อัพเดทโปรแกรม 20/7/2561 |
|
|
|
Royal Rajasthan |
กรุงเทพ ชัยปุระ พุชการ์ บิคาเน่ย์ จัยซัลเมียร์ แมนวาแค้มป์กลางทะเลทราย
โยธะปุระ รานัคปุระ เมาท์อาบู อุทัยปุระ จิตตอร์กาห์ มุมไบ กรุงเทพ
|
9-20 พฤศจิกายน 2561 |
12 วัน 10 คืน |
เปิดรับ 10 ท่าน *ออกเดินทางแน่นอน |
|
|
119,000
บาท |
|
|
|
อินเดีย เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก มีความหลากหลายในทุกๆด้าน และมีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจชวนให้ค้นหาไม่รู้จบ นอกจากชื่อเสียงด้านความงดงามเป็นเลิศของ พระราชวังโบราณ โบสถ์วิหาร และมนต์ขลังแห่งศาสนสถานสำคัญ ที่มีอายุนับร้อยนับพันปีแล้ว นาฏลีลา ศิลปะ และดนตรีของอินเดีย ก็โดดเด่นไม่เป็นรองใคร ทั้งภูมิประเทศ ที่หลากหลายและสวยงาม รวมไปถึงภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ทำให้อินเดียเป็นจุดหมายของนักเดินทางจากทั่วโลกที่จะมุ่งมาเยือน เราจะเป็นอีกกลุ่มนักเดินทางกลุ่มเล็กๆ ที่จะไปสัมผัสเสน่ห์ของอินเดียด้วยตัวเอง จุดหมายอาจจะอยู่ไกล แต่รายทางก็มีอะไรดีๆ ให้ได้สัมผัสไม่น้อย เปิดใจกว้างๆ แล้วไปท่องแดนภารตะด้วยกัน
“โปรแกรมเดินทาง ไม่มีเวลากำหนดตายตัว ยืดหยุ่นได้ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ไม่เร่งไม่รีบ”
|
|
จุดนัดพบ
สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 บริเวณที่นั่งหน้าประตู
เวลา 18.00 น. (หกโมงเย็น)
|
|
โปรแกรมการเดินทาง |
|
DAY 01 |
วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
bangkok - jaipur |
เดินทาง |
bkk-jaipur นั่งเครื่องประมาณ 4 ชม 40 นาที
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Trident Jaipur (5 ดาว) , JAIPUR
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
โรงแรมหรู น่ารัก
ต้อนรับคืนแรกสู่อินเดีย |
|
|
|
เริ่มโปรแกรมทัวร์-
18.00 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เมื่อทุกท่านมากันพร้อม ทีมงานจะพาไปที่เคาน์เตอร์สายการบิน เพื่อเช็คอินบัตรโดยสารและโหลดสัมภาระ
*สามารถโหลดกระเป๋าได้หนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม
เช็คอินเสร็จแล้ว แยกย้ายกันเข้าด้านใน ผ่าน ตม. รอขึ้นเครื่องพร้อมกัน |
เที่ยวบิน |
ระหว่างประเทศ
|
WE343 |
สายการบินไทยสมายล์ |
|
กรุงเทพ-ชัยปุระ |
|
เวลา 22.05-01.15 |
|
|
|
22.05 น. ได้เวลาเครื่องออก เดินทางสู่ประเทศอินเดีย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 40 นาที *กินอาหารค่ำบนเครื่องบิน
01.15 น. ดึกดื่นค่อนคืน เดินทางถึงอากาศยานนานาชาติชัยปุระ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
|
|
|
ปลา' Tour Leader พาเที่ยว |
ลักษณะรถปรับอากาศ AC Mini Coach สำหรับคณะนี้ |
|
จากนั้นขึ้นรถปรับอากาศ เข้าสู่โรงแรมที่พัก
แล้วรีบเข้านอนเก็บแรงไว้ไปสัมผัสเสน่ห์ของอินเดียแบบเต็มๆในวันรุ่งขึ้น |
|
DAY 02 |
วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
jaipur - pushkar |
เดินทาง |
ประมาณ 150 กม. นั่งรถ 2-3 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Pushkar Palace
(Heritage Hotel) , PUSHKAR
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
ที่นี่ไม่ใช่ 4-5 ดาว แต่ก็น่าพักที่สุดในเมืองนี้
วังเก่า ริมทะเลสาบ สวยงาม มีสไตล์ |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า
ท้องอิ่มเรียบร้อย ออกไปตะลุยเมืองชัยปุระ กันเลย
นครชัยปุระ (Jaipur) นครแห่งชัยชนะ หรือ “นครสีชมพู” ชัยปุระเป็นเมืองหลวงของรัฐราชสถาน ซึ่งได้รับการออกแบบวางผังเมืองอย่างสวยงาม เป็นเมืองที่สร้างขึ้นใหม่โดยท่านมหาราชา ไสว ชัย สิงห์ ที่ 2 เป็นชุมชนศิลปินและช่างฝีมือ มีชื่อเสียงด้านการผลิตสินค้าหัตถกรรมหลากหลายชนิด ชัยปุระได้รับสมญานาม “นครสีชมพู” (Pink City) เพราะเมืองถูกทาสีชมพูเพื่อต้อนรับการเสด็จเยือนของ Prince of Wale ซึ่งต่อมาคือ King Edward VII แห่งสหราชอาณาจักร
|
|
|
วังสายลม Hawa Palace - ชัยปุระ |
ป้อมปราการแอมเบอร์ Amber Fort - ชัยปุระ |
|
เริ่มต้นด้วย แวะถ่ายรูปที่ พระราชวังสายลม (Palace of the Wind) วังเดิมที่ปัจจุบันตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง จุดที่จะชมพระราชวังนี้ได้ดีที่สุด คือต้องข้ามถนนไปยืนชมจากฝั่งตรงข้าม
จากนั้นไปต่อที่ พระราชวังแอมเบอร์ (Amber Palace) ซึ่งเป็นป้อมปราการด้วย จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ป้อมปราการแอมเบอร์ (Amber Fort) ในห้องต่างๆของพระราชวังแอมเบอร์ ตกแต่งด้วยการแกะสลักลวดลายเครือเถาและฝังกระจกชิ้นเล็กๆ สะท้อนแสงสีที่แตกต่างและให้ภาพที่สวยงามแปลกตา
จากนั้นแวะเที่ยวกันที่ พระราชวัง City Palace มหาราชา ไสว ชัย สิงห์ ที่ 2 ได้ย้ายเมืองหลวงจากพระราชวังแอมเบอร์ มายัง “ชัยปุระ” และได้สร้างพระราชวังขึ้นใหม่ ใจกลางเมือง ปัจจุบันเรียกว่า City Palace ภายในเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงของใช้ส่วนพระองค์ของมหาราชาแห่งเมืองชัยปุระ City Palace แห่งนี้เป็นสมบัติส่วนพระองค์ ชาวเมืองชัยปุระบางส่วนยังนับถือพระองค์อยู่แม้พระองค์จะไม่มีอำนาจใดๆ แล้วก็ตาม
เที่ยง- กินอาหารกลางวัน
จากนั้นเดินทางสู่สถานที่พิเศษในทางจิตวิญญาณ เมืองพุชการ์
*ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง
เย็นถึงค่ำ- ถึงพุชการ์ เข้าสู่โรงแรมที่พัก แล้วไปเดินเล่นกัน เมืองนี้ตลาดน่าเดิน ถ้าจะเปรียบแล้วที่นี่ก็เหมือนกับ “ตลาดทาเมล” ที่เนปาล shopping ในตลาดตามสมควรกับเวลา กินอาหารค่ำ พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
หมายเหตุ- พุชการ์ เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ เมืองนี้เคร่งศาสนา อาหารจะเป็นเจ Pure Veg ไม่มีแม้กระทั่งไข่ ไม่แนะนำให้แอบเอาอาหารเสริมที่เป็นเนื้อสัตว์ ไปกิน มันบาปมาก และถ้ามีใครเห็น เค้าจะไม่พอใจ
|
|
DAY 03 |
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
pushkar - bikaner |
เดินทาง |
ประมาณ 250 กม. นั่งรถ 5-6 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Narendra Bhawan
(Heritage Hotel) , BIKANER
อีกหนึ่งพระราชวังที่กลายมาเป็นโรงแรม
ได้คะแนน ดีเลิศ 9.4 จาก Booking.Com |
|
|
|
06.00 น. ตื่นแต่เช้า ออกไปดู ทะเลสาบพุชการ์ ต้องแสงอาทิตย์ยามเช้า เดินไปชมความงามรอบทะเลสาบ และความน่าสนใจอื่นๆ ในเมืองพุชการ์ อย่างเช่น วัดพระพรหม พุชการ์ Pushkar เป็นเมืองเล็กๆ แต่เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ซึ่งมีผู้คนเดินทางมาแสวงบุญอยู่เป็นประจำทำนองเดียวกับแม่น้ำคงคา ชาวฮินดูมักมาทำพิธีชำระล้างบาปที่ท่าน้ำ (Ghat) ซึ่งอยู่โดยรอบ ทะเลสาบพุชการ์ (Pushkar Lake) อันเป็นบริเวณที่เชื่อกันว่ากำเนิดขึ้นจากการที่พระพรหมทิ้งดอกบัวลงมาบนพื้นโลก ว่ากันว่าในเมืองพุชการ์นี้เป็นที่ตั้งของวัดพระพรหมแห่งเดียวในประเทศอินเดีย
08.00 น. กลับมากินอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
ให้เวลาอิสระ เดินเล่นสบายๆ ตามอัธยาศัย ในเมืองพุชการ์
เที่ยง- กินอาหารกลางวัน
แล้วเดินทางต่อไปเมือง บิคาเน่ย์ (Bikaner)
*ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง
|
|
|
ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ - Pushkar |
ทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์ - Pushkar |
|
เย็นถึงค่ำ- ถึงบิคาเน่ย์ เข้าสู่โรงแรม กินอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
DAY 04 |
วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
bikaner - jaisalmer |
เดินทาง |
ประมาณ 330 กม. นั่งรถ 7-8 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Suryagarh
(5 ดาว Grand Heritage Hotel) , JAISALMER
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
ที่นี่ไม่ใช่ 5 ดาว แต่หรูหราระดับมหาราชา
โรงแรมสีทอง พักชิวๆกัน 2 คืนเต็ม |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า อิ่มแล้วไปเที่ยวต่อกันเลย
เริ่มต้นด้วย ป้อมปราการ Junagarth ป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเน่ย์ ถูกสร้างขึ้นโดย Rao Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมืองจนสามารถตั้งถิ่นฐาน แม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้ง แต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้านรวมทั้งความกล้าหาญของนักรบช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ป้อม Junagarth คือวังมหาราชา ที่อยู่ในสภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งในราชสถาน ภายในป้อมปราการเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราว ต้องไปดูด้วยตาตัวเองว่า ความงามเหนือคำบรรยายแห่งบิคาเน่ย์ นั้นเป็นเช่นไร |
|
|
สีสัน ณ ป้อมสีแดง - บิคาเน่ย์ |
ห้องเมฆา ณ ป้อมสีแดง - บิคาเน่ย์ |
|
เดินเที่ยวดูสถานที่สำคัญภายใน ป้อมปราการ Junagarth เช่น
รอยฝ่ามือจารึกใกล้ประตูสุริยา (Sun Gate) บ่งบอกถึงผู้หญิงผู้สมัครใจทำพิธี “สตี” (Sati) ปลิดชีพตัวเองตายตามสามีผู้จากไปในสงครามป้องกันเมือง
บังลังค์ไม้จันทน์ อายุเกือบหนึ่งพันปี เป็นเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย
ตำหนักเมฆา (Badal Mahai) ภายในตกแต่งด้วยภาพวาดเมฆและท้องฟ้า
ตำหนักดอกไม้ (LalMahai) ภายในประดับด้วยภาพวาดดอกไม้นานาพันธุ์
ตำหนักจันทรา (Chandra Mahai) ตำหนักวายุ (Hawa Mahai)
ท้องพระโรง ดิวันอิอัม (Diwan-i-Aam) Hall of Public Audience สถานที่ออกขุนนางชั้นนอก , ท้องพระโรง ดิวันอิคาส (Diwan-i-Khas) Hall of Private Audience สถานที่เข้าเฝ้าชั้นใน
เที่ยง- กินอาหารกลางวัน แล้วเดินทางสู่เมืองจัยซัลเมียร์ (Jaisalmer)
*ระยะทางประมาณ 330 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 7-8 ชั่วโมง
เย็นถึงค่ำ- ถึงจัยซัลเมียร์ เข้าสู่โรงแรม กินอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย
|
|
DAY 05 |
วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
jaisalmer |
เดินทาง |
นั่งรถเที่ยวในเมือง
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Suryagarh
(5 ดาว Grand Heritage Hotel) , JAISALMER
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
ที่นี่ไม่ใช่ 5 ดาว แต่หรูหราระดับมหาราชา
โรงแรมสีทอง พักชิวๆกัน 2 คืนเต็ม |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า อิ่มแล้วไปเที่ยวต่อกันเลย
จัยซัลเมียร์ (Jaisalmer) เมืองชายแดนติดพรมแดนปากีสถาน ตั้งอยู่ในเขตทะเลทราย ธาร์ (Thar Desert) บ้านเรือนสร้างด้วยหินทรายสีเหลืองนวล โดยเฉพาะป้อมปราการประจำเมือง Jaisalmer Fortเป็นที่มาของสมญา The Golden City เมืองจัยซัลเมียร์ (Jaisalmer) ก่อร่างสร้างอาณาจักรขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1156 โดย ราว จัยซาล (Rao Jaisal) และยังเชื่อกันว่าราชบุตรแห่งจัยซัลเมียร์ สืบเชื้อสายมาจากพระกฤษณะ อาณาจักรกลางทะเลทรายแห่งนี้ สร้างฐานะจากการเก็บภาษี ค่าผ่านทางจากกองคาราวานสินค้าผ้าไหม และเครื่องเทศ สิ่งที่ต่างจากเมืองอื่นๆ ในราชสถานคือภายในป้อมปราการโบราณ แห่งจัยซัลเมียร์ยังคงเป็นเมืองเก่าที่มีชีวิต เพราะยังมีผู้คนตั้งบ้านเรือนอาศัยกันอยู่จนปัจจุบัน |
|
|
ชาวจัยซัลเมียร์ |
จัยซัลเมียร์ ฟอร์ท ป้อมปราการสีทอง |
|
ไปเที่ยว Jaisalmer Fort ป้อมปราการสีทอง ที่ยังคงมีชีวิต เดินเที่ยวในป้อมปราการอันกว้างใหญ่ ที่นี่มีสินค้าพื้นเมืองที่น่าซื้อมากมาย บางอย่างอาจจะแพงแต่ก็หาซื้อไม่ได้ในที่อื่น ใช้เวลาช่วงเช้าที่นี่ แบบไม่รีบเร่ง เที่ยวก่อน แล้วจะให้เวลาเดินช้อปปิ้งกันเต็มที่ ภายในยังมีสถานที่ท่องเที่ยว น่าสนใจมากมาย วัดเชน Jain Temple วิหารในศาสนาเชนสร้างด้วยหินสีเหลือง ที่อยู่ภายใน Jaisalmer Fort
เที่ยง- กินอาหารกลางวัน อิ่มแล้วเดินเที่ยวต่อในช่วงบ่าย
ไปกันที่ Havali ปราสาทหินทราย เป็นบ้านพักคหบดี ขุนนางเศรษฐี ในสมัยโบราณ ตัวบ้านแกะสลักจากหินทราย ตกแต่งอย่างงดงาม แล้วกลับโรงแรม
เย็นถึงค่ำ- กินอาหารค่ำ พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
|
|
DAY 06 |
วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
jaisalmer - sand dune |
เดินทาง |
ประมาณ 185 กม. นั่งรถ 3-4 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Manvar Resort and Camp
(resort and camp), JODHPUR
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
เต็นท์พักแรม สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า
ก่อนออกเดินทางจากเมืองจัยซัลเมียร์ แวะไปเที่ยว ทะเลสาบกาดซิซาร์ Gadsisar Lake จัดเป็นโอเอซิสขนาดใหญ่ ท่ามกลางทะเลทราย สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซี ราว 600 ปี มาแล้ว ทะเลสาบเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชาวเมืองในอดีต ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว |
|
|
ทะเลสาบกาดซิซาร์ Gadsisar Lake |
ซุ้มประตูที่ ทะเลสาบกาดซิซาร์ |
|
แล้วมุ่งหน้าสู่เขต ทะเลทราย Sand Dune ในเขตเมืองโยธะปุระ (Jodhpur)
*ระยะทางประมาณ 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
เที่ยง- เดินทางถึงจุดลงทะเบียน เพื่อเข้าพักที่แคมป์
กินอาหารกลางวัน พักผ่อนสักครู่ แล้วนั่งรถจี๊ปเข้าสู่ แคมป์ที่พักแรม ของเรา |
|
ห้องนอน
ภายในแคมป์ของเรา
สะอาดมาก
หรูเลิศมาก |
|
ห้องน้ำ
ทุกอย่างพร้อม
ฝักบัว อ่างล้างหน้า
ชักโครกเอี่ยม
ไม่ต่างกับพักโรงแรม |
|
|
|
|
นั่งรถจี๊ปเข้าสู่แค้มป์ที่พัก |
ที่พักแรมของเราคืนนี้ |
|
ระหว่างทาง นั่งรถชมบรรยากาศทะเลทราย วิถีชีวิตชาวบ้าน สามารถพบเห็น นกยูง ที่มีอยู่มากมาย และ ตัวนิลกาย สัตว์ป่าหายาก |
|
|
ขี่อูฐเที่ยวทะเลทราย |
ขี่อูฐเที่ยวทะเลทราย |
|
|
กิจกรรมรอบกองไฟ ที่ Manvar Camp |
กิจกรรมรอบกองไฟ ที่ Manvar Camp |
|
เย็น- เดินทางถึงแคมป์ที่พักแรม เก็บของเข้าที่พัก
ขี่อูฐออกไปชมพระอาทิตย์ตก บนเนินทรายที่งดงาม สนุกสนานกับ กิจกรรมรอบกองไฟ กินอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
DAY 07 |
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
sand dune - jodhpur |
เดินทาง |
ประมาณ 110 กม. นั่งรถ 2-3 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Vivanta by Taj - Hari Mahal
(5 ดาว) , JODHPUR
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
โรงแรมสุดหรู ห้องพักสบาย
บริการประทับใจ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า
ออกเดินทางสู่เมืองโยธะปุระ (Jodhpur)
*ระยะทางประมาณ 265 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง
โยธะปุระ - นครนักรบ (Jodhpur) ถือเป็นเมืองเก่าแก่ของพวกราชบุตร เป็นต้นกำเนิดของอีกหลายราชวงศ์ เช่น ราชาแห่งบิคาเน่ย์ก็เคยเป็นเจ้าชายแห่งโยธะ ความเก่าทำให้เมืองนี้มีมนต์ขลัง เป็นศูนย์กลางของชาวราชสถานตั้งแต่อดีตกาลนานหลายร้อยปี
เที่ยง- ไปกินอาหารกลางวัน กันที่ร้านอาหาร
แล้วไปเที่ยวชม Mehrangarh Fort ป้อมปราการที่ยาวเหยียดข้ามเขาถึง 125 ลูก ภายในมีพระราชวังที่สวยงามและใหญ่ที่สุด และเป็นจุดชมวิวเมืองสีฟ้าที่ดีที่สุด ไม่มีป้อมปราการแห่งไหนในราชสถาน เด่นสง่าเทียบเท่า Mehrangarh fort แห่งเมืองโยธะปุระ มหาปราการหินถูกสร้างขึ้นบนเขาสูง 400 ฟุต ใน ค.ศ.1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกแก่มหาราชาโยธะ (Jodha - นักรบ) ว่าพระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่ โยธะปุระเป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งจนมีขนาดใหญ่มหึมา
|
|
|
เมืองสีฟ้า - Jodhpur |
ภายใน Mehrangarh fort - Jodhpur |
|
บ่ายถึงเย็น- ไปเที่ยวช้อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้าจากร้าน Anokhi Shop ผ้าฝ้ายพิมพ์ลายเก๋ไก๋ แล้วกลับเข้าสู่โรงแรม กินอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
DAY 08 |
วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
jodhpur - ranakpur |
เดินทาง |
ประมาณ 170 กม. นั่งรถ 3-4 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel King's Abode
(mountain resort) , Ranakpur
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
รีสอร์ทสวย เหมือนโอเอซิส กลางหุบเขา |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า
แล้วเดินทางต่อสู่ เมืองรานัคปุระ (Ranakpur)
*ระยะทาง 170 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
เที่ยง- เดินทางถึง รานัคปุระ (Ranakpur) เข้าสู่โรงแรม กินอาหารกลางวัน |
|
|
วัดเชนแห่งรานัคปุระ |
วัดเชนแห่งรานัคปุระ |
|
บ่าย- ไปเดินเที่ยวชม วัดเชน (Jain Temple)
วัดเชนแห่งรานัคปุระ คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งอินเดีย ก่อสร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบด้วยห้องโถงใหญ่น้อย 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นจะถูกแกะสลักลวดลายอย่างงดงามมาก คิดเป็นพื้นที่แกะสลักกว่า 3,000 ตารางเมตร ทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีเยี่ยม เมื่อสร้างวัดนี้จำเป็นต้องสร้างเมืองขึ้นมาเพื่อเป็นที่อาศัยของคนงานนับหมื่น เมืองดังกล่าวตั้งชื่อว่า "รานัคปุระ" เพื่อเป็นเกียรติแด่มหารานา แห่งราชอาณาจักรผู้อนุญาตให้สร้างวัด
ช่วงเย็น- กลับเข้าสู่โรงแรม กินอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย
|
|
DAY 09 |
วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
ranakpur - mt abu - udaipur |
เดินทาง |
ranakpur- mt abu 190 กม. นั่งรถ 3-4 ชม.
mt abu - udaipur 180 กม. นั่งรถ 3-4 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Trident Udaipur
(5 ดาว) , UDAIPUR
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
มีเสน่ห์ ตกแต่งสไตล์ราชาสถาน
พักให้สบาย ส่งท้ายแดนมหาราชา |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า เดินทางสู่เมืองเมาท์อาบู (Mount Abu)
*ระยะทาง 190 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
เมาท์อาบู (Mount Abu) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ ภูเขาราชาเทวะ ตั้งอยู่ที่ความสูงประมาณ 1,219 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นโอเอซิสที่ตั้งอยู่กลางท้องทะเลทราย และผืนดินอันรกร้างว่างเปล่าในดินแดนแห่งรัฐราชาสถาน ในครั้งประวัติศาสตร์ เมาท์อาบู ถูกเช่าโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของสหราชอาณาจักร จากมหาราชาผู้ครองแคว้น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของค่ายทหาร “ราชบุตร” จนถึงปี ค.ศ. 1947 ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบาย มีทะเลสาบงดงาม น้ำตกและป่าที่เขียวขจี ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนสำคัญในดินแดนราชาสถาน ความโดดเด่น และชื่อเสียงอีกอย่างของเมาท์อาบู คือ ความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ของวัดเชน ที่มีชื่อว่าวัด Jain Delwara ตามความเชื่อของผู้ที่นับถือศาสนาเชน เมาท์อาบู เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์และมีผู้แสวงบุญเดินทางมามากมาย
เที่ยง- เดินทางถึง เมาท์อาบู (Mount Abu) กินอาหารกลางวัน
แล้วไปเที่ยว วัดเชน Delwara มหาวิหารที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงดงาม วิจิตรพิสดาร เป็นวัดเก่าแก่อายุราว 1,000 ปี ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาเชน ใช้เวลาดื่มด่ำกับความงดงามให้เต็มอิ่ม *ที่นี่ห้ามถ่ายรูป และต้องถอดรองเท้า
|
|
|
วัดเชน Delwara - เมาท์อาบู |
วัดเชน Delwara - เมาท์อาบู |
|
เดินทางต่อสู่เมืองอุทัยปุระ (Udaipur)
*ระยะทาง 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
เย็นถึงค่ำ- ถึงอุทัยปุระ เข้าสู่โรงแรม กินอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
DAY 10 |
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
udaipur - chittor - udaipur |
เดินทาง |
ระยะทาง ไป-กลับ ประมาณ 230 กม.
นั่งรถไป 2 ชม. , นั่งรถกลับ 2 ชม.
รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว |
ที่พัก |
Hotel Trident Udaipur
(5 ดาว) , UDAIPUR
หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
มีเสน่ห์ ตกแต่งสไตล์ราชาสถาน
พักให้สบาย ส่งท้ายแดนมหาราชา |
|
|
|
06.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า
แล้วเดินทางไป เมืองจิตตอร์ (Chittor)
*ระยะทาง 115 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง
เมืองจิตตอร์ (Chittor) เคยเป็นราชธานีของอาณาจักรเมวาร์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอุทัยปุระไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ราว 115 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของ ป้อมจิตตอร์กาห์ (Chittorgarh Fort) อันยิ่งใหญ่ จนกระทั่งมหารานาอุทัย สิงห์ที่ 2 ตัดสินใจละทิ้งเมืองจิตตอร์ให้กับกองทัพของจักรพรรดิอัคบาร์แห่งราชวงศ์โมกุล และสร้างเมืองอุทัยปุระเป็นราชธานีแห่งใหม่ |
|
|
ป้อมจิตตอร์การห์ (Chittorgarh Fort) |
ป้อมจิตตอร์การห์ (Chittorgarh Fort) |
|
มหารานาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรเมวาร์ คือ มหารานา ประตาป สิงห์ (Pratap Singh) พระราชโอรสของ มหารานาอุทัย สิงห์ ที่ 2 พระองค์ได้รับการยกย่องในฐานะวีรบุรุษนักรบของอาณาจักรเมวาร์ เนื่องจากพยายามต่อสู้ในรูปแบบสงครามกองโจรกับกองทัพของจักรพรรดิอัคบาร์หลายต่อหลายครั้ง จนสามารถครองความเป็นรัฐอิสระมาได้อย่างยาวนาน กระทั่งปี ค.ศ.1736 จึงได้ตัดสินใจควบรวมเข้าเป็นสาธารณรัฐอินเดีย
เที่ยวชม ป้อมจิตตอร์กาห์ (Chittorgarh Fort)
เที่ยง- กินอาหารกลางวัน
เดินทางกลับเมืองอุทัยปุระ (Udaipur)
*ระยะทาง 115 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง
|
|
|
พระราชวัง City Palace ยามค่ำคืน |
City Palace มองจากทางทะเลสาบพิโครา |
|
อุทัยปุระ (Udaipur) เป็นเมืองที่กล่าวว่าสวยและโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบพิโคลา (Pichola Lake) รายล้อมด้วยขุนเขา อาคารเก่าแก่อายุหลายร้อยปีรวมตัวกันอยู่ริมทะเลสาบ และบางอาคารสร้างเป็นเกาะกลางน้ำกลายเป็นความแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในราชสถาน เมืองอุทัยปุระ (Udaipur) สร้างขึ้นราวกลางศตวรรษที่ 15 ตั้งชื่อเมืองตาม มหารานาอุทัย สิงห์ ที่ 2 (Maharana Udai Singh ll) ผู้สถาปนาเมือง ซึ่งเป็นมหารานาผู้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ซิโซเดีย (Sisodia ที่ครองอาณาจักรเมวาร์ (Mewar) มาอย่างต่อเนื่องหลายร้อยปี และเป็นราชวงศ์ที่นับได้ว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดในบรรดากลุ่ม เจ้าเชื้อสายราชบุตร ด้วยกัน ด้วยว่าไม่ยอมก้มหัวให้ผู้รุกรานต่างชาติ ทั้งยังสามารถยืนหยัดต่อสู้กับจักรวรรดิโมกุลได้อย่างยาวนาน
|
|
|
ล่องเรือเที่ยวทะเลสาบพิโครา - Udaipur |
Lake Palace ในทะเลสาบพิโครา |
|
ช่วงบ่าย เดินทางกลับถึงเมืองอุทัยปุระ (Udaipur)
บ่ายถึงเย็น- ไปล่องเรือใน ทะเลสาบพิโครา (Pichola lake) ชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบที่มีฉากเป็นมหาราชวัง ในยามเย็นแสงอาทิตย์กระทบวังที่ทำด้วยหินอ่อนเป็นสีทอง และสะท้อนให้เกิดภาพเงาในทะเลสาบสวยงามยามพลบค่ำ เมื่อตะวันลับเหลี่ยมเขาไป ทิ้งสีสันไว้ตามริ้วเมฆเหนือทะเลสาบ ชมท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ จนแสงหมด ไปเดินเล่น ช้อปปิ้งของที่ระลึก ชมทัศนียภาพ ยามค่ำคืนด้านหน้าพระราชวัง
ช่วงค่ำ- กลับเข้าสู่โรงแรม กินอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย
หมายเหตุ- คืนนี้เก็บกระเป๋า เตรียมขึ้นเครื่องในวันรุ่งขึ้น
เครื่องภายในประเทศ Air India น้ำหนักกระเป๋าได้คนละ 25 กิโลกรัม เท่านั้น
*ผู้ถือบัตรทอง ROP การบินไทย ได้น้ำหนักเพิ่มอีก ท่านละ 20 กิโลกรัม กรณีน้ำหนักเกิน ลูกทัวร์ต้องจ่ายค่าน้ำหนักเกินกันเอง ทางทัวร์จะไม่รับผิดชอบค่าน้ำหนักเกินให้
|
|
DAY 11 |
วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
เส้นทาง |
udaipur - mumbai |
เดินทาง |
ในเมือง - รถโค้ชปรับอากาศส่วนตัว
|
|
udr-bom นั่งเครื่องประมาณ 1 ชม 30 นาที |
|
รอต่อเครื่องกลับไทย ในสนามบินมุมไบ |
|
duty free shopping |
|
|
|
07.00 น. ตื่นกันแต่เช้า กินอาหารเช้า
เริ่มต้นวันใหม่กันที่ วัด Jagdish Temple เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุทัยปุระ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองเป็นอย่างยิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1651 |
|
|
สัญลักษณ์แห่งอุทัยปุระ |
Crystal Gallery พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้ว |
|
ไปเที่ยวชม พระราชวัง City Palace หรือ พระราชวังฤดูหนาว ซึ่งส่วนหนึ่งมีการดัดแปลงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ภายในประดับประดาด้วยกระจกและแก้วหลากสี นับเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นราชสถาน ปัจจุบันบางส่วนยังคงเป็นที่ประทับของราชตระกูล และมีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีค่ามากมาย
ไปเที่ยวชม Fateh Prakash Museum ไปดู Crystal Gallery พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วล้ำค่า ที่ถูกเก็บอยู่ในกล่องนับร้อยปีโดยไม่มีใครเปิดออกดู
แล้วเดินทางกลับโรงแรม เก็บกระเป๋า
เที่ยง- กินอาหารกลางวัน แล้วออกเดินทางไปสนามบิน
|
|
เที่ยวบิน |
ภายในประเทศ
|
AI644 |
สายการบิน AIR INDIA |
|
udaipur - mumbai |
|
เวลา 16.15-17.45 |
|
|
|
14.00 น. เช็คอินบัตรโดยสารและโหลดสัมภาระ
16.15 น. ได้เวลาเครื่องออก *ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม 30 นาที
17.45 น. ถึงสนามบินเมืองมุมไบ รับกระเป๋า ไปต่อเครื่องกลับกรุงเทพ
|
เที่ยวบิน |
ระหว่างประเทศ |
TG318 |
สายการบินไทย |
|
mumbai - bangkok |
|
เวลา 23.20-05.05 |
|
|
|
19.00 น. เช็คอินบัตรโดยสารและโหลดสัมภาระ
กินอาหารค่ำ ต่างคนต่างกินตามอัธยาศัย *ค่าอาหารมื้อนี้ ไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์
23.20 น. ได้เวลาเครื่องออก *ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. |
|
DAY 12 |
วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 |
|
|
05.05 น. ถึงสุวรรณภูมิ
กลับสู่อ้อมกอดของดินแดนมาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับมุมมองใหม่ๆ ในโลกใบเดิมที่แคบลงเสมอ เมื่อการเดินทางสิ้นสุด
สวัสดีเมืองไทย
จบโปรแกรมทัวร์-
|
|
หมายเหตุ- โปรแกรมการเดินทาง อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของช่วงเวลา และสถานการณ์เฉพาะหน้า |
|
|
|
ราคาทัวร์- 119,000 บาท
เงื่อนไข- ต้องการนอนเดี่ยว จ่ายเพิ่ม ท่านละ 35,000 บาท
ส่วนลดพิเศษ- (หักจากการจ่ายเงินงวดสุดท้าย)
มีวีซ่าอินเดียอยู่แล้ว หรือ ทำวีซ่าเอง ลดค่าวีซ่า 3,500 บาท
จองตั๋วการบินไทยเอง (ส่วนลดกรุณาโทรสอบถาม)
เคยเดินทางกับ วันแรมทาง ลด 1,000 บาท
ราคานี้รวม-
ค่าตั๋วเครื่องบิน
สายการบินไทยสมายล์ เส้นทาง Bangkok-Jaipur
สายการบินไทย Mumbai-Bangkok
สายการบิน Air India เส้นทาง Udaipur-Mumbai
ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ไทย-อินเดีย
ค่าวีซ่าอินเดีย *อายุวีซ่า 6-12 เดือน Multiple Entry
ค่าวีซ่า คิดราคาไว้ที่ 3,500 บาท
(จะขอเก็บค่าวีซ่าเพิ่มเติม หากสถานทูตฯ มีการปรับขึ้นราคาค่าวีซ่า)
อาหารมื้อหลักทุกมื้อ รวม ชา กาแฟ ของหวาน และผลไม้
ค่าน้ำดื่ม (น้ำเปล่าบรรจุขวด) วันละ 2 ลิตร ต่อคนต่อวัน
ที่พักโรงแรมตามที่ระบุ ห้องละ 2-3 ท่าน
ค่ารถปรับอากาศตลอดเส้นทาง
ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ (เฉพาะตามที่ระบุในโปรแกรม)
ค่าขี่อูฐ (ไม่รวมทิป)
ค่าล่องเรือในทะเลสาบพิโคลา อุทัยปุระ
ค่าบัตรเข้าชม Crystal Gallery อุทัยปุระ
ค่าบริการ หัวหน้าทัวร์คนไทย (ไม่รวมทิป)
ค่าบริการ ไกด์ท้องถิ่น
ประกันอุบัติเหตุ- CHARTIS New Hampshire Insurance
วงเงิน 2,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท
เงื่อนไข- ภายใต้ข้อตกลงที่มีไว้กับบริษัทประกันชีวิต
ครอบคลุมเฉพาะกรณีอุบัติเหตุ ไม่ครอบคลุมกรณี เจ็บป่วย เป็นไข้หวัด ท้องเสีย หรือ อาหารเป็นพิษ ระหว่างเดินทาง
ราคานี้ไม่รวม-
ค่าอาหารมื้อเย็น วันสุดท้ายที่สนามบินมุมไบ
ค่ากล้องถ่ายรูป และ ค่ากล้องวีดีโอ ซึ่งเรียกเก็บเป็นบางสถานที่
ค่าทิป หัวหน้าทัวร์คนไทย
ค่าทิป ทีมงานอินเดีย ไกด์ท้องถิ่น คนขับรถ เด็กรถ
ค่าทิป เด็กยกกระเป๋าที่โรงแรม
ค่าทิป คนจูงอูฐ
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ
ค่าทิป- (ให้ในวันสุดท้าย ของการเดินทาง)
ทีมงานอินเดีย (ไกด์ท้องถิ่น คนขับรถ เด็กรถ)
เผื่อเงินไว้ประมาณ 2,000 รูปี หรือ 1,000 บาท สำหรับ 10 วัน ในอินเดีย
เด็กยกกระเป๋า ควรให้ไม่ต่ำกว่า 20 รูปี ต่อครั้ง
หัวหน้าทัวร์คนไทย แล้วแต่ความพอใจ
การชำระเงิน
1) จ่ายมัดจำ จำนวน 20,000 บาท จ่ายทันทีที่จอง
2) จ่ายงวดแรก จำนวน 49,500 บาท จ่ายภายในวันที่ 9 สิงหาคม 2561
3) จ่ายส่วนที่เหลือ จำนวน 49,500 บาท จ่ายภายในวันที่ 9 กันยายน 2561
เงื่อนไขการให้บริการ
จองล่วงหน้าตามช่วงเวลาที่กำหนด ชำระเงินตามเงื่อนไขข้างต้น
ขอยกเลิกการเดินทาง ยึดเงินมัดจำ และหักค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง และ/หรือ ขอยกเลิกการเดินทาง น้อยกว่า 30 วัน เก็บค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน เมื่อท่านออกเดินทางกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง เช่น ไม่เที่ยวบางรายการ ไม่ทานอาหารบางมื้อ หรือไม่เดินทางพร้อมคณะ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืนได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น กรณีที่การตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศในรายการเดินทาง หรือ กรณีความล่าช้าจากสายการบิน การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล ทางเราขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อท่านตกลงชำระเงิน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ระบุไว้แล้วทั้งหมด
|
ขั้นตอนง่ายๆในการจองทริปกับเรา |
|
1 |
2 |
3 |
4 |
คลิกเพื่อจองทริป |
คลิกตรวจรายชื่อ |
คลิกเพื่อโอนเงิน |
คลิกเพื่อส่งเอกสาร |
|
|
|
|
|
|
|
|
คำแนะนำ |
เตรียมของ |
เตรียมของ |
ฝากแลกเงิน |
จองโรงแรม |
|
|
|
|
|
|
ถ้ามีปัญหาสั่งพิมพ์ไม่ได้ กรุณาโทรแจ้ง 024054561, 0816928233
หรือส่ง email แจ้งขอโปรแกรมได้ที่ info@wanramtang.com |
|
|
|
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ |
ที่อยู่ |
|
|
บ้านวันแรมทาง
1/60 ซ. อนามัยงามเจริญ 12 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ 10150
|
โทรศัพท์ |
024054561 |
แฟกซ์ |
024054560 |
มือถือ - ปลา |
0898119139 (AIS) |
มือถือ - นุ้ย |
0816928233 (DTAC) |
Email |
info@wanramtang.com และ wanramtang@hotmail.com |
Line ID/โทรศัพท์ |
wanramtang3 / 0876997475 |
|
|
วันทำงาน |
วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.
|
วันเสาร์ เวลา 09.00-12.00 น. |
วันอาทิตย์ หยุดงาน งดการติดต่อทุกเรื่อง |
ถ้าไม่รับสายหรือโทรไม่ติด กรุณาส่งเป็นข้อความ sms ส่ง email หรือ Line |
|
|
หรือติดต่อผ่านระบบอัตโนมัติ ด้านล่างนี้ |
|
|