดนุ้ย เพราะเป็นช่างภาพอ่ะ)

เดินเที่ยวกันต่อ

ย่านนี้มีโรงเรียนสอนวาดภาพทังก้า

มาชมย่านปั้นหม้อกันบ้าง

ชมบรรยากาศทั่วไปกันต่อ

พอครบคนก็มาหมู่กันหน่อย

แล้วก็ขอเดี่ยวกันต่อ 

มาเผยโฉมหน้าคนถืออมยิ้ม...ใครหว่า...ไม่บอกหรอก

ไปชมวิวจากมุมสูงกันบ้าง

สองสาวนี้ไปแวะซื้อกาแฟกันมา เห็นร้านกาแฟพี่แอ๋วก็พุ่งเข้าใส่เลย หายไปเสียตั้งนาน แล้วก็กลับมาพร้อมกาแฟคนละแก้ว (จริงๆ กาแฟที่พี่ปลาซื้อก็ของนุ้ยแหละ พี่ปลากินกาแฟได้ไม่เกินสองอึก ที่เหลือนุ้ยกินหมด เพราะถ้าพี่ท่านกินเยอะกว่านั้น จะตื่นเต้นๆๆ ไปทั้งวัน)

Nyatapola Temple สร้างทรงเนวารี วิหารหลังคา 5 ชั้นซ้อน และตามบันไดทางขึ้นทั้งสองข้างจะมีประติมากรรม สัตว์ มนุษย์ เทวดา ไล่ระดับความสูงกันไป

แดดเริ่มออกแล้ว

เดินเข้าไปชมบรรยากาศด้านในกันต่อค่ะ

บ่อสรงน้ำของพระราชา มีประตูเปิดจากพระราชวังเข้ามาที่บ่อน้ำ แล้วก็มีประตูจากบ่อน้ำเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเครื่องทรง และก็เข้าวัดค่ะ

สถานที่เน้นๆ ของเมืองบักตะปูร์ จะมีพระราชวัง 55 พระแกล (The Palace of 55 windows)

ประตูทองคำ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมไปถึงวิหารต่างๆ ที่สร้างในศิลปะทั้งแบบทรง "ศิขร" ซึ่งเป็นอิทธิพลทางอินเดียตอนเหนือ และศิลปะแบบทรง "เนวารี" ซึ่งเป็นทรงหลังคาชั้นซ้อน 

ผ่านประตูทองคำเข้ามาด้านใน ไปชมวัดและบ่อสรงน้ำของพระราชาก่อนเข้าวัดกัน

ด้านในวัดกำลังบูรณะค่ะ เลยไม่ได้เข้าไป

วันพุธที่ 1 สิงหาคม 2555 กาฐมัณฑุ

อรุณสวัสดิ์วันใหม่ในกาฐมัณฑุ พอกินอาหารเช้าที่โรงแรมกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเที่ยว ไกด์นัดพบพวกเรา 9 โมงตรง เพื่อไปชมเมืองบักตะปูร์ (Bhaktapur)

เมืองบักตะปูร์ เป็นอีกหนึ่งเมืองโบราณของกาฐมัณฑุ ทั้งเมืองดูเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยังมีชีวิต

กินกันไป ชมโชว์กันไป รสชาติอาหารก็พอได้ อาจจะไม่คุ้นลิ้นนัก แต่ก็ถือว่าได้ลองอาหารท้องถิ่นสักมื้อค่ะ

นักแสดงของที่นี่ ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูมีความสุขกับการทำงาน มีความสุขที่ได้แสดงให้นักท่องเที่ยวชม ถึงจะดูไม่ยิ่งใหญ่อะไร แต่เค้าก็ได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่ดีของผู้คนที่นี่นะคะ

หลังอาหารเย็น พวกเราก็แยกย้ายกันเดินเล่นแถวๆ โรงแรมบ้าง กลับมาพักผ่อนบ้าง ช่วงค่ำอากาศเย็นสบายๆ และมีฝนตกเล็กน้อยหลังจากพวกเรากลับเข้าที่พักเรียบร้อย คืนแรกในเนปาลผ่านไปด้วยดี

อาหารชุดหลักกำลังจะตามมาค่ะ อุปกรณ์มารอพร้อมแล้ว เป็นชุดทองเหลืองอย่างหนักเลย หรูหราอลังการค่ะ

แล้วอาหารก็มาเสิร์ฟ จัดไปคนละหนึ่งชุด

โชว์เริ่มแล้ว

ออร์เดอร์เริ่มมา

หมดโปรแกรมเที่ยวของวันแรกกันแล้ว ได้เวลาพักผ่อน ทริปนี้เราพักกันที่โรงแรม Samsara ค่ะ ห้องพักโอเคนะคะ มีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ด้วย เก็บของเข้าห้องกันเรียบร้อย นัดเจอกันอีกทีต้องมื้อเย็น มื้อแรกนี้พวกเราตกลงกันว่าจะไปกินอาหารเนปาลพร้อมดูการแสดงเป็นการต้อนรับสู่เนปาลค่ะ

ก่อนไปที่ร้าน พวกเราไปแวะแลกเงินเนปาลรูปีกันก่อน ใครจะใช้เงินบาทหรือเงินดอลล่าห์แลกก็ได้ แต่รู้สึกว่าใช้ดอลล่าห์จะได้เรทดีกว่านิดหน่อยค่ะ

ร้านนี้เลยค่ะ Satkar Restaurant-Authentic Nepalese Cuisine

ดอกไม้ และผลไม้ของเนปาล ก็เหมือนๆ กับเมืองไทยนี่แหละค่ะ

ไปชมภาพบรรยากาศเมืองปาทันจากมุมสูง (ขึ้นมาอีกหน่อย) กันบ้าง

กำลังว่าง

ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวกันอยู่ 2 คน ทริปนี้ป.ปลาถ่ายรูปใหญ่เลย เพราะได้จับกล้องในฝันที่พี่แอ๋วให้ยืมเล่น Nikon V1 กลับมาคราวนี้มีแววจะต้องเสียตังค์อีกนะ

ชมวัดไปเรียบร้อย ก็เก็บภาพบรรยากาศทั่วไปกันค่ะ มีผู้คน ร้านรวง และอื่นๆ อีกมากมาย

ลวดลายมันดาล่า (Mandala) แกะสลักอยู่บนเพดานซุ้มประตูค่ะ