ทัวร์ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า อินเดีย (21-26 พฤศจิกายน 2566)
ReadyPlanet.com
dot dot
ทัวร์อินเดีย - ถ้ำอชันต้า ถ้ำเอลโลร่า
อัพเดทโปรแกรม 05/11/2566
 
 
   
ทัวร์อินเดีย
ออรังกาบัด มุมไบ
เที่ยวถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า
ถ้ำกัณเธรี ถ้ำเอเลเฟนต้า
แถม.. พาไหว้ขอพร 'พระพิฆเนศ' ที่มุมไบ
  
21-26 พฤศจิกายน 2566
6 วัน 3 คืน
เปิดรับไม่เกิน 16 ท่าน
เดินทางขั้นต่ำ 6 ท่าน
             
ราคา 29,000 บาท
* ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน
หมายเหตุ - ขอสงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตามความเหมาะสม หากมีการเปลี่ยนแปลงของ ค่าธรรมเนียมน้ำมัน ภาษีสนามบิน และอัตราแลกเปลี่ยน
       
ทริปนี้จัดตามคำเรียกร้องของหลายๆท่าน โดยเฉพาะคนที่เคยไปแสวงบุญในเส้นทางธรรมยาตราตามรอยพระพุทธองค์มาแล้ว ไปดูร่องรอยทางพุทธศิลป์ สถานที่ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกันในทางพระพุทธศาสนา และเป็นคำตอบหนึ่งที่ไขข้อข้องใจที่ว่าในช่วงหนึ่งที่พุทธศาสนาเสื่อมลงและเกือบสูญหายไปจากดินแดนพุทธภูมิ บรรดาพระสงฆ์สาวกหลบลี้ภัยไปอยู่ที่ใด และไปทำอะไรกัน ได้มาชมความอลังการของงานพุทธศิลป์ในวัดถ้ำแห่งอชันต้า-เอลโลร่า สักครั้ง แล้วคุณจะเชื่อในความมหัศจรรย์ของมนุษย์
     
วิทยากรพิเศษ
บรรยายให้ความรู้แบบเจาะลึก ถ้ำอชันตา และ ถ้ำเอลโลร่า
โดย  พระสมุห์สิทธิโชค สิทฺธิชโย
ผู้เขียนหนังสือ "สำรวจพุทธสถานวิหารถ้ำอินเดียใต้" 
  
              
โปรแกรมการเดินทาง
          

จุดนัดพบ
สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 4-5 บริเวณที่นั่งหน้าประตู
วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
เวลา 20.00 น. (สองทุ่มตรง)

    
DAY 01 วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
  
กรุงเทพ-เดลลี
   
เริ่มโปรแกรมทัวร์-
  
20.00 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินบัตรโดยสารและโหลดสัมภาระ
     
เที่ยวบิน TG331

Bangkok-Delhi
  สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม
เครื่องออก เวลา 23.25 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
เครื่องถึง เวลา 02.20 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย)

  
23.25 น. ได้เวลาเครื่องออก มุ่งหน้าสู่ประเทศอินเดีย 
*ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 25 นาที
  
กินอาหารค่ำ  บนเครื่องบิน

           
DAY 02 วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
   
เดลลี-ออรังกาบัด
  
02.20 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย) เดินทางถึงสนามบินเดลลี 
                  
ผ่าน ตม. รับกระเป๋า แล้วไปเช็คอินสายการบิน แอร์อินเดีย เพื่อต่อเครื่องไปยัง เมืองออรากาบัด  
 
เที่ยวบิน AI443

Delhi-Aurangabad
  สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม
เครื่องออก เวลา 05.00 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย)
เครื่องถึง เวลา 07.00 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย)

 
03.30 น. Check-in แล้วรอขึ้นเครื่อง

05.00 น. ได้เวลาเครื่องออก เดินทางสู่เมืองออรังกาบัด
*ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 

07.00 น. เดินทางถึงสนามบินออรังกาบัด รถมารับที่สนามบิน
เข้าสู่โรงแรมที่พัก 
ล้างหน้าล้างตา ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่ห้องน้ำโรงแรม 

08.00 น.  กินอาหารเช้า  ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    
      

เที่ยวถ้ำเอโลร่า

 
09.00 น. ไปเที่ยว ถ้ำเอลโลร่า 
*
ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง


ถ้ำเอลโลร่า (Ellora Cave)


สร้างประมาณ ปี พ.ศ. 1100 - 1400 เป็นยุคหลังจากถ้ำอชันตา ลักษณะของหมู่ถ้ำจะเป็นการเจาะเข้าไปในภูเขา ให้เป็นวัดและศาสนาสถาน เช่นเดียวกับถ้ำอชันตา แต่ที่นี่จะมีความต่างคือจะมีถ้ำของศาสนาเชน และ ฮินดู รวมอยู่ด้วย  ถ้ำของแต่ละศาสนาถูกเนรมิตเป็นวิหาร เทวสถาน ตามความเชื่อของศาสนานั้นๆ ศาสนาพุทธ มี 12 ถ้ำ เป็นวิหารและอุโบสถและพระพุทธรูปที่งามยิ่ง

ถ้ำของศาสนาเชน มี 5 ถ้ำ เจาะหน้าผาเป็นปราสาทหิน มีรูปแกะสลักของศาสดามหาวีระ ศาสนาฮินดูมี 17 ถ้ำ โดยเฉพาะถ้ำที่ 16 ถ้ำไกรลาศนั้น เป็นถ้ำที่งดงามวิจิตรอย่างมาก
       

 

 

     
กินอาหารกลางวัน
  ที่ร้านอาหาร

15.00 น. เดินทางกลับโรงแรมที่พัก

19.30 น.  กินอาหารค่ำ  ที่ห้องอาหารของโรงแรม

อิ่มแล้วพักผ่อนนอนหลับตามอัธยาศัย 

             
DAY 03 วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
 
เที่ยวถ้ำอชันต้า
  
06.30 น. ตื่นนอน
07.30 น. กินอาหารเช้า

ไปเที่ยว
 ถ้ำอชันตา 

*ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
    
12.00 น. เดินทางถึงถ้ำอชันตา 

กินอาหารกลางวัน  ที่ร้านอาหาร

พร้อมแล้ว ไปเดินเที่ยวชม ถ้ำอชันตา กันเลย


ถ้ำอชันต้า (Ajanta Cave)
  
ได้ชื่อว่าเป็น วัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 350 โดยพระภิกษุสงฆ์ในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เจาะภูเขาเพื่อสร้างเป็นกุฏิ โบสถ์ วิหาร เพื่ออาศัยอยู่อย่างสันโดษ เนื่องจากเป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน 

เรื่องราวของ ถ้ำอชันตา ได้หายเงียบไป กลายเป็นถ้ำร้างที่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และต้นไม้ปิดปากถ้ำ จนถึง พ.ศ. 2362 จอห์น สมิธ นายทหารชาวอังกฤษได้เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ จนมาถึงบริเวณเทือกเขาและได้ค้นพบถ้ำแห่งนี้ด้วยความบังเอิญ

การค้นพบ หมู่ถ้ำอชันตา ในครั้งนั้นทำให้โลกต้องตื่นตะลึงกับความมหัศจรรย์ของศิลปะภายในวัดถ้ำ ที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน ขณะเดียวกันก็ทำให้นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวของ ศาสนาพุทธ ในอินเดียได้อย่างชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ด้วยการศึกษาจากภาพแกะสลักหินภายในถ้ำ ที่ยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ ไม่ผุกร่อนพังทลายไปเหมือนพุทธสถานอื่นๆ เพราะทุกอย่างที่นี่ สลักขึ้นจากภูเขาทั้งลูก 

 

 
 

16.00 น. เดินทางกลับโรงแรมที่พัก

19.30 น.  กินอาหารค่ำ  ที่ห้องอาหารของโรงแรม

อิ่มแล้วพักผ่อนนอนหลับตามอัธยาศัย

  
DAY 04 วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
 
ออรังกาบัด-มุมไบ
   
04.30 น. ตื่นนอน
05.30 น. "เก็บกระเป๋าเดินทาง" วางไว้หน้าห้องพักให้เรียบร้อย พนักงานจะนำกระเป๋าไปขึ้นรถ   

06.00 น. ออกเดินทางไป สนามบินออรังกาบัด  
    
เที่ยวบิน AI400

Aurangabad-Mumbai
  สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม
เครื่องออก เวลา 08.50 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย)
เครื่องถึง เวลา 09.55 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย)
  
06.30 น. ถึงสนามบิน Check-in โหลดกระเป๋าเดินทาง แล้วรอขึ้นเครื่อง

กินอาหารเช้า  เป็นชุดอาหารกล่องที่แพ็คมาจากโรงแรม

Check-in แล้วรอขึ้นเครื่อง

08.50 น. ได้เวลาเครื่องออก เดินทางสู่นครมุมไบ
*ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที

09.55 น. เดินทางถึงสนามบินมุมไบ รับกระเป๋าแล้วไปขึ้นรถบัสของเรา
   

ผ่านชม ลานซักผ้า โดบิกาต Dhobi Ghat  
เราจะจอดรถใกล้แล้วพาเดินลงไปถ่ายรูปจากมุมสูง ไม่ได้พาเข้าไปเดินชมภายในบริเวณลานซักผ้า
 
โดบิกาต Dhobi Ghat

ลานซักผ้าและเป็นแหล่งซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลางนครมุมไบ ใช้ลูกจ้างซักผ้ามากกว่า 5,000 คนต่อวัน 

คำว่า “Dhobi” แปลว่า “ผู้ซัก” โดบิกาต (Dhobi Ghat) มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นลานซักผ้าเปิดโล่งที่ใหญ่ที่สุดในมุมไบ และใหญ่ที่สุดในโลก  โดบิกาต กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นที่ที่ชาวตะวันตกไม่เคยเห็นมาก่อน มีจุดให้ผู้มาเยือนเดินเที่ยวชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกลับไป จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของอินเดียที่เต็มไปด้วยความอึกทึก วุ่นวาย แต่ยังคงเสน่ห์ในแบบนั้นไว้เป็นอย่างดี ดังเช่นที่พบในซีรีส์อินเดียจันทรคุปต์ ศึกรักชิงบัลลังก์ก็มีเสน่ห์ต่างไปอีกแบบเช่นกัน
 



กินอาหารกลางวัน  ที่ร้านอาหาร

แล้วไปเที่ยวชม อีกหนึ่งถ้ำสำคัญทางพุทธศาสนา 



ถ้ำกัณเธรี (Kanheri Cave)

เป็นกลุ่มถ้ำทางพุทธศาสนา เช่นเดียวกันกับถ้ำอชันตา กลุ่มถ้ำซ่อนตัวอยู่ใน อุทยานแห่งชาติสัญชัยคานธี มีถ้ำกระจัดกระจายไปตามไหล่เขาใหญ่บ้างเล็กบ้าง จำนวน 109 ถ้ำ สร้างมาตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 500 ถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดนั้นค่อนข้างเรียบง่ายและไม่มีการตกแต่งอะไรมากมาย ต่างกับถ้ำในยุคหลังๆที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ละถ้ำมีแท่นหินที่ใช้เป็นที่นอน วิหารที่มีเสาหินขนาดใหญ่ มีสถูปเจดีย์ ผนังถ้ำแกะสลักด้วยภาพนูนต่ำของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ ทำให้ ถ้ำกัณเธรี ได้กลายเป็นชุมชนชาวพุทธที่สำคัญบนชายฝั่งทะเลแถบนี้
     

   
 
 
เดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก 

19.30 น.  กินอาหารค่ำ  ที่ห้องอาหารของโรงแรม อิ่มแล้วพักผ่อนนอนหลับตามอัธยาศัย 


คืนนี้เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย
พรุ่งนี้เราจะขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพ
น้ำหนักกระเป๋า ได้ไม่เกินคนละ 20 กิโลกรัม

                
DAY 05 วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
      
มุมไบ-กรุงเทพ
 
05.00 น. ตื่นนอน

06.00 น. เช้าตรู่ คนยังไม่มาก เอาฤกษ์เอาชัยเดินทางไปไหว้พระพิฆเนศ คู่บ้านคู่เมืองมุมไบ


วัดสิทธิวินายัก (Siddhivinayak Temple)

เป็นวัดที่สร้างถวาย "พระพิฆเนศ" วัดที่เก่าแก่ในศาสนาฮินดู เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมุมไบ มีผู้ศรัทธาจากทุกชนชั้นเดินทางมากราบไหว้ขอพร ก่อนเข้าวัดต้องถอดรองเท้าและผ่านเครื่องสแกน จากนั้นไปเข้าแถว แล้วค่อยเคลื่อนตามกันไปเพื่อนำเครื่องบูชาอันได้แก่พวงมาลัย ผ้าแดง และขนมไปถวายพระพิฆเนศ หลังจากกราบพระพิฆเนศแล้วรับเครื่องบูชาจากพราหมณ์กลับมา มีรูปปั้นหนูตัวแทนพาหนะของพระพิฆเนศ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ให้นำพวงมาลัย ผ้าแดง ขนม มาถวายหนู จากนั้นเอามือข้างหนึ่งอุดหูหนูไว้ แล้วกระซิบที่หูของรูปปั้นหนูอีกข้าง ขอพรที่ต้องการเพียงข้อเดียว

ความยิ่งใหญ่อลังการของวัดนี้คือ ยอดของวัดมีทั้งหมด 37 ยอด สร้างจากทองคำหนักรวม 1,500 กิโลกรัม ด้านในวัดประดิษฐาน "พระพิฆเนศองค์สีส้ม" ขนาดองค์ไม่ใหญ่ สูง 75 ซม. หน้าตักกว้าง 60 ซม. ประดับด้วยทองคำและอัญมณี งวงหันไปทางขวา ซึ่งมีความหมายว่าให้พรสมปรารถนาที่ทันใจ มี 4 กร ทรงถือดอกบัว ขวาน ลูกประคำ และขนม

 
 
07.30 น.  กลับโรงแรมที่พัก  กินอาหารเช้า   
ก่อนออกจากห้องพัก "เก็บกระเป๋าเดินทาง" วางไว้หน้าห้องพักให้เรียบร้อย   

09.00 น. ออกไปเที่ยว นครมุมไบ
  
ประตู Gateway of India

เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่โดดเด่นที่สุด ของนครมุมไบ
สร้างขึ้นในช่วงการปกครองของอังกฤษ ตั้งอยู่สุด ถนนฉัตราปตีศิวาจี ตรงปลายสุดของท่าเรือ อพอลโล บันเดอร์ หันหน้าออกไปทางอ่าว "มุมไบฮาร์เบอร์" เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทะเลอาหรับ (Arabian Sea) บริเวณนี้เดิมเป็นท่าเรือของชาวประมง ต่อมาในภายหลังได้รับการบูรณะและถูกใช้เป็นท่าจอดเรือสำหรับผู้สำเร็จราชการอังกฤษและบุคคลสำคัญต่างๆ ในสมัยก่อนนั้น ใครก็ตามที่นั่งเรือมาถึงท่าเรือนี้ จะได้เห็น ประตู Gateway of India เป็นสิ่งแรก

ประตู Gateway of India ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการเสด็จเยือนท่าเรือ "อพอลโล บันเดอร์" ของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี่ ในปี ค.ศ 1911 ถึงแม้ว่าจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1911 แต่แบบแปลนที่ออกแบบโดย จอร์จ วิทเตท สถาปนิกชาวสกอตแลนด์ นั้นได้รับการพิจารณาอนุมัติในอีก 3 ปีถัดมา และทำการก่อสร้างประตูเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1924 

เมื่อครั้งอินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ ทหารอังกฤษคนสุดท้ายออกจากประเทศอินเดียผ่านทาง ประตู Gateway of India แห่งนี้ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1948 เป็นสัญญาณการสิ้นสุดของการปกครองของอังกฤษ
 
   
  
 

จากนั้น เราจะนั่งเรือข้ามฟากออกไปที่เกาะ เพื่อไปเที่ยวชมถ้ำเอเลเฟนตา
*
ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 45 นาที


ถ้ำเอเลเฟนตา (Elephanta Cave)

เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู แกะสลักภูเขาให้เป็นถ้ำ เช่นเดียวกับถ้ำอื่นๆ

สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะเป็นหลัก ตั้งอยู่บนเกาะเอเลเฟนตา (มีชื่อเดิมว่าเกาะคะระบุรี) ในอ่าวมุมไบ บนเกาะมีหมู่โบราณสถานประกอบด้วย โบสถ์พราหมณ์ลัทธิไศวะ เป็นส่วนใหญ่ มีเศษซากของสถูปในพุทธศาสนาบางส่วน ซึ่งเชื่อกันว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7  ภายในหมู่ถ้ำ มีรูปปั้นแกะสลักหินมากมาย เทวรูปส่วนใหญ่ถูกทำลาย ตัดเศียร พระพักตร์ไม่สมบูรณ์ รูปปั้นสำคัญหลักของถ้ำคือ รูปจำหลัก “พระตรีมูรติ” สลักไว้ในหินใหญ่ก้อนเดียวที่มีความสูงถึง 6 เมตร

ชื่อ เอเลเฟนตา (Elephanta) มาจากคำว่า เอลิเฟนเต้ (Elefante) ที่แปลว่าช้าง ในภาษาโปรตุเกส ชาวอาณานิคมโปรตุเกสเป็นผู้ตั้งชื่อให้หลังจากที่พบ “หินสลักเป็นตัวช้าง” บนเกาะนี้  ถ้ำหลักหรือถ้ำใหญ่เคยเป็นเทวสถาน สถานที่สักการะบูชาของชาวฮินดู กระทั่งกองทัพโปรตุเกสเข้ายึดครองเพื่อตั้งฐานทัพบนเกาะ มีการซ้อมยิงปืนใหญ่ ทำให้ถ้ำและหินจำหลักต่างๆเสียหายไปเกือบทั้งหมด
 
 
 

13.00 น. นั่งเรือกลับเข้าฝั่ง  

กินอาหารกลางวัน  ที่ร้านอาหารในเมือง

*
อาหารกลางวันวันนี้อาจจะต้องช้าสักหน่อย เพราะต้องรอเวลาเรือเทียบท่าหาขนมตุนไปกินบ้าง เผื่อไว้เวลาหิว

 
 
อิ่มแล้ว มีเวลาเหลือ แวะไปเที่ยว และช้อปปิ้งกันอีกสักหน่อย เท่าที่มีเวลา
  
สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส (Chhatrapati Shivaji Terminus)

ผ่านชม "สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส" (Chhatrapati Shivaji Terminus) หรือใน ชื่ออินเดียใหม่ว่า “ฉัตรปตี ศิวาจีเทอมินาส” (Chhatrapati Shivaji Maharaj Terminus) ที่ได้รับการตั้งชื่อตามพระนาม พระราชินีวิคตอเรีย ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียโกธิค ผสมผสานกับงานศิลปะแบบอินเดียอันทรงคุณค่า จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก แวะถ่ายรูป เป็นที่ระลึก จากด้านหน้าอาคาร

 
 
Shopping Time !!  

ไป Supermarket เดินหยิบของฝากใส่ตะกร้า ซื้อง่าย สบายใจ ของเยอะ ไม่ต้องต่อราคา


ไปร้าน Anokhi ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังของอินเดีย
แบรนด์เก่าแก่ อายุกว่า 80 ปี มีชื่อเสียงด้านผ้าฝ้าย Cotton 100% 
พิมพ์ลายด้วยสีจากธรรมชาติ ใส่สบายมากๆ
Fixed Price ราคาตามป้าย ไม่ต้องต่อราคาให้เหนื่อย
ดูข้อมูลร้านได้ที่  

https://www.anokhi.com/
https://www.facebook.com/AnokhiIndia 
  
 
แล้วเดินทางต่อไปที่ สนามบินมุมไบ 

19.00 น. 
ถึงสนามบิน Check-in โหลดกระเป๋าเดินทาง แล้วรอขึ้นเครื่อง
     
เที่ยวบิน TG318

Mumbai-ฺBangkok
  สามารถโหลดกระเป๋าได้หนัก ไม่เกิน 20 กิโลกรัม
เครื่องออก เวลา 23.20 น. (ตามเวลาประเทศอินเดีย)
เครื่องถึง เวลา 05.05 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
    
23.20 น.   ได้เวลาเครื่องออก มุ่งหน้าสู่กรุงเทพ 
*ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาที

กินอาหารค่ำ  บนเครื่องบิน  
       
DAY 06 วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
 
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ
 
05.05 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ
      
  
จบโปรแกรมทัวร์-
        
หมายเหตุ- โปรแกรมการเดินทาง อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของช่วงเวลา และสถานการณ์เฉพาะหน้า
  
ที่พัก

   
Hotel Vivanta by Taj หรือ เทียบเท่า
(โรงแรม 5 ดาว เมืองออรังกาบัด)

Hotel Sun N Sand หรือ เทียบเท่า
(โรงแรม 5 ดาว เมืองมุมไบ)


       
ราคาทัวร์
ท่านละ 29,000 บาท 
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ 7,000 บาท
    
  *ราคานี้ ยังไม่รวม ค่าตั๋วเครื่องบิน
     ทุกเส้นทางตามที่ระบุในโปรแกรม

  
จ่ายเพิ่มค่าตั๋วเครื่องบิน ประมาณ  19,000 - 20,000 บาท++
จ่ายตามราคาจริง ณ วันที่จอง/วันที่ออกตั๋ว
จองเร็วได้ตั๋วถูก จองช้าได้ตั๋วแพง

หมายเหตุ - 
ขอสงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตามความเหมาะสม หากมีการเปลี่ยนแปลงของ ค่าน้ำมัน และ อัตราแลกเปลี่ยน เนื่องด้วยความผันผวนของสถานการณ์โลก ในปัจจุบัน
   

   


ราคานี้รวม-


ค่าวีซ่าอินเดีย *ประเภท  e-Tourist VISA 30 Days 

อาหารมื้อหลักทุกมื้อ รวม ชา กาแฟ ของหวาน และผลไม้
ค่าน้ำดื่ม (น้ำเปล่าบรรจุขวด)
*
ไม่จำกัดจำนวน แต่กรุณาดื่มอย่างรู้คุณค่า

โรงแรมตามที่ระบุในโปรแกรม 
พักห้องละ 2 ท่าน 
ค่ารถปรับอากาศตลอดเส้นทาง

ค่าเรือข้ามฟาก มุมไบ เกาะ Elephanta Cave 
ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ เฉพาะตามที่ระบุในโปรแกรม
ค่าบริการ หัวหน้าทัวร์คนไทย 
ค่าบริการ Escort ท้องถิ่น

ประกันการเดินทาง-  
เงื่อนไข- ครอบคลุมภายใต้ข้อตกลงที่มีไว้กับบริษัทประกันชีวิต 

    


ราคานี้ไม่รวม-

*ค่าตั๋วเครื่องบิน สายการบินตามที่ระบุในโปรแกรม
  ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ไทย-อินเดีย

ค่าอาหารมื้อกลางวัน วันแรกที่สนามบินเดลลี
ค่าอาหารมื้อเย็น วันสุดท้ายที่มุมไบ
ค่าเครื่องดื่มพิเศษ เช่น น้ำอัดลม หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ค่ากล้องถ่ายรูป และ ค่ากล้องวีดีโอ
ค่าทิป escort หรือผู้ช่วยหัวหน้าทัวร์ ชาวอินเดีย
ค่าทิป หัวหน้าทัวร์คนไทย
ค่าทิป คนขับรถ , เด็กรถ , เด็กยกกระเป๋า และทิปอื่นๆ
ค่าใช้จ่าย ในการตรวจโควิด-19 ที่อินเดีย ในทุกกรณี
ค่าใช้จ่าย ในการรักษาพยาบาล / ค่ากักตัวที่ประเทศอินเดีย
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ



ค่าทิป-  
   
เด็กยกกระเป๋า ควรให้ไม่ต่ำกว่า 20 รูปี ต่อกระเป๋า 1 ใบ
    
ทีมงานอินเดีย  (ไกด์ท้องถิ่น คนขับรถ เด็กรถ) 
เผื่อเงินไว้ประมาณ 800 รูปี หรือ 400 บาท 
สำหรับ 4 วัน ในอินเดีย 
(ให้ในวันสุดท้าย ของการเดินทาง)


หัวหน้าทัวร์คนไทย 
ตามแต่พอใจ (ไม่บังคับ)
(ให้ในวันสุดท้าย ของการเดินทาง)


                  


 การชำระเงิน



1)  จ่ายมัดจำ 5,000 บาท  ทันทีที่จอง   
      *ยึดมัดจำถ้าขอเลิกการเดินทาง


2)  จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ตามราคาตั๋วจริง
      ประมาณ (19,000-20,000) บาท 
ทันทีที่จอง 

      
*ถ้าขอยกเลิกการเดินทาง
       คืน/ไม่คืนเงิน ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในตั๋วเครื่องบิน


      (กรุณาสอบถาม ราคาตั๋ว ก่อนโอนเงินจองทัวร์)
 

3)  จ่ายส่วนที่เหลือ 
       24,000 บาท  ภายในวันที่  21 ตุลาคม 2566
  



    

 เงื่อนไขการให้บริการ


จองล่วงหน้าตามช่วงเวลาที่กำหนด ชำระเงินตามเงื่อนไขข้างต้น

ขอยกเลิกการเดินทาง  ยึดเงินมัดจำ  และหักค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง และ/หรือ ขอยกเลิกการเดินทาง น้อยกว่า 30 วัน เก็บค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน 

กรณีเกิดการระบาดของ โควิด-19 จนทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ ขอสงวนสิทธิ์ในการ เลื่อน/ยกเลิก การเดินทาง ตามแต่สถานการณ์เฉพาะหน้า 

เมื่อท่านออกเดินทางกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง เช่น ไม่เที่ยวบางรายการ ไม่ทานอาหารบางมื้อ หรือไม่เดินทางพร้อมคณะ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืนได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น  กรณีที่การตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศในรายการเดินทาง หรือ กรณีความล่าช้าจากสายการบิน การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล ทางเราขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น  เมื่อท่านตกลงชำระเงิน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ระบุไว้แล้วทั้งหมด

กรณีติดโควิด-19 ระหว่างเดินทาง หรือในขณะที่อยู่ในประเทศอินเดีย เบื้องต้นจะรักษาตามอาการ  ทั้งนี้ผู้ร่วมทางต้องดูแลตัวเอง ถ้ามีอาการหนักจะนำส่งโรงพยาบาลที่อินเดีย เพื่อให้เข้ารับการรักษา หากต้องการเดินทางกลับประเทศไทยก่อนกำหนด สามารถทำได้โดยคิดค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง

 

     
ขั้นตอนง่ายๆในการจองทริปกับเรา
1  2  3  4 
คลิกเพื่อจองทริป คลิกเพื่อตรวจรายชื่อ คลิกเพื่อโอนเงิน คลิกเพื่อส่งเอกสาร
       
บริการของเรา
   
  เตรียมตัวเดินทาง บริการจากทัวร์  
             
 
คลิก..เพื่อดูโปรแกรมการเดินทาง
หรือ ขอโปรแกรมได้ที่  คุณนุ้ย 0816928233
หรือ แจ้งทาง Line Official ID : @wanramtang

 
               
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ แผนที่ วันแรมทาง
บ้านวันแรมทาง
1/60 ซ.อนามัยงามเจริญ 12 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ 10150
โทรศัพท์  024054561
มือถือ - ปลา 0898119139 (AIS)
มือถือ - นุ้ย 0816928233 (DTAC)
Email wanramtang@hotmail.com
Line Official ID @wanramtang
 
วันทำงาน วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.
วันเสาร์ เวลา 09.00-12.00 น.
นอกเวลางาน งดการติดต่อทุกเรื่อง
ถ้าไม่รับสายหรือโทรไม่ติด กรุณาติดต่อทาง Line

        

หรือติดต่อผ่านระบบอัตโนมัติ ด้านล่างนี้

 



ชื่อ
เบอร์โทรศัพท์
อีเมล
หัวข้อ
รายละเอียด




ทัวร์อินเดีย




ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/06037
ติดต่อเรา
โปรแกรมการเดินทาง
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot










อุณหภูมิ พยากรณ์อากาศ
คำแนะนำเรื่อง อาการแพ้ความสูง Altitude Sickness อาการเวลาอยู่บนพื้นที่สูง Acute Mountain Sickness (AMS)


Copyright © 2007-2037 สงวนลิขสิทธิ์ภาพและบทความที่จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ ห้ามลอกโดยเด็ดขาด
ติดต่อเรา
บริษัท อัพเดททัวร์แอนด์ทราเวล จำกัด
เลขที่ 1/60 ซอยอนามัยงามเจริญ 12 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ 10150
โทรศัพท์ : 024054561 , 0816928233 (dtac) , 0898119139 (ais)
Email : wanramtang@hotmail.com
Line ID: @wanramtang