อัพเดทโปรแกรม 20/9/2567 |
|
|
|
|
ทัวร์แสวงบุญ อินเดีย |
พุทธคยาเย็นใจ |
10-14 ตุลาคม 2567
|
5 วัน 4 คืน |
เปิดรับไม่เกิน 25 ท่าน |
|
|
|
|
ราคา 18,900 บาท
* ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน
(จ่ายเพิ่มค่าตั๋วอีกประมาณ 13,000-14,000 บาท) |
หมายเหตุ - ขอสงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตามความเหมาะสม หากมีการเปลี่ยนแปลงของ ค่าธรรมเนียมน้ำมัน ภาษีสนามบิน และอัตราแลกเปลี่ยน |
|
ทัวร์แสวงบุญ
เส้นทางธรรมยาตรา ตามรอยบาทพระศาสดา
สังเวชนียสถาน สถานที่ตรัสรู้ และ พุทธสถานสำคัญ
ณ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย
เป็นทริปแบบกันเอง ไม่เหนื่อย
พักวัดไทย สะดวกสบายพอประมาณ
ร่วมบุญทำบุญทอดผ้าป่า ตามกำลังศรัทธา |
|
โปรแกรมการเดินทาง |
|
|
จุดนัดพบ
สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 บริเวณที่นั่งหน้าประตู
คืนวันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567
เวลา 23.30 น. (ห้าทุ่มครึ่ง)
|
|
DAY 01 |
วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2567 |
|
|
กรุงเทพ-โกลกัตตา-พุทธคยา |
เริ่มโปรแกรมทัวร์-
00.00 น. เวลาเที่ยงคืน
พร้อมกันที่ “สนามบินสุวรรณภูมิ” เช็คอิน ออกบัตรโดยสาร และโหลดกระเป๋าเดินทาง
|
|
เที่ยวบิน |
6E1058 |
|
Bangkok-Kolkata |
|
สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม |
เครื่องออก |
เวลา 02.40 น. (ตามเวลาประเทศไทย) |
เครื่องถึง |
เวลา 03.50 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย) |
|
* เวลาบิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเดินทาง |
|
|
|
02.40 น. ออกเดินทางจาก กรุงเทพ มุ่งหน้าสู่ โกลกัตตา
03.50 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย) เดินทางถึง สนามบินโกลกัตตา ประเทศอินเดีย
ผ่าน ต.ม. รับกระเป๋า *ลากกระเป๋าด้วยตัวเอง เดินเท้าไปอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ
07.00 น. โหลดกระเป๋าเดินทาง ที่เคาน์เตอร์สายการบิน Indigo
กินอาหารเช้า ภายในสนามบิน * เป็นชุดข้าวเหนียวหมูทอด ที่ทางทัวร์จะจัดเตรียมไว้ให้
|
|
|
เที่ยวบิน |
6E5253 |
|
Kolkata-Gaya |
|
สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม |
เครื่องออก |
เวลา 10.10 น. (ตามเวลาประเทศไทย) |
เครื่องถึง |
เวลา 11.20 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย) |
|
* เวลาบิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเดินทาง |
|
|
|
10.10 น. ได้เวลาเครื่องออก มุ่งหน้าสู่เมืองพุทธคยา
11.20 น. เดินทางถึงสนามบินพุทธคยา รับกระเป๋าเดินทาง ขึ้นรถแล้วเดินทางเข้าสู่ที่พัก
13.00 น. เข้าสู่ที่พัก วัดไทยพุทธคยา กินอาหารกลางวัน
15.00 น. ทำบุญทอดผ้าป่า ที่พระอุโบสถ วัดไทยพุทธคยา
|
|
|
พระมหาเจดีย์พุทธคยา และ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ |
|
16.30 น. เดินทางไปกันที่ “พระมหาเจดีย์พุทธคยา และ ต้นพระศรีมหาโพธิ์” สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า หนึ่งในสังเวชนียสถาน แห่งสำคัญ เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ด้วยระลึกว่า พระตถาคต ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในที่นี้ กราบสักการะพระพุทธเมตตา บูชาสถานที่ตรัสรู้ บริเวณใต้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สวดมนต์ทำวัตรเย็น
19.00 น. เดินทางกลับที่พัก กินอาหารค่ำ แล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
DAY 02 |
วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567 |
|
|
พุทธคยา-นาลันทา-ราชคฤห์-พุทธคยา |
|
03.00 น. ตื่นนอน
04.00 น. เดินทางสู่ เมืองนาลันทา บ้านเกิดของอัครสาวกซ้าย-ขวา พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร *ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
07.00 น. กินอาหารเช้า ที่วัดไทยนาลันทา
08.30 น. ไปกราบสักการะ “หลวงพ่อองค์ดำ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อายุนับพันปี เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สร้างจากหินดำ ทางการไม่สามารถเคลื่อนย้ายเพื่อนำมาเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ได้เพราะขนาดที่ใหญ่มาก และทุกครั้งที่มีความพยายามโยกย้ายท่านออกไป ก็จะเกิดเหตุอาเพศเป็นประจำ ชาวบ้านท้องถิ่นมีความเชื่อว่าหลวงพ่อ สามารถดลบันดาลให้หายเจ็บหายป่วย คณะผู้แสวงบุญที่เลื่อมใสศรัทธา พากันไปกราบไหว้ขอความเป็นสิริมงคล
09.30 น. ไปกันที่ “มหาวิทยาลัยนาลันทา”
นาลันทา เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของพุทธศาสนา เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่เคยรุ่งเรืองที่สุดในโลก ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพัง สะท้อนความยิ่งใหญ่ในอดีต ในอดีตมหาวิทยาลัยแห่งนี้ประกอบด้วย ห้องเรียน ห้องสมุด หอพักนักศึกษา หอสวดมนต์ โรงครัว ยุ้งฉาง บ่อน้ำ มีพระสงฆ์มาศึกษาจำนวนมาก มีครูอาจารย์สอนถึง 1,400 ท่าน สักการะ “สารีบุตรสถูป” เป็นสถูปที่สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระสารีบุตร อัครสาวก บริเวณที่ประชุมเพลิง สร้างสมัยแรกโดยโยมมารดาท่านสารีบุตร คือ นางสารีพราหมณี ต่อมาพระเจ้าอโศกได้สร้างเสริมจากที่เดิม และกลายเป็น สถานที่สักการะของมหาชน ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยนาลันทา
11.00 น. กินอาหารกลางวัน ที่วัดไทยนาลันทา |
|
|
หลวงพ่อองค์ดำ และ สารีบุตรสถูป มหาวิทยาลัยนาลันทา |
|
12.30 น. ออกเดินทางไปยัง เมืองราชคฤห์ *ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
เมืองราชคฤห์ (Rajgir) เมืองที่เคยยิ่งใหญ่ เป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธ ในสมัยพุทธกาล พระพุทธศาสนาได้ประดิษฐาน ตั้งมั่นที่เมืองนี้มาโดยตลอด เพราะการอุปถัมภ์บำรุงของพระราชาผู้ทรงธรรมของเมือง เมืองราชคฤห์จึงเต็มไปด้วยโบราณสถานต่างๆ มากมาย
13.00 น. ไปกันที่ สวนเวฬุวัน สักการะบูชาสถานที่อันเคยเป็นที่ตั้งของ วัดเวฬุวันวิหาร วัดที่พระเจ้าพิมพิสารได้ทรงถวายสวนเวฬุวัน ให้เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงประทับจำพรรษา ณ ที่แห่งนี้รวมแล้ว 6 พรรษา เป็นที่ทรงตั้งอัครสาวกคือ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร และยังเป็นสถานที่ที่พระอรหันต์ 1,250 รูป มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย ในวัน จาตุรงคสันนิบาต มาฆบูชา และพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ แก่ภิกษุเหล่านั้น |
|
|
วัดเวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์ และ มูลคันธกุฎี ณ ยอดเขาคิชฌกูฏ |
|
|
ถ้ำสุกรขาตา และ ถ้ำพระโมคคัลลานะ บนเขาคิชฌกูฏ |
|
14.30 น. ไปเดินขึ้นเขาคิชฌกูฏกัน
เขาคิชฌกูฏ คือหนึ่งในเบญจคีรีหรือภูเขา 5 ลูก ได้แก่ เวภาระ เวปุละ คิชฌกูฏ อิศิคิลิ และปัณฑวะ ที่ชื่อเขาคิชฌกูฏนั้น เพราะมีลักษณะเหมือนนกแร้ง หรือ เป็นที่เกาะอาศัยของฝูงแร้งที่มาคอยกินซากศพโจรที่ถูกประหารและทิ้งลงเหว ในบริเวณโดยรอบเขาคิชฌกูฏนั้น นับว่าเป็นที่สัปปายะของเหล่าพระอริยสาวก เป็นที่จำพรรษาของพระอรหันต์หลายองค์ เช่น พระสารีบุตร พระอานนท์ พระมหากัสสปะ พระอนุรุทธะ พระปุณณมันตานีบุตร และพระอุบาลี เป็นต้น |
|
|
ระยะเดินขึ้นเขาคิชฌกูฎ ประมาณ 1 กิโลเมตร
ทางเดินขึ้นเขา ทางชัน แต่ปูลาดเดินง่าย (ตามภาพ)
มีขั้นบันไดเดินสะดวก เหนื่อยมากช่วงเริ่มเดิน เดินไปได้สักพัก ก็จะคลายเหนื่อย ค่อยๆรู้สึกดีขึ้น เดินกันไปช้าๆ เดินได้สบายๆ
แนะนำ สำหรับผู้ใหญ่ที่เดินไม่ค่อยไหว ขาไม่ดี หัวเข่าเจ็บ ฯลฯ
ที่นี่จะมีเสลี่ยงไว้ให้บริการ (ลักษณะเป็นดังรูป)
ถ้าต้องการใช้บริการ กรุณาแจ้งทีมงานล่วงหน้า
ราคา ขึ้น-ลง ต่อท่านประมาณ 2,200 รูปี รวมทิปให้คนแบก |
|
ระหว่างเดินขึ้นสู่ยอดเขาคิชฌกูฎ ผ่าน 2 ถ้ำหลัก คือ
1) ถ้ำพระโมคคัลลานะ
เป็นที่จำพรรษาของพระอัครสาวกผู้เลิศทางอิทธิฤทธิ์ คือ พระโมคคัลลานะ และที่แห่งนี้เองเป็นที่แก้ข้อสงสัยเรื่องเปรตมีจริงหรือไม่ มองขึ้นจากทางเดินจุดที่เป็นถ้ำของพระโมคคัลลานะนั้น จะเห็นก้อนหินตั้งเรียงกันสามก้อน มีช่องระหว่างเขาที่พอเดินได้ เมื่อก่อนยังไม่ก่อหินกั้นไว้ จะเป็นทางขึ้นลงเพียงทางเดียวเท่านั้น ณ จุดนี้เองเชื่อกันว่าเป็นที่พระเทวทัตพยายามกลิ้งก้อนหินลงมาเพื่อปลงพระชนม์พระพุทธองค์
2) ถ้ำสุกรขาตา
มีลักษณะเหมือนคางหมู ในสมัยพุทธกาล ถ้ำสุกรขาตาเป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรด ทีฆนขปริพาชก ผู้เป็นหลานของพระสารีบุตร ในขณะที่พระสารีบุตรกำลังนั่งถวายงานพัดอยู่นั้น ท่านก็ได้ฟังธรรมและสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในขณะนั้นเอง เมื่อวันมาฆปุณณมี เพ็ญเดือน 3 หลังจากอุปสมบทแล้ว 15 วัน ส่วนทีฆนขปริพาชกได้บรรลุโสดาปัตติผลประกาศตนเป็นอุบาสกผู้นับถือพระรัตนตรัย
ณ ยอดเขาคิชฌกูฏ มูลคันธกุฎี คือที่ประทับส่วนพระองค์ของพระบรมศาสดา ในพรรษาที่ 3, 5 และ 7 และ พรรษาสุดท้าย ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน มูลคันธกุฎีแห่งเขาคิชฌกูฏนี้ บริเวณที่ประทับของเดิมเป็นกุฎีแคบๆ เหมาะที่จะนั่งมากกว่านอน วัดดูด้วยศอกได้กว้าง 3 ศอก กับ 1 คืบ ยาว 4 ศอกเท่านั้น เป็นที่ซึ่งชาวพุทธถือว่าสำคัญ พากันมากราบไหว้บูชาเพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์ ที่เสด็จมาประทับ ณ ยอดเขาแห่งนี้อยู่เสมอ และได้แสดงธรรมหลายพระสูตร เช่น ธัมมิกสูตร มหาสาโรปมสูตร อาฏานาฏิยสูตร อปริหานิยธัมมสูตร เป็นต้น ผู้มาถึงสถานที่แห่งนี้ เหมือนว่าได้มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าถึงที่ประทับ ดวงจิตมีแต่ความปีติเบิกบานอย่างน่าอัศจรรย์
16.30 น. เดินทางกลับ พุทธคยา *ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง
19.00 น. เข้าสู่ที่พัก กินอาหารค่ำ แล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย
|
|
DAY 03 |
วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2567 |
|
|
พุทธคยา |
|
05.00 น. ตื่นนอน
06.00 น. ทำวัตรเช้า ที่พระอุโบสถ
07.00 น. กินอาหารเช้า
# สังเวชนียสถาน ลำดับที่ 1
09.00 น. นำพาทุกท่านสู่ “อภิสัมพุทธสถาน” มหาเจดีย์พุทธคยา และ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า สวดมนต์และกราบสักการะพระพุทธเมตตา บูชาสถานที่ตรัสรู้ บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระแท่นวัชรอาสน์ และ กราบสักการะบูชา สัตตมหาสถาน ทั้ง 7 แห่ง ภายในบริเวณโพธิมณฑล
|
|
|
มหาเจดีย์พุทธคยา และ หลวงพ่อพระพุทธเมตตา |
|
|
พระแท่นวัชรอาสน์ และ รัตนจงกรมเจดีย์ |
|
11.30 น. กินอาหารกลางวัน
14.00 น. นำพาทุกท่านไปเที่ยวชม และสักการะบูชา 3 สถานที่ สำคัญ อันเป็น สัตมหาสถาน สถานที่จริง คือ ต้นอชปาลนิโครธ สระมุจลินทร์ และ ต้นราชายตนะ
สัตตมหาสถาน คือ สถานที่ทรงยับยั้งอยู่เพื่อเสวยวิมุตติสุขหลังจากทรงตรัสรู้แล้ว 7 แห่ง แห่งละ 7 วัน รวม 49 วัน ต่อมาถือกันว่า เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา นับเป็นพุทธเจดีย์ประการหนึ่งด้วย |
|
|
ต้นอชปาลนิโครธ และ สถานที่อันเคยเป็นที่ตั้งของ ต้นราชายตนะ |
|
|
สถูปเจดีย์ บ้านนางสุชาดา และ แม่น้ำเนรัญชรา ที่เหลือแต่ผืนทราย |
|
16.00 น.ไปดูบริเวณสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงอธิษฐานจิตลอยถาดทองคำ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา หรือที่เรียกกันว่า “แม่น้ำแห่งการตรัสรู้” แล้วไปสักการะ สถูปเนินดิน สถานที่อันเคยเป็น บ้านนางสุชาดา ผู้ถวายข้าวมธุปายาสก่อนวันตรัสรู้ รวมกันสวดมนต์และเดินประทักษิณ รอบพระสถูปเจดีย์ ถวายเป็นพุทธบูชา
19.00 น. เข้าสู่ที่พัก กินอาหารค่ำ แล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
DAY 04 |
วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2567 |
|
|
พุทธคยา |
06.00 น. ตื่นนอน
07.00 น. กินอาหารเช้า
08.00 น. นำพาทุกท่านสู่ “เขาดงคสิริ” สถานที่บำเพ็ญทุกรกิริยาของพระพุทธเจ้า ก่อนที่จะทรงตรัสรู้
*ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เดินขึ้นเขาอีกประมาณ 20 นาที |
|
|
พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา เขาดงคสิริ |
|
ณ ที่แห่งนี้ ทรงเริ่มบำเพ็ญเพียรทุกรกิริยา ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมกันว่าจะเป็นหนทางที่ทำให้ตรัสรู้ โดยกดพระทนต์ด้วยพระทนต์, กดพระตาลุ(เพดานปาก) ด้วยพระชิวหา(ลิ้น), ทรงผ่อนกลั้นลมอัสสาสะปัสสาสะ, ทรงอดพระกระยาหาร จนพระวรกายเหี่ยวแห้ง พระฉวี(ผิวพรรณ)เศร้าหมอง มีพระอาการประชวรอ่อนเพลียอิดโรย จนหมดสติล้มลง เมื่อฟื้นคืนสติ ทรงเห็นว่าผู้ที่ทำความเพียรด้วยการทรมานร่างกาย ยิ่งกว่าเรานั้นไม่มี เราปฏิบัติอุกฤษฏ์ถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่สามารถจะบรรลุพระโพธิญาณได้ ชะรอยหนทางแห่งการตรัสรู้คงจะเป็นหนทางอื่น มิใช่ทางนี้เป็นแน่ |
ขณะนั้นพระอินทร์ทรงทราบความปริวิตกของพระมหาบุรุษ จึงนำพิณทิพย์สามสายมาดีดถวายให้พระโพธิสัตว์ได้สดับ เมื่อพระองค์ได้สดับเสียงพิณแล้วก็ทรงเปรียบเทียบการปฏิบัติกับพิณสามสายว่า “สายหนึ่งตึงนัก พอดีดไปหน่อยก็ขาด สายหนึ่งหย่อนนัก ดีดไม่มีเสียง ส่วนอีกสายหนึ่งไม่ตึงนักไม่หย่อนนักพอปานกลาง จะมีเสียงดังไพเราะ” พระโพธิสัตว์ทรงถือเอาเสียงพิณนั้นเป็นนิมิตหมาย พิจารณาเห็นแจ้งว่า “มัชฌิมาปฏิปทา คือ การปฏิบัติเป็นกลางๆ ไม่ตึงนักไม่หย่อนนัก คงจะเป็นหนทางแห่งการตรัสรู้แน่นอน” |
จึงตัดสินพระทัยที่จะบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อไป และการบำเพ็ญเพียร ทางจิตนั้น บุคคลที่มีร่างกายไม่แข็งแรงทุพพลภาพเช่นเรานี้ไม่สามารถจะเจริญสมาธิได้ จึงได้เสวยพระกระยาหารบำรุงร่างกายให้มีกำลังก่อนแล้วจึงบำเพ็ญเพียร ดังนั้น ในวันรุ่งขึ้นจึงทรงถือบาตรเที่ยวบิณฑบาตมาเสวยพระกระยาหารตามเดิม ฝ่ายปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในการปฏิบัติแบบทรมานร่างกาย ครั้นเห็นพระองค์ทรงหันมาบริโภคอาหาร จึงเข้าใจว่า พระองค์ทรงละความเพียรเสียแล้ว จึงพากันหลีกหนีทิ้งพระองค์ให้ประทับอยู่ตามลำพัง |
|
11.30 น. กินอาหารกลางวัน
14.00 น. พาไปเที่ยว “วัดไดโจเคียว” วัดญี่ปุ่นหนึ่งเดียวในพุทธคยา
|
|
|
หลวงพ่อพระใหญ่ วัดญี่ปุ่น |
|
จากนั้น ให้เวลาอิสระ ช้อปปิ้ง เลือกซื้อของฝาก ในเมืองพุทธคยา ตามอัธยาศัย
19.00 น. กลับเข้าสู่ที่พัก กินอาหารค่ำ แล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
DAY 05 |
วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567 |
|
|
พุทธคยา-โกลกัตตา-กรุงเทพ |
|
05.00 น. ตื่นนอน
06.00 น. ทำวัตรเช้า ที่พระอุโบสถ
07.00 น. กินอาหารเช้า
08.00 น. นำพาทุกท่านสู่ “อภิสัมพุทธสถาน” มหาเจดีย์พุทธคยา และ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า กันอีกครั้ง กราบสักการะพระพุทธเมตตา บูชาสถานที่ตรัสรู้ บริเวณใต้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ อธิษฐานจิตขอพร ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย
11.00 น. เก็บกระเป๋าเดินทางไว้หน้าห้องพักให้เรียบร้อย พนักงานจะลำเลียงกระเป๋าขึ้นรถ
11.30 น. กินอาหารกลางวัน
12.30 น. ไปสนามบิน *ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
13.00 น. พร้อมกันที่สนามบินคยา เช็คอิน ออกบัตรโดยสาร และโหลดกระเป๋าเดินทาง |
|
|
เที่ยวบิน |
6E6157 |
|
Gaya - Kolkata |
|
สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม |
เครื่องออก |
เวลา 16.30 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย) |
เครื่องถึง |
เวลา 17.30 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย) |
|
* เวลาบิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเดินทาง |
|
|
16.30 น. ออกเดินทางจาก พุทธคยา มุ่งหน้าสู่ สนามบินโกลกัตตา
17.30 น. เดินทางถึง สนามบินโกลกัตตา ผ่าน ต.ม. รอต่อเครื่องกลับไทย |
|
|
เที่ยวบิน |
6E1057 |
|
Kolkata - Bangkok |
|
สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม |
เครื่องออก |
เวลา 21.35 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย) |
เครื่องถึง |
เวลา 01.55 น. (ตามเวลาประเทศไทย) |
|
* เวลาบิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเดินทาง |
|
|
|
กินอาหารเย็น ภายในสนามบิน *เป็นข้าวกล่อง ที่ทางทัวร์จัดเตรียมไว้ให้
21.30 น. ออกเดินทางจาก สนามบินโกลกัตตา มุ่งหน้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ
01.55 น. เข้าวันใหม่ กลับถึง “สนามบินสุวรรณภูมิ”
สวัสดีประเทศไทย
|
|
หมายเหตุ-
โปรแกรมการเดินทาง อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของช่วงเวลา และสถานการณ์เฉพาะหน้า |
|
รายการ ทอดผ้าป่า 2 วัด
ร่วมกันทำบุญ ทอดผ้าป่าเพื่อทำนุบำรุงวัด ตามกำลังศรัทธา |
วัดที่ 1 - วัดไทยพุทธคยา
(เมืองพุทธคยา)
วัดที่ 2 - วัดไทยนาลันทา
(เมืองนาลันทา)
|
|
ราคาทัวร์ |
ราคา 18,900 บาท
* ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน |
|
*ราคานี้ ยังไม่รวม ค่าตั๋วเครื่องบิน
ทุกเส้นทางตามที่ระบุในโปรแกรม
จ่ายเพิ่มค่าตั๋วเครื่องบิน ประมาณ 13,000 - 14,000 บาท++
จ่ายตามราคาจริง ณ วันที่จอง/วันที่ออกตั๋ว
จองเร็วได้ตั๋วถูก จองช้าได้ตั๋วแพง
หมายเหตุ - ขอสงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตามความเหมาะสม หากมีการเปลี่ยนแปลงของ ค่าน้ำมัน และ อัตราแลกเปลี่ยน เนื่องด้วยความผันผวนของสถานการณ์โลก ในปัจจุบัน
|
|
ราคานี้รวม-
ค่าวีซ่าอินเดีย *ประเภท e-Tourist VISA 30 Days
(ฟรีค่าวีซ่า ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2567)
อาหารมื้อหลักทุกมื้อ รวม ชา กาแฟ ของหวาน และผลไม้
ค่าน้ำดื่ม (น้ำเปล่าบรรจุขวด) ไม่จำกัดจำนวน แต่กรุณาดื่มอย่างรู้คุณค่า
ที่พัก วัดไทย พักห้องละ 3-6 ท่าน (หรือแล้วแต่ทางวัดจะจัดให้)
พักแยกชาย-หญิง เป็นห้องพัดลม มีห้องน้ำในตัว
เงินทำบุญ ค่าธรณีสงฆ์-ค่าห้องพัก-ค่าน้ำค่าไฟ
เงินทำบุญ ค่าอาหาร
ค่ารถปรับอากาศตลอดเส้นทาง
ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ เฉพาะตามที่ระบุในโปรแกรม
ค่าบริการ หัวหน้าทัวร์คนไทย
ค่าบริการ Escort ท้องถิ่น
ประกันการเดินทาง-
เงื่อนไข- ครอบคลุมภายใต้ข้อตกลงที่มีไว้กับบริษัทประกันชีวิต
ราคานี้ไม่รวม-
*ค่าตั๋วเครื่องบิน สายการบินตามที่ระบุในโปรแกรม
ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ไทย-อินเดีย
ค่ารถสามล้อ ระหว่างเดินทางในพุทธคยา
ค่ากล้องถ่ายรูป และ ค่ากล้องวีดีโอ
ค่าทิป escort หรือผู้ช่วยหัวหน้าทัวร์ ชาวอินเดีย
ค่าทิป หัวหน้าทัวร์คนไทย
ค่าทิป คนขับรถ , เด็กรถ , เด็กยกกระเป๋า และทิปอื่นๆ
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ
อาหารมื้อเย็น
ท่านใดถือศีล 8 ไม่กินอาหารเย็น ไม่คืนค่าอาหาร
ค่าธรณีสงฆ์ ค่าอาหาร
ในการเข้าพักที่วัด ทางเราได้จัดเตรียมเงินทำบุญ ถวายเป็นค่าธรณีสงฆ์ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร ไว้แล้ว ตามความเหมาะสม ถ้าใครต้องการจะทำบุญเพิ่มก็แล้วแต่ศรัทธา
ค่าทิป-
เด็กยกกระเป๋า ควรให้ไม่ต่ำกว่า 20 บาท หรือ 40 รูปี ต่อกระเป๋า 1 ใบ
ทีมงานอินเดีย (ไกด์ท้องถิ่น คนขับรถ เด็กรถ)
เผื่อเงินไว้ประมาณ 1000 รูปี หรือ 500 บาท
สำหรับ 5 วัน ในอินเดีย
(ให้ในวันสุดท้าย ของการเดินทาง)
หัวหน้าทัวร์คนไทย
ตามแต่พอใจ (ไม่บังคับ)
หรือ เผื่อเงินไว้ประมาณ 500 บาท
สำหรับ 5 วัน ในอินเดีย
(ให้ในวันสุดท้าย ของการเดินทาง)
|
การชำระเงิน |
1) จ่ายมัดจำ 5,000 บาท ทันทีที่จอง
*ยึดมัดจำ ถ้าขอเลิกการเดินทาง
2) จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน
ประมาณ (11,000-12,000) บาท ทันทีที่จอง
*ถ้าขอยกเลิกการเดินทาง
คืน/ไม่คืนเงิน ตามเงื่อนไขของสายการบิน
(กรุณาสอบถาม ราคาตั๋ว ก่อนโอนเงินจองทัวร์)
3) จ่ายส่วนที่เหลือ
13,900 บาท ภายในวันที่ 10 กันยายน 2567
|
เงื่อนไขการให้บริการ |
จองล่วงหน้าตามช่วงเวลาที่กำหนด ชำระเงินตามเงื่อนไขข้างต้น
ขอยกเลิกการเดินทาง ยึดเงินมัดจำ และหักค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง และ/หรือ ขอยกเลิกการเดินทาง น้อยกว่า 30 วัน เก็บค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน
กรณีเกิดการระบาดต่างๆ จนทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ ขอสงวนสิทธิ์ในการ เลื่อน/ยกเลิกการเดินทาง ตามแต่สถานการณ์เฉพาะหน้า
เมื่อท่านออกเดินทางกับคณะแล้ว หากท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง เช่น ไม่เที่ยวบางรายการ ไม่ทานอาหารบางมื้อ หรือไม่เดินทางพร้อมคณะ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืนได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น กรณีที่การตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่ประเทศไทยและต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศ หรือ กรณีความล่าช้าจากสายการบิน การประท้วง การนัดหยุดงาน การก่อจลาจล ทางเราขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อท่านตกลงชำระเงิน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ระบุไว้แล้วทั้งหมดานออกเดินทางกับคณะแล้ว หากท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง เช่น ไม่เที่ยวบางรายการ ไม่ทานอาหารบางมื้อ หรือไม่เดินทางพร้อมคณะ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืนได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น กรณีที่การตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่ประเทศไทยและต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศ หรือ กรณีความล่าช้าจากสายการบิน การประท้วง การนัดหยุดงาน การก่อจลาจล ทางเราขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อท่านตกลงชำระเงิน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ระบุไว้แล้วทั้งหมด
กรณีเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง หรือในขณะที่อยู่ในประเทศอินเดีย เบื้องต้นจะรักษาตามอาการ ทั้งนี้ผู้ร่วมทางต้องดูแลตัวเอง หากมีอาการหนักจะนำส่งโรงพยาบาลที่อินเดีย เพื่อให้เข้ารับการรักษา หากต้องการเดินทางกลับประเทศไทยก่อนกำหนด สามารถทำได้โดยคิดค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนั้น
|
|
ขั้นตอนง่ายๆในการจองทริปกับเรา |
|
1 |
2 |
3 |
4 |
คลิกเพื่อจองทริป |
คลิกตรวจรายชื่อ |
คลิกเพื่อโอนเงิน |
คลิกเพื่อส่งเอกสาร |
|
|
|
|
|
|
|
|
เตรียมตัวเดินทาง |
บริการจากทัวร์ |
|
|
|
|
|
คลิก..เพื่อดูโปรแกรมการเดินทาง
หรือ ขอโปรแกรมได้ที่ คุณนุ้ย 0816928233
หรือ แจ้งทาง LINE ID : @wanramtang |
|
|
|
|
|
|
วัดไทยพุทธคยา |
เป็นวัดแห่งแรกในต่างประเทศ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2500
ตั้งอยู่ในเมืองพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า |
|
|
|
พระอุโบสถ วัดไทยพุทธคยา |
|
|
|
ลานโพธิ์ ลานปฏิบัติธรรม เช้าและค่ำ |
|
|
|
อู่ข้าว โรงครัวและสถานที่รับประทานอาหาร |
|
|
|
อู่น้ำ เรือนน้ำปานะ รับประทานของว่างและเครื่องดื่ม
มีสัญญาณ WIFI สามารถเล่นเนท ติดต่อทางบ้านได้ |
|
|
|
ห้องพักสำหรับผู้แสวงบุญ ห้องน้ำในตัว |
|
|
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ |
|
ที่อยู่ |
|
|
บ้านวันแรมทาง
1/60 ซ.อนามัยงามเจริญ 12 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ 10150
|
โทรศัพท์ |
024054561 |
มือถือ - ปลา |
0898119139 (AIS) |
มือถือ - นุ้ย |
0816928233 (DTAC) |
Email |
wanramtang@hotmail.com |
Line Official ID |
@wanramtang |
|
|
วันทำงาน |
วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.
|
วันเสาร์ เวลา 09.00-12.00 น. |
นอกเวลางาน งดการติดต่อทุกเรื่อง |
ถ้าไม่รับสายหรือโทรไม่ติด กรุณาติดต่อทาง Line |
|
|
หรือติดต่อผ่านระบบอัตโนมัติ ด้านล่างนี้ |
|