เยือนถิ่นวิหารทองคำ เที่ยวแดนธรรมะ ร่าเริงเมืองแห่งรีสอร์ท
อัมริตสา-ธรรมศาลา-มะนาลี-ชิมลา
Bangkok-Delhi-Amritsar-Dharamsala-Manali-Shimla-Delhi-Bangkok
(9 วัน 8 คืน)

กำหนดวันเดินทาง
...........................
|
อินเดียเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกมีความหลากหลายในทุกๆ ด้านและมีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจชวนให้ค้นหาไม่รู้จบนอกจากชื่อเสียงด้านความงดงามเป็นเลิศของพระราชวังโบราณ โบสถ์วิหารและมนต์ขลังแห่งศาสนสถานสำคัญที่มีอายุนับร้อยนับพันปีแล้ว นาฏลีลาศิลปะและดนตรีของอินเดียก็โดดเด่นไม่เป็นรองใครทั้งภูมิประเทศที่หลากหลายและสวยงามรวมไปถึงภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ทำให้อินเดียเป็นจุดหมายของนักเดินทางจากทั่วโลกที่จะมุ่งมาเยือนสักครั้งหนึ่ง
เราจะเป็นอีกกลุ่มนักเดินทางกลุ่มเล็กๆ ที่จะไปสัมผัสเสน่ห์ของอินเดียด้วยตัวเอง จุดหมายอาจจะอยู่ไกล แต่รายทางก็มีอะไรดีๆ ให้ได้สัมผัสไม่น้อย เปิดใจกว้างๆ แล้วไปท่องแดนภารตะด้วยกัน
ทริปนี้ น้องตาล จะพาไปลุย อัมริตสา-ธรรมศาลา-มะนาลี-ชิมลา
ไปแบบเพื่อนพาเที่ยว ไปกันง่ายๆ ไม่ใช่ในรูปแบบทัวร์
นั่งแท็กซี่บ้าง นั่งรถไฟบ้าง เหมารถบ้าง โรงแรมน่ารักๆ สรรหาจะกิน เลือกร้านฮิบๆ กินอะไรอร่อยๆ
|
  
|
|
โปรแกรมการเดินทาง
|
วันแรก วันเสาร์
เส้นทาง กรุงเทพ – เดลลี
ที่พัก Hotel Siam Orchid Suite
การเดินทาง บิน Indi Go
10.00 รวมพลพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จุดนัดพบ-
ชั้น 4 ประตู 5 เข้ามาด้านในแล้ว ให้หาที่นั่งรอกันแถวๆ นั้นก่อนค่ะ
เมื่อทุกท่านมากันพร้อม ทีมงานจะพาไปที่เคาน์เตอร์สายการบิน Indi Go
เพื่อ Check in บัตรโดยสารและโหลดสัมภาระ
12.40 ได้เวลาเครื่องออก มุ่งหน้าสู่สนามบินเมืองเดลลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน Indi Go ใช้เวลาเดินทาง
ประมาณ 4 ชั่วโมง (เวลาในประเทศอินเดีย ช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 1.30 ชั่วโมงพอดี)
*ค่าอาหารบนเครื่องบิน ไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์นะคะ
15.40 เดินทางถึงสนามบินนิวเดลี (New Delhi) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อย
รถมารอรับพาเข้าสู่ที่พัก
18.00 กินอาหารค่ำพร้อมกัน แล้วแยกย้ายกันพักผ่อน พรุ่งนี้เราต้องตื่นไปขึ้นรถไฟกันตั้งแต่เช้า
|

|
วันที่ 2 วันอาทิตย์
เส้นทาง เดลลี – อัมริตสาร์ (โดยรถไฟ)
ที่พัก Hotel City Heart
การเดินทาง รถไฟนั่งขบวนไฮโซ 12029 SWARNA SHTBDI และรถเช่าส่วนตัวอย่างดี
06.00 ออกเดินทางมายังสถานีรถไฟ New Delhi วันนี้เราจะนั่งรถไฟข้ามรัฐมายังปัญจาบกันค่ะ
07.20 รถไฟเคลื่อนขบวน ไม่ต้องกลัวรถไฟอินเดียกันเลย รถไฟขบวนนี้นั่งสบายดีเยี่ยมค่ะ รับประกัน มีอาหารว่าง ชา ขนม เสิร์ฟระหว่างนั่งอยู่บนรถไฟด้วย
กินอาหารเช้าแบบง่ายๆ ที่ทีมงานแพคเตรียมมาให้ค่ะ
อัมริตสาร์ หรือ “อมฤตสระ" ที่แปลว่า "สระน้ำอมฤต" (pond of nectar) อยู่ในแคว้นปัญจาบ เมืองนี้ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็กแต่เป็นเมืองของมหาเศรษฐีในสายตาชาวอินเดีย
รัฐปัญจาบ มีพื้นที่ 50,362 ตร.กม. เมืองหลวงชื่อจัณฑีกาห์ร มีประชากรประมาณ 24 ล้านคน ความหนาแน่นของประชากรประมาณ 500 คน/ตร.กม. มีเขตปกครองทั้งหมด 20 เขต และภาษาประจำรัฐ คือ ภาษาปัญจาบ รัฐปัญจาบเป็นศูนย์กลางของชาวซิกข์ โดยมีสถานที่สำคัญคือ สุวรรณวิหาร หรือวัดทอง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวซิกข์
ปัญจาบเป็นรัฐที่สวยงามรัฐหนึ่งของประเทศอินเดีย เป็นรัฐปัญหนึ่งที่มีการวางระบบผังเมืองไว้เป็นอย่างดี โดยมีการจัดโซนแยกเป็นสัดส่วนชัดเจนไม่ปะปนกัน เช่น แบ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัย เขตอุตสาหกรรม และเขตธุรกิจ เป็นต้น เป็นรัฐที่สวยงาม อากาศดี น่าอยู่อาศัย แต่ค่าครองชีพสูงไม่แพ้กรุงนิวเดลี
13.30 รถไฟนำเรามาถึงที่หมาย แล้วเข้าสู่โรงแรมที่พักโดยรถส่วนตัว พักผ่อนกันพอหายเหนื่อย แล้วออกไปหาอะไรกินกันดีกว่าหิวจะแย่อยู่แล้ว !!!!
14.30 ท้องอิ่มเท้าก็อยากจะเดิน ออกเดินทางท่องเที่ยวกันเถิด ที่อัมริตสาไม่ได้มีแค่ Golden Temple เท่านั้นแต่ยังมี Silver Temple (Durgiana Temple) อีกด้วย แวะไปชมแล้วเก็บภาพกันค่ะ
Silver Temple เป็นวัดที่สำคัญของศาสนาฮินดูท่ามกลางเมืองของชาวซิกข์ ชื่อของวัดอย่าง Durgiana Temple มาจากชื่อของเจ้าแม่ Durga ที่ชาวฮินดูนับถือ จึงสามารถเรียกวัดนี้ได้อีกอย่างว่า Lakshmi Narayan Temple วัดถูกสร้างขึ้นโดย Guru Harsai Mal Kapoor โดยเลียนแบบการก่อสร้างของวัดทอง ส่วนชื่อมาที่ว่าวัดเงินนั้นมาจากประตูทางเข้าที่สร้างด้วยเงินค่ะ
16.00 เดินทางสู่ชายแดน อินเดีย-ปากีสถาน (Wagar Boder) ณ เมืองอัตตาริ (ATTARI) ซึ่งทุกเย็นจะมีผู้คนทั้งคนอินเดียและต่างชาติเดินทางมาที่นี่ ก่อนพระอาทิตย์ตก เพื่อรอชมพิธีสวนสนามของทหารอินเดีย และทหารปากีสถาน ณ เส้นพรมแดนแบ่งแผ่นดินที่เคยเป็นผืนเดียวกัน ปัจจุบัน ณ จุดพรมแดนนี้เป็นเสมือนโรงหนังกลางแจ้งขนาดใหญ่ นำแสดงโดย ทหารทั้ง 2 ชาติ ซึ่งเป็นผู้แข่งขันกันตลอดกาล ทั้งด้านการเมือง – การทหาร ที่ยังคงมีการแข่งขันช่วงชิงความเป็นหนึ่งในทุกเย็นยามพระอาทิตย์ตกดินในพิธีลดธงปิดประตูพรมแดนระหว่างชายแดนปากีสถาน และอินเดีย
19.00 กินอาหารค่ำพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังมื้ออาหารเราจะออกไปชมความงดงามของวิหารทองคำยามต้องแสงไฟในค่ำคืน แล้วค่อยกลับมานอนฝันดีกัน
|

|
วันที่ 3 วันจันทร์
เส้นทาง อัมริตสา – ธรรมศาลา (Dharamsala) – McLeod Ganj
ที่พัก Hotel India House
การเดินทาง รถคันเดิม
07.00 กินอาหารเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 ไปชมความงดงามของวิหารทองคำกัน พระวิหารฮัรมัรดิร ซาฮิบ หรือที่รู้จักกันดีในนาม วิหาทองคำหรือสุวรรณวิหาร (GOLDEN TEMPLE) เป็นศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาซิกข์ มีความสำคัญเปรียบดัง “เมกกะ แห่งซาอุดิอาระเบีย” ที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตของชนชาวซิกข์ จะต้องมานมัสการและได้ลงไปอาบน้ำในสระอันศักดิ์สิทธิ์ ณ วิหารแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นมหาวิหารที่มีความสวยงามอร่ามไปด้วยทองคำ และยินดีต้อนรับผู้มาเยือนต่างศาสนาด้วยรอยยิ้ม
12.00 กินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารในเมือง
จากนั้นเตรียมตัวออกเดินทางสู่เมืองธรรมศาลากันเลย จากอัมริตสาไปธรรมศาลา ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร แต่เป็นเส้นทางขึ้นภูเขา รถยนต์ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ตื่นเต้นเร้าใจร่วมไปกับพลขับและเพื่อนร่วมทาง แปดล้านโค้งข้างขอบเหวรอคอยอยู่ สนุกมากๆ
20.00 ถึงธรรมศาลา เข้าโรงแรมที่พัก กินอาหารค่ำพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
นอนหลับฝันดีนะคะทุกคน พรุ่งนี้เช้าจะพาเที่ยวเมืองธรรมศาลากัน
|

|
วันที่ 4 วันอังคาร
เส้นทาง McLeod Ganj
ที่พัก Hotel India House
การเดินทาง เท้าส่วนบุคคลและรถคันเดิม
07.00 ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้าให้เรียบร้อย แล้วออกไปเที่ยวชมเมืองธรรมศาลากัน วันนี้เที่ยวกันสบายๆ เดินกันสวยๆเก๋ๆ
เมืองธรรมศาลา ตั้งอยู่บนเชิงเขาหิมาลัยในเขตรัฐหิมาจัลประเทศ เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ธรรมศาลาตอนบนหรือแม็คลอดกันจ์เป็นที่ประทับขององค์ดาไล ลามะ ประมุขและผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบตและคณะรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบต ซึ่งชาวทิเบตและชาวพุทธนิกายวัชรยาน ถือว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธ์ และหวังจะมาเยือนเพื่อคาราวะเจ้าแห่งชีวิต “องค์ดาไลลามะ” สักครั้งในชีวิต เป็นชุมชนสำคัญของชาวทิเบตอพยพที่กลายมาเป็นเสมือนบ้านหลังที่สองสำหรับชีวิตลี้ภัยยาวนานกว่าห้าทศวรรษ และยังเป็นศูนย์กลางด้านทิเบตศึกษาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งดึงดูดชาวต่างชาติทั่วโลกจำนวนมากให้แวะมาสัมผัสความเป็นจริงของชุมชนทิเบตอพยพแห่งนี้
Tsuglagkhang Complex ภายในบริเวณนี้ประกอบไปด้วย
· วัดนัมกัล (Kalachakra Temple) เป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดในธรรมศาลา เป็นศูนย์กลางของพระลามะแห่งหิมาลัย ในเมืองนี้มีพระสงฆ์นิกายมหายาน หรือพระธิเบตปฏิบัติธรรมอยู่จำนวนมาก และเป็นพระอารามหลวงใกล้ตำหนักพำนักของท่านดาไล ลามะ ผู้นำแห่งทิเบตพลัดถิ่นแล้วยังถือเป็นวัดใหญ่มีความสำคัญในแง่ของการประกอบพิธีกรรมการให้การศึกษาแก่นักเรียนพระชาวทิเบตอพยพอีกด้วย
กราบสักการะขอพรจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ Sakyamuni Buddha, Padmasambhava Buddha, Avalokiteshvara Buddha ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด
· Namgyal Gompa
· Tibet Museum
12.00 กินอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร แล้วเที่ยวกันต่อ
เดินดูความงดงามของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งสามารถเห็นวิวยอดเขาจากเมืองธรรมศาลา และชมสถานที่สำคัญในบริเวณใกล้เคียง เช่น วิหารเซนจอห์น, อนุสาวรีย์ไว้อาลัยผู้เสียชีวิต, บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมาจัลประเทศ (มหาเทพทั้งปวง), ศูนย์ปฏิบัติธรรมสำหรับชาวต่างชาติ และชาวอินเดีย, ห้องสมุดพุทธศาสนาซึ่งรวบรวมหนังสือมากมาย
19.00 กินอาหารเย็นแล้วแพ็คของใส่กระเป๋าเข้านอนในผ้าห่มอุ่นๆ พรุ่งนี้ต้องลงจากเมืองน่ารักอบอุ่นแห่งนี้เสียแล้ว
|

|
วันที่ 5 วันพุธ
เส้นทาง ธรรมศาลา - มะนาลี
ที่พัก Hotel Arohi
การเดินทาง รถคันเดิม
06.00 กินอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 ออกเดินทางสู่เมืองมะนาลี(Manali) นั่งรถไป เสียวไป สนุกไป ชมวิวไป ถ่ายรูปไป โอ๊ย..ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง
12.00 กินอาหารกลางวันแบบง่ายๆ ระหว่างทาง
16.00 ถึงเมืองมะนาลี เข้าโรงแรมที่พัก พักผ่อนกันพอหายเหนื่อย แล้วไปเที่ยวชมเมืองมะนาลีกัน
มะนาลีเป็นเมืองที่มีทิวทัศน์ของเทือกเขาที่สวยงามมาก ในฤดูหนาวมีหิมะปกคลุมเขาทุกลูก ผู้ชื่นชอบกีฬาสกีมักมาฝึกเล่นที่เมืองนี้ และยังเป็นเมืองที่คู่รักใช้เป็นที่ฮันนีมูนอีกด้วย มีเรื่องเล่าของชื่อเมืองนี้เป็นตำนานสืบต่อกันมาว่า Manali แปลว่า Home of Manu, Manu เป็นคนเดียวในเทพนิยายของศาสนาฮินดูที่รอดชีวิตจากอุทกภัยครั้งใหญ่ เขาเดินทางมาถึงเมืองมะนาลีและสร้างมวลมนุษย์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
- Dhungri Temple สร้างขึ้นเพื่อบูชา Hadimba Devi เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในมะนาลี หน้าตาคล้ายวัดแบบญี่ปุ่น แต่เป็นวัดฮินดูตั้งอยู่กลางป่าสน
- Vashisht temple วัดฮินดู ที่มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ในบริเวณวัด และมีนักบวชชาวไทย ชื่อ Bamboo baba แกอยู่ที่นี่มานานหลายสิบปี ต้องฝึกภาษาฮินดี ศึกษาศาสนาฮินดูจนสำเร็จเป็น Baba ได้
19.00 กินอาหารค่ำพร้อมกันที่ร้านอาหาร แล้วแยกย้ายกันนอนหลับพักผ่อนเก็บแรงไว้เที่ยวมะนาลีต่อในวันพรุ่งนี้
|

|
วันที่ 6 วันพฤหัสบดี
เส้นทาง มะนาลี
ที่พัก Hotel Arohi
การเดินทาง รถคันเดิม
07.00 รับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน แล้วเตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม วันนี้เราจะไปเล่นหิมะและสัมผัสอากาศเย็นยะเยือกกันที่ Rohtang Pass แล้วแวะเที่ยวที่ Solang Valley ก่อนกลับเข้ามะนาลี
- เล่นหิมะ ถ่ายรูป และสนุกสนานกันตามอัธยาศัย
12.00 รับประทานอาหารกลางวันแบบง่ายๆ ที่ Rohtang Pass
ช่วงบ่าย ระหว่างทางกลับเข้าเมืองมะนาลี เราจะแวะเล่นกิจกรรมพาดโพนกันนิดหน่อย
สนุกสนานกับกีฬาเอ็กซ์ตรีมเร้าใจสร้างสีสันใหม่ๆให้ชีวิตอย่าง Zorbing และ Paragliding ใครที่ไม่อยากเล่นแค่วิ่งเล่นในสนามหญ้าเพลิน นั่งดูวิวชิลล์ๆ เห็นคนอื่นเค้าเล่นก็เพลินไปอีกแบบค่ะ
Zorbing หรือ ซอฟบอล (Zorb) การเล่นก็ไม่ยาก เพียงแต่ต้องเข้าไปอยู่ในลูกบอลลูกโต ภายในมีอากาศให้หายใจได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวหายใจไม่ออก จากนั้นทีมงานเขาจะปล่อยลูกบอลที่เราอยู่ข้างในเนี่ยแหละกลิ้งลงมาจากเนินเขา เพื่อให้ลูกบอลลื่นไหลไปมาอย่างอิสระ เล่นทีละ 2 คน โดยผู้เล่นจะนั่งหันหน้าเข้าหากันด้วยระยะทางกว่า 100 เมตร คุณจะได้เกลือกกลิ้งไปมาอุตลุดอย่างสบายอารมณ์ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เกมนี้ชอบกันมากมาย สนุกที่สุด
Paragliding (ร่มร่อน) กิจกรรมเหิรฟ้ามหาสนุก กีฬาทางอากาศที่นักกีฬาจะมี ร่มติดอยู่ที่หลัง และมีครูฝึกประกบด้วย ปล่อยตัวเองลงจากผาสูง ในช่วงที่ลมพัดอย่างเหมาะสมบังคับตัวเอง ให้ร่อนอยู่บนท้องฟ้า และ ลงจอดบนพื้นตามจุดที่กำหนด หนึ่งในกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้รักความตื่นเต้น
19.00 กินอาหารค่ำมื้ออำลามะนาลี พรุ่งนี้เช้าเราจะออกเดินทางสู่ชิมลากัน
|

|
วันที่ 7 วันศุกร์
เส้นทาง มะนาลี – ชิมลา
ที่พัก Hotel.......
การเดินทาง รถคันเดิม
07.00 รับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน แล้วเตรียมตัวออกเดินทางไกลอีกครั้ง เราจะไปชิมลากัน จากมะนาลีไปชิมลา ระยะทางประมาณ 260 กิโลเมตร ระหว่างทางแวะชมเมืองคุลลู Kullu ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศของเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาสูงทอดยาวจากเทือกเขาหิมาลัย และโอบล้อมด้วยแม่น้ำสายใหญ่ 2 สาย คือแม่น้ำ Beas และแม่น้ำ Kullu จึงทำให้เมืองคุลลู(Kullu) เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามตลอดปี
12.00 กินอาหารกลางวันระหว่างทาง
16.00 ถึงเมืองชิมลา เก็บของเข้าที่พัก แล้วออกไปเดินเที่ยวในเมืองกัน
ชิมลา (SHIMLA) เป็นเมืองหลวงของ รัฐหิมาจัลประเทศ (HIMACHAL PRADESH) เป็นอีกรัฐหนึ่งที่อยู่ในเขตเทือกเขาหิมาลัย เป็นรัฐชายแดนของอินเดียที่มีพื้นที่ติดต่อกับทิเบตในทิศตะวันออก เมืองชิมลา เป็นเมืองที่มีความเป็นสหราชอาณาจักรแทรกซึมอยู่มากมาย ทั้งสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเมือง เป็นที่รู้จักในชื่อเมืองแห่งรีสอร์ท “Hill Resort” เป็นสถานที่ตากอากาศของชาวอินเดียเพราะอากาศดีในฤดูร้อน และทัศนียภาพสวยงามมากในฤดูหนาว นอกจากนั้นในฤดูใบไม้ผลิยังสะพรั่งด้วยดอกไม้หลากสีสันนานาพันธุ์ ทำให้เมืองชิมลาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- ไปเดินเล่นที่ถนน MALL ถนนเส้นหลักของเมือง และเป็นแหล่งที่ทุกคนมาถึงชิมลาต้องแวะไปเดินเล่นหรือซื้อของ เพราะมีร้านขายของ ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม และของที่ระลึกต่างๆ มากมาย รวมทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งเช่น โบสถ์คริสต์ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2386 เป็นสถาปัตยกรรมแนวโกธิคที่ประดับด้วยกระจกสีสรรต่างๆ อย่างสวยงาม นอกจากนี้ก็มีอาคารเก่าแก่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแนวอาณานิคม รวมไปถึงสถานที่ทำการของเทศบาลเมืองชิมลา
- ลานซุบซิบ (Scandal point) เป็นที่นิยมของหน่มุสาวอินเดียมาแต่โบราณ แรงดึงดูดของลานซุบซิบถึงขนาดมหาราชายังต้องเดินทางเข้ามาซึมซับบรรยากาศด้วยตนเอง จนได้รับการกล่าวขานทั่วเมือง
19.00 กินอาหารค่ำพร้อมกันที่ร้านอาหารในเมือง แล้วพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
|

|
วันที่ 8 วันเสาร์
เส้นทาง ชิมลา - เดลลี
ที่พัก พักผ่อนกันบนรถไฟ
การเดินทาง รถคันเดิมและรถไฟปรับอากาศอย่างดี
07.00 รับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน แล้วไปเที่ยวชิมลากันเลย
- ไปยังเทือกเขาคูฟรี (KUFRI) หมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากชิมลาไปราว 16 กิโลเมตร มีโรงแรมเล็กๆ และร้านอาหารเป็นจุดชมวิวหิมาลัยที่ไม่ไกลจากชิมลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เป็นสถานที่ที่ชาวอินเดียนิยมใช้เป็นที่พักตากอากาศและฝึกเล่นสกี มีภูมิประเทศอยู่เหนือระะดับน้ำทะเล 2,500 เมตร
ระหว่างทางแวะดูบ้านพักประธานาธิบดีของอินเดีย และทิวทัศน์ของเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเป็นแนวยาวตลอดทั้งเขา
- เมืองคะซอลี (KASAULI) ตั้งอยู่ห่างชิมลาราว 30 กิโลเมตร ไปชมวัด Hanuman Temple ที่เขา Jakhoo เป็นที่อาศัยของฝูงลิงตามตำนานที่ว่าเป็นทายาทของพญาหนุมารวานร ครั้งที่ได้เหาะเหินเดินอากาศมาแวะพักที่นี่ ที่นี่จึงมีโบสถ์จาคู (JAKHU) ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุด 2,450 เมตร ในชิมลา เพื่อบูชาหนุมาน แต่สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการมาเที่ยวที่นี่คือแว่นตา หมวก กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสิ่งของต่างๆ เพราะลูกหลานหนุมานที่นี่มือไวมากๆ
12.00 กินอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารระหว่างทาง แล้วกลับมาเตรียมตัวแพ็คของกลับบ้านกัน
- ออกจากโรงแรมแล้วไปแวะดูพิพิธภัณฑ์ของรัฐที่มีสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับจิตกรรมฝาผนัง รูปปั้น ประติมากรรมหิน งานไม้ งานเขียน ประวัติความเป็นมาของรัฐ และเครื่องประดับต่างๆ ของชนพื้นเมือง
- แล้วออกเดินทางไปสถานีรถไฟกัลกากันเลย (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)
17.45 ได้เวลารถไฟขบวน 12012 Kalka Shtbdi เคลื่อนออกจากสถานีกัลกา (Kalka) มุ่งหน้าสู่นิวเดลี
19.00 กินอาหารค่ำที่แพ็คมาจากชิมลากันบนรถไฟ แล้วพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
21.55 ถึงสถานีนิวเดลี แล้วต่อรถไปสนามบินกันเลย
23.00 ถึงสนามบิน หลับรอเวลาเคาน์เตอร์เปิดให้ Check in ได้บัตรโดยสารและโหลดสัมภาระแล้ว ก็รอเวลาขึ้นเครื่องกลับบ้านกัน
|

|
วันที่ 9 วันอาทิตย์
เส้นทาง เดลลี - กรุงเทพ
ที่พัก งีบบนเครื่องแล้วกลับไปนอนต่อที่บ้านเรากัน
05.35 บอกลาอินเดีย ออกเดินทางกลับสู่มาตุภูมิ โดยสายการบิน Indi Go เที่ยวบินที่ 6E41 กลั้นน้ำตาอย่าร้องไห้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเที่ยวอีกเมื่อไร ชอบอินเดียที่สุดเลย....
11.20 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับมุมมองใหม่ๆ ในโลกใบเดิมโลกที่แคบลงเสมอเมื่อการเดินทางสิ้นสุด....สวัสดีเมืองไทย
|

|
หมายเหตุ: โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของช่วงเวลาและสถานการณ์เฉพาะ
|

|
มีภาพการเดินทางในทริปที่ผ่านมา มาฝากกันด้วย
|
คลิก  |
ตอนเราไปเที่ยวกัน "7-15 เมษายน 2552"
|
|
  
|

|
ค่าเดินทาง
1.
|
ค่า "ทริปเดินทาง"
|
|
XX,XXX-
|
บาท
|
|
(ไม่รวม "ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน")
|
|
|
|
|
__ |
|
|
|
2.
|
ค่า "ตั๋วเครื่องบิน ธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน"
|
|
XX,XXX-
|
บาท*
|
|
(* ราคานี้เป็นราคาโดยประมาณ ณ วันที่ 31 ม.ค. 55 ซึ่งราคาอาจเปลี่ยนแปลง ณ วันที่ออกตั๋วเครื่องบิน ถ้าตั๋วปรับราคาขึ้น เราจำเป็นต้องเก็บค่าตั๋วเพิ่มตามราคาที่ออกตั๋วจริง หรือใครสะดวกจะจองตั๋วเองก็ได้ค่ะ กรุณาโทรมาสอบถามและเช็คตั๋วเครื่องบินก่อนนะคะ)
|
|
|
|
|
__ |
|
|
|
|
รวม
|
|
XX,XXX-
|
บาท
|
|
(ต้องการนอนเดี่ยว- กรุณาโทรสอบถามราคาค่ะ)
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ส่วนลดพิเศษ
|
|
|
|
|
- จองตั๋วเครื่องบินเอง ลด XX,XXX บาท
|
|
|
|
|
- ทำวีซ่า อินเดีย ลด 2,000 บาท
|
|
|
|
|
- เคยเดินทางกับ วันแรมทาง ลด 500 บาท
|
|
|
|
|
.
|
|
|
|
|
ราคานี้รวม
|
|
|
|
|
- ค่าตั๋วเครื่องบิน สายการบิน Indi Go กรุงเทพฯ-เดลลี-กรุงเทพฯ
|
|
|
|
|
- ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ไทย-อินเดีย
|
|
|
|
|
- ค่าวีซ่าอินเดีย
|
|
|
|
|
- อาหารมื้อหลักทุกมื้อ รวม ชา กาแฟ ของหวาน และผลไม้
|
|
|
|
|
- ค่าน้ำดื่ม (น้ำเปล่าบรรจุขวด) ไม่จำกัดจำนวน
|
|
|
|
|
- ที่พักโรงแรมน่ารักๆ ห้องละ 2-3 ท่าน + ห้องน้ำในตัว
|
|
|
|
|
- ค่ารถตลอดเส้นทาง
|
|
|
|
|
- ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ
|
|
|
|
|
- ค่าหัวหน้าทัวร์คนไทย และไกด์ท้องถิ่น
|
|
|
|
|
- ค่าประกันอุบัติเหตุวงเงิน 2,000,000 บาท
|
|
|
|
|
.
|
|
|
|
|
ราคานี้ไม่รวม
|
|
|
|
|
- ค่าอาหารบนเครื่องบิน Indi Go |
|
|
|
|
- ค่าทิป สำหรับไกด์ พนักงานขับรถ พนักงานบริการ
|
|
|
|
|
- ค่ากล้องถ่ายรูป และค่ากล้องวีดีโอ
|
|
|
|
|
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ
|
|
|
|
|

|
วิธีการสมัคร
1. แจ้งเรื่องไว้ในติดต่อสอบถามด้านล่างของบนความนี้ พร้อมเบอร์ติดต่อกลับด้วยนะคะ
หรือ โทรเข้ามาพูดคุยสอบถามได้เลยค่ะที่หมายเลข 0-2405-4561
มือถือ 08-7699-7475 (DTAC) , 08-1692-8233 (DTAC), 08-9811-9139(AIS),
วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 09.00 - 18.00 น.
2. ส่งแฟกซ์ ใบจองทริป ไปที่หมายเลข 0-2405-4560
โดยใช้แบบฟอร์ม ใบจองทริป นี้ คลิกที่นี่ PDF / คลิกที่นี่ WORD ได้เลยค่ะ
3. ส่งแฟกซ์ สลิปหรือสำเนาใบโอนเงิน ไปที่หมายเลข 0-2405-4560
โพสต์ข้อความแจ้งไว้ในกระทู้
|

|
การชำระเงิน
1) จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน จำนวน XX,XXX บาท (ราคาโดยประมาณ) ทันทีที่จอง
หากต้องการให้เราจองตั๋วให้ด้วย จ่ายค่าตั๋วตามจริง ณ วันที่ออกตั๋ว
ซึ่งอาจจะถูกกว่าหรือแพงกว่า XX,XXX บาท ขึ้นอยู่กับราคาตั๋วในแต่ละช่วงค่ะ
(กรุณาโทรถามราคาก่อนโอนเงิน)
2) จ่ายค่ามัดจำทริป จำนวน 5,000 บาท ทันทีที่จอง
3) จ่ายส่วนที่เหลือ จำนวน XX,XXX บาท ภายใน 30 วันก่อนเดินทาง
(กรุณาโทรตรวจสอบยอดเงินก่อนโอนงวดสุดท้าย)
โอนเข้าบัญชีชื่อ.. นางสาวชนิตา กัลยาณมิตร
ธนาคารกสิกรไทย
สาขา เซ็นทรัล พระรามที่ 2
บัญชีออมทรัพย์
เลขที่ 743-2-71576-5
|

|
เงื่อนไขการให้บริการสำหรับทริป อินเดีย
|

|
|

|
คำแนะนำ
ภูมิอากาศ
ช่วงที่เราเดินทางกันนี้ อาจมีฝนตกและอากาศเย็นค่ะ
อุณหภูมิตอนกลางวันประมาณ 15-20 องศา ถ้าแดดแรงก็อาจจะเริ่มร้อนค่ะ
ส่วนตอนเช้าและกลางคืน อุณหภูมิจะเย็นลง อยู่ที่ประมาณ 5-10 องศา
พื้นที่บนเขา อากาศเย็นจัด 0-5 องศา
เวลา
ช้ากว่าไทย 1.30 ชม.
ค่าเงิน
100 รูปีอินเดีย เท่ากับ 65-70 บาท โดยประมาณค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียมไป
หมวกกันแดดหรือร่ม, ผ้าปิดจมูกกันฝุ่น, ยาทากันยุง (กลางคืนยุงค่อนข้างเยอะค่ะ), ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น, ฟิล์มถ่ายภาพ, ปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ของกล้องดิจิตอล, ปลั๊กแปลงขาเสียบ
เสื้อผ้า
- อากาศเย็น และหนาวตอนเช้าตอนค่ำ เตรียมเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์กันหนาว ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ผ้าพันคอไปด้วยค่ะ
- หมวกกันแดด เผื่อไปด้วยนะคะ กลางวันบางวันแดดแรงค่ะ
รองเท้า
- ใช้ผ้าใบ หรือ บูท ก็ได้ แล้วแต่สะดวก แต่ควรจะเตรียมถุงเท้าหนาๆ ไปด้วยค่ะ
อุปกรณ์ส่วนตัว
-พวกแชมพู สบู่ ยาสีฟัน หมวกคลุมผม อะไรพวกนี้ เตรียมไปด้วยนะคะ ที่โรงแรมมีให้บ้าง ไม่ให้บ้างค่ะ
-ผ้าเช็ดตัว เผื่อไปด้วยนะคะ เพราะของโรงแรม สีตุ่นๆ แข็งและหยาบมาก ดังนั้นควรเตรียมกันไปเองคะ
-อากาศที่อินเดียค่อนข้างแห้ง ควรเตรียมโลชั่นทาผิว และลิปมันไปด้วยนะคะ
ปลั๊กไฟ
- เตรียม adapter ส่วนตัวไปด้วย เพราะที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ปลั๊กกลม ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่าน (โดยเฉพาะที่ charge กล้อง) เป็นแบบแบนจะหาที่เสียบยากหน่อยและหาสามตาอันเล็กๆ ติดไปด้วย เพราะถ้าต้องชาร์จหลายคนจะได้ไม่มีปัญหา
ถุงนอน หรือ ผ้า
- ผ้าปูที่นอน หรือผ้าห่มที่ทางโรงแรมจัดเตรียมให้ อาจจะไม่สะอาดเอี่ยม อาจจะมีกลิ่นอับ ถ้าจะให้อุ่นใจอาจจะหาผ้าบางๆเป็นผ้าสารพัดประโยชน์ ติดไปสักผืน ใช้รองนอน ใช้ปูนอน หรือใช้ห่มตามแต่สะดวก หรืออาจจะหาถุงนอนส่วนตัว ติดไปสักผืนก็ได้ค่ะ
|

|
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
|
ที่อยู่
|
"บ้านวันแรมทาง"
1/60 ซ.อนามัยงามเจริญ 12 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150
แผนที่ "บ้านวันแรมทาง" << คลิกที่นี่ค่ะ
|
โทรศัพท์ (สำนักงาน)
แฟกซ์ (สำนักงาน)
มือถือ (ปลา)
มือถือ (นุ้ย)
มือถือ (สำนักงาน)
|
0-2405-4561
0-2405-4560
08-9811-9139 (AIS)
08-1692-8233 (DTAC)
08-7699-7475 (DTAC)
|
Email
|
info@wanramtang.com
|
วันทำงาน
เวลา
|
วันจันทร์-วันศุกร์
09.00- 18.00 น.
|
ติดต่อ
|
เวลางาน: โทรเข้าสำนักงาน ติดต่อใครก็ได้ค่ะ
นอกเวลางาน: โทรมือถือ "ปลา" หรือ "นุ้ย" ได้เลยนะคะ
|
หรือ คลิกไปที่ >>
|

|
|

|

ถ้าสั่งพิมพ์ไม่ได้ กรุณาโทรแจ้ง 02-405-4561, 08-1692-8233
หรือส่ง email แจ้งขอโปรแกรมได้ที่ info@wanramtang.com ขอบคุณค่ะ
  
|

|